สมุทรปราการ-ตม.สุวรรณภูมิจับกุมบุคคลตามหมายจับคดีค้ามนุษย์ก่อนเดินทางออกนอกประเทศ
เมื่อเวลา 17.30น.วันที่ (26 ก.ค.) พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.ตม.2 พ.ต.อ.วิฑูรย์ เดโช ผกก.สส.ปป. บก.ตม2 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ปป.บก.ตม2และเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปคม.ร่วมกันแถลงผลการจับกุมบุคคลตามหมายจับของบก.ปคม.คือน.ส.ผุศดี ดวงจันทร์ อายุ 45 ปี ชาวจ.นครราชสีมา ในข้อหาสมคบโดยตกลงกันตั้งแต่2คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดฐานค้ามนุษย์โดยแสวงหาประโยชน์จากการบังคับใช้แรงงานหรือบริการและกระทำการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคล ไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ตามพ.ร.บ.การค้ามนุษย์ โดยจับกุมได้ภายในอาคารผู้โดยขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
พล.ต.ต.สุวิชญ์พล อิ่มใจรัชต์ ผบก.ตม.2 กล่าวว่า ได้รับการประสานจากตำรวจบก.ปคม.ว่าจะมีหญิงไทยซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับของบก.ปคม.ที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ เดินทางออกนอกประเทศ โดยก่อนหน้านี้มีหญิงไทยจำนวน 2 คนอายุระหว่าง30-40 ปี มาแจ้งความที่บก.ปคม.ว่า ได้ถูกน.ส.ผุศดี ดวงจันทร์ ซึ่งเป็นเจ้าของร้านนวดสปา ที่มาเลเซีย กักขังหน่วงเหนี่ยวและบังคับให้ใช้แรงงาน ระหว่างที่ทำงานที่ร้าน ก่อนที่ผู้เสียหายทั้ง2 คนจะหลบหนีกลับมาประเทศและเข้าแจ้งความ
จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามจับกุม จนกระทั่งพบน.ส.ผุศดี ดวงจันทร์ เตรียมเดินทางไปประเทศบรูไน ด้วยสายการบินรอยัลบรูไน (ROYAL BRUNEI) เที่ยวบินที่BI 516 ตรงตามลักษณะที่ทาง บก.ปคม.แจ้งมา จึงเชิญตัวมาสอบสวน พร้อมทั้งระงับการเดินทางออกนอกประเทศ และแจ้งว่าน.ส.เป็นบุคคลตามหมายจับของศาลอาญาเลขที่ 1282/2556ลงวันที่ 25 ก.ค.2556 ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปคม.มารับตัว
ด้านน.ส.ผุศดี ให้การยอมรับว่า ได้เปิดร้านนวดสปาที่รัฐซาราวัก ประเทศมาเลเซียกับสามี โดยเปิดธุรกิจนี้มาเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว และเพิ่งจ้างพนักงานชาวไทยให้ไปทำงานด้วยราว2ปี แต่ให้การปฎิเสธว่า ไม่เคยบังคับหรือกักขังหน่วงเหนี่ยวพนักงานให้ใช้แรงงานแต่อย่างใด เพียงแต่จะมีข้อตกลงกันก่อนเดินทางไปทำงานที่ร้าน ว่าร้านของตนจะออกค่าใช้จ่าย ทั้งตั๋วเครื่องบิน วีซ่าการทำงานในมาเลเซียให้ก่อน รวมเป็นเงิน 80,000 บาทและทุกคนที่ไปก็ต้องทำงานแลกค่าแรงจนครบที่จ่ายให้ จากนั้นจะทำงานต่อหรือกลับ ตนก็ยินดีแต่ถ้าหากทำงานต่อก็จะได้รายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า18,000บาท ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาและดำเนินการเปิดอย่างถูกต้องไม่มีเรื่องการขายบริการทางเพศเพราะพนักงานที่ร้านจะต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพนวดแผนไทยทุกคน รวมถึงร้านยังเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในมาเลเซีย ครั้งนี้จึงไม่เข้าใจว่าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อย่างไร ทั้งที่กำลังเตรียมตัวกลับประเทศเพื่อไปดูแลร้านที่กำลังปรับปรุงอยู่ในขณะนี้
เบื้องต้นทางบก.ตม.2ได้ส่งตัวน.ส.ผุศดี ดวงจันทร์ ให้กับ พงส.บก.ปคม.เพื่อดำเนินการสอบสวนและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป