อธิบดีดีเอสไอฟ้องกลับ “บัญญัติ” จ่อร้องทุกข์กองปราบปราม 5 สิงหาฯ นี้ อ้างเป็นข้าราชการประจำเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหน้าที่ตรงไปตรงมา กลับถูกนักการเมืองอาศัยเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมืองและพรรคการเมืองเก่าแก่รังแก ชี้ต้องดำเนินคดีกลับเพื่อปกป้องชื่อเสียงตนเองและดีเอสไอ
วันนี้ (31 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงกรณีที่นายบัญญัติ บรรทัดฐาน ไปร้องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำของคณะกรรมการคดีพิเศษ และนายธาริต ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการคดีพิเศษ และหัวหน้าพนักงานสอบสวน และ พ.ต.อ.นิรันดร์ อดุลยาศักดิ์ หัวหน้าคณะทำงานสอบสวนและคณะทำงานสวบสวนคดี รวมถึงพนักงานอัยยการที่เข้าร่วมการสอบสวนกับคณะทำงานสอบสวน ว่ากระทำผิดต่อมาตรา 157 หรือไม่ว่า วันนี้ตนได้รายงานต่อคณะกรรมการคดีพิเศษเพื่อทราบเท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ดีเอสไอได้แจ้งนายบัญญัติ ให้ทราบว่าคณะกรรมการคดีพิเศษไม่สามารถเพิกถอนคดีพิเศษเรื่อง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ บริจาคเงินให้พรรคโดยไม่ได้ออกเช็คขีดคร่อมแล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนได้ปรึกษาหารือในคณะผู้บริหารดีเอสไอแล้ว ซึ่งตนจะใช้สิทธิ์ในฐานะเจ้าพนักงานที่ถูกละเมิดทางกฏหมาย และเราก็จำเป็นต้องป้องกันสิทธิของเราเองแล้วก็ไม่ให้ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชังจากบุคคลทั่วไป เพราะฉะนั้นก็จะไปแจ้งความร้องทุกข์ที่กองปราบในวันที่ 5 ส.ค.เวลา 14.00 น.ด้วยตนเอง เพื่อดำเนินคดีต่อนายบัญญัติและพวก ในข้อหา 3 ฐานความผิดด้วยกัน คือ ความผิดฐานแจ้งข้อความต่อพนักงานอันเป็นเท็จ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่ ขัดขวางการปฏิบัติของเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการไปตามหน้าที่
“ผมคิดว่าเรื่องนี้คุณบัญญัติกับพวกมีความพยายามที่จะกดดันพนักงานสอบสวนให้ยุติคดีหรือสั่งไม่ฟ้อง โดยอาศัยความเป็นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง อาศัยความเป็นพรรคการเมืองใหญ่ อยากเรียนว่าผมและพวกเราเจ้าหน้าที่ทำงานตามปกติ เราเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและผู้รักษากฏหมาย และเป็นข้าราชการประจำ อยากใช้คำว่าเมื่อพวกเราถูกล่วงละเมิดทางกฎหมาย หรือรังแกขนาดนี้ เราก็อยู่เฉยไม่ได้ จำเป็นต้องป้องกันสิทธิ ขอใช้สิทธิตามกฎหมายเพื่อต่อสู้ในแนวทางที่ถูกต้อง” นายธาริตระบุ
สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้ กรณีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน และคณะ มีหนังสือฉบับลงวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 ถึงประธานและคณะกรรมการคดีพิเศษ เรื่องขอให้พิจารณาใหม่ (กรณีขอให้คณะกรรมการมีมติเพิกถอนมติการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษครั้งที่ 5/2555 เมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2555 และมติในการประชุมอื่นใดอันเกี่ยวกับการมีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษรับคดีพิเศษที่ 162/2555 และคดีพิเศษที่ 163/2555) ซึ่งกรณีดังกล่าวคณะกรรมการคดีพิเศษได้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งความเห็นคณะกรรมการกฤษฎีกา คณะที่ 11 (เรื่องเสร็จที่ 101/2548) ที่วินิจฉัยอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคดีพิเศษว่าไม่มีบทบัญญัติให้อำนาจคณะกรรมการคดีพิเศษเพิกถอนมติที่ออกตามมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติการสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 ให้ผู้ร้องทราบแล้ว ซึ่งมีมติให้กรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งให้ผู้ร้องทราบอีกครั้งหนึ่ง