“สงกานต์” หอบหลักฐานส่งให้ดีเอสไอเพิ่มเติมเอาผิด “สมีคำ” หลังได้ข้อมูลหลักฐานจากหญิงไทยในต่างแดน ปูดลูกศิษย์เตรียมนำจีวรและเครื่องใช้ส่วนตัวของ “โล้นนอกรีต” มามอบให้เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (5 ส.ค.) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณี นายวิรพล สุขผล หรืออดีตพระวิรพล ฉัตติโก หรือหลวงปู่เณรคำ ติดต่อขอเข้ามอบตัวกับดีเอสไอว่า นายสุกิจ พูนศรีเกษม ทนายความอดีตพระวิรพล ยืนยันว่านายวิรพลจะเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ดีเอสไอ ในวันที่ 8 ส.ค.นี้อย่างแน่นอน โดยขณะนี้นายวิรพล ได้เดินทางออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาพักที่ประเทศลาว และได้นัดหมายว่าจะเข้าประเทศไทยผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดหนองคาย ส่วนเวลาอยู่ระหว่างการประสานงาน ในวันดังกล่าวดีเอสไอจะส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัวที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย จากนั้นจะนำนายวิรพล มายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม.
อธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ตนจะเป็นผู้รับมอบตัวนายวิรพล ด้วยตัวเองตามที่ตกลงในเงื่อนไขการขอเข้ามอบตัว จากนั้นพนักงานสอบสวนจะดำเนินการตามขั้นตอนการดำเนินคดี คือ สอบปากคำ พิมพ์ลายนิ้วมือ ทำประวัติ แจ้งข้อกล่าวหา จากนั้นจะเป็นการพิจารณาการขอประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว ซึ่งหลักเกณฑ์การขอประกันตัวจะใช้มาตรฐานของศาลฎีกา ที่ระบุว่าเงินประกันตามอัตราโทษ คือ โทษ 1 ปี เงินขอประกันตัว 100,000 บาท ทั้งนี้โทษของนายวิรพล มีอัตราโทษสูงสุด 20 ปี จึงให้วางเงินประกัน 2 ล้านบาท โดยดีเอสไอได้ระบุเงื่อนไขเพิ่มเติม 3 ข้อ ประกอบด้วย ห้ามออกนอกประเทศ ห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และห้ามทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการทำงานของเจ้าพนักงาน โดยมีดีเอสไอหลักในการทำงาน กรณีผู้ถูกกล่าวหาติดต่อเข้ามอบตัวดีเอสไอจะให้ประกันตัวทุกราย
ต่อมาเมื่อเวลา 15.00 น.วันเดียวกัน นายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์ ประธานเครือข่ายต่อต้านการบ่อนทำลายชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เข้าพบ พ.อ.ชัชนันท์ เมธีธรรมาภรณ์ รอง ผบ.สำนักคดีความมั่นคง ดีเอสไอ และ นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ หัวหน้าศูนย์ข้อมูลและวิเคราะห์คดีความมั่นคง ดีเอสไอ เพื่อมอบหลักฐานเพิ่มเติมกรณีมีหญิงชาวไทยในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ แจ้งข้อมูลผ่านทางเฟซบุ๊กอ้างว่าพระเณรคำได้เรี่ยไรเงินเพื่อนำไปก่อตั้งธนาคารสงฆ์ ทั้งนี้ นางหนึ่งฤทัย งามวิไล ให้สัมภาษณ์ทางไกลจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าตนได้เข้าไปวัดฟรองซ์ บุดดิส อินเตอร์เนชันแนล เจนีวา เพื่อสอบถามเรื่องจะนั่งสมาธิ พบพระ 3 รูป โดยมีอดีตพระเณรคำนั่งอยู่ด้วย ตนก็นั่งคุยไปเรื่อยๆ จนอดีตพระเณรคำพูดขึ้นว่าอยากได้เสื้อกันหนาว ซึ่งสวยมากราคา 3,200 เหรียญยูโร เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. 56 เวลา 16.00 น.จากนั้นบอกว่ามาศึกษากฎหมายในประเทศแถบยุโรปเพื่อจัดตั้งเป็นองค์กรอิสระเพื่อจัดตั้งเป็นธนาคารสงฆ์โลก ซึ่งตนไม่ได้ทำบุญตั้งแต่ได้ยินอดีตพระเณรคำพูดเรื่องเสื้อกันหนาว ส่วนเพื่อนตนที่ไปด้วยตั้งข้อสงสัยกับอดีตพระเณรคำว่าเป็นพระใส่แว่นได้ด้วยเหรอ แดดก็ไม่มี ไม่เหมือนเมืองไทยเลย ส่วนวัตถุประสงค์ตั้งธนาคารโลก บอกว่าจะไปช่วยเหลือพระที่อยู่ในต่างประเทศ และยังได้เรี่ยไรเงินเพื่อไปสร้างพระแก้วมรกต พร้อมมีการพูดเชิญชวนเพื่อให้บริจาคทองคำโดยอ้างว่าจะไปสร้างชฎา
นางหนึ่งฤทัยกล่าวต่อว่า ผู้ที่จะเข้าพบอดีตพระเณรคำจะต้องนำเงินใส่ซองโดยระบุว่าต้องใส่ซอง 150 ยูโรเท่านั้น ถึงจะได้เข้าพบ
นายสงกานต์กล่าวว่า ตนได้นำหลักฐานที่ได้รับแจ้งมามอบให้ดีเอสไอว่า อาม่าที่มีข่าวทำประกันชีวิตให้อดีตพระเณรคำเป็นใคร นอกจากนี้ในวันพุธทางลูกศิษย์ใกล้ชิดอดีตพระเณรคำได้ติดต่อจะมอบจีวร และวัตถุมงคลของอดีตพระเณรคำมอบให้ตน เพื่อนำมาส่งต่อให้ดีเอสไอดำเนินการตรวจดีเอ็นเอ เพราะลูกศิษย์เห็นว่าเป็นหนทางที่จะพิสูจน์ว่าเป็นไปตามที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ ส่วนข่าวอดีตพระเณรคำจะกลับมามอบตัวดีเอสไอตนไม่ค่อยเชื่อ