xs
xsm
sm
md
lg

“อรรถพล ใหญ่สว่าง” มือทำคดียุบพรรค ทรท.-ปชป.นั่งตำแหน่งอัยการสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายอรรถพล ใหญ่สว่าง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุดคนใหม่
“อรรถพล ใหญ่สว่าง” อดีตอธิบดีอัยการคดีพิเศษ ทำคดียุบไทยรักไทย-ปชป. นั่งเก้าอี้อัยการสูงสุดต่อจาก “จุลสิงห์ วสันตสิงห์” เตรียมเสนอวุฒิสภาให้ความเห็นชอบภายใน 30 วัน

ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการ ถ.แจ้งวัฒนะ วันนี้ (9 ส.ค.) นายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อัยการสูงสุด ในฐานะประธานคณะกรรมการอัยการ หรือ ก.อ. ได้นัดประชุมครั้งที่ 6/2556 โดยมีวาระพิจารณาลงมติเลือกอัยการสูงสุดคนใหม่ แทนนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ ที่จะเกษียณราชการในวันที่ 30 ก.ย. 2556 ซึ่งมีคณะกรรมการอัยการร่วมประชุมจำนวนทั้งสิ้น 15 คน

โดยการพิจารณาเลือกอัยการสูงสุดคนใหม่ พบว่า สำหรับตำแหน่งรองอัยการสูงสุด 6 คน คงมีนายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด ลำดับที่ 2, นายตระกูล วินิจนัยภาค รองอัยการสูงสุดลำดับที่ 4 และนายวุฒิพงศ์ วิบูลย์วงศ์ รองอัยการสูงสุด ลำดับที่ 6 ที่อายุราชการยังไม่ครบเกษียณ โดยนายอรรถพลดำรงตำแหน่งรองอัยการสูงสุดที่มีอาวุโสสูงสุด ในจำนวน 3 คน

ทั้งนี้ ที่ประชุม ก.อ.ทั้ง 15 คน พิจารณาคุณสมบัติแล้ว ลงมติเอกฉันท์เลือก นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด ลำดับที่ 2 ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วน แต่งตั้งเป็นอัยการสูงสุดคนที่ 11 ขณะที่ตามรัฐธรรมนูญฯ ปี 2550 มาตรา 255 บัญญัติให้ ก.อ. เสนอมติแต่งตั้งอัยการสูงสุดให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ โดยให้ประธานวุฒิสภาเป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งอัยการสูงสุดต่อไป โดย ก.อ.ต้องเสนอมติแต่งตั้งให้วุฒิสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบทันก่อนวันที่ 1 ต.ค. 2556 ปีงบประมาณใหม่ ซึ่งภายหลังเสนอวุฒิสภาแล้วจะพิจารณาคุณสมบัติของบุคคลนั้นว่าเหมาะสมหรือไม่ โดยจะต้องมีการลงคะแนนโหวต ซึ่งหากวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบก็จะส่งรายชื่อกลับมาให้ ก.อ.พิจารณาดำเนินการเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมใหม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอรรถพล ใหญ่สว่าง รองอัยการสูงสุด ที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นอัยการสูงสุด เกิดเมื่อวันที่ 22 ธ.ค. 2493 อายุ 63 ปี โดยเหลืออายุราชการที่ดำรงตำแหน่งอัยการสูงสุด 2 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะนิติศาสตร์ (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และปริญญาโทจากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เช่นเดียวกัน และได้รับปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จาก ม.รามคำแหง รวมทั้งจบหลักสูตรเนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งชาติเนติบัณฑิต นอกจากนี้ยังได้เข้าร่วมหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่น 17, วิทยาลัยการเมืองการปกครอง สถาบันพระปกเกล้า รุ่น 13, สถาบันวิทยาการตลาดทุน รุ่น 13 และหลักสูตรนักบริหารระดับสูง รุ่น 24

นายอรรถพลได้เข้ารับราชการตำแหน่งอัยการเมื่อปี 2518 ซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้รับความเจริญก้าวหน้าในตำแหน่งอัยการมาโดยตลอด โดยได้ดำรงตำแหน่งสำคัญ เช่น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ เมื่อปี 2546-2548 ซึ่งได้ร่วมพิจารณาคดีสำคัญๆ เช่น คดีของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) รวมทั้งคดียุบพรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมทั้งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดในช่วงดังกล่าว ก่อนเป็นอธิบดีอัยการสำนักงานคณะกรรมการอัยการ (ก.อ.) เมื่อปี 2548-2549 และได้ขึ้นเป็นผู้ตรวจราชการอัยการ และหัวหน้าผู้ตรวจราชการอัยการ เมื่อปี 2550-2552 กระทั่งเป็นรองอัยการสูงสุด เมื่อปี 2552
กำลังโหลดความคิดเห็น