บช.น.เร่งล่าอดีต นศ.อาชีวะย่านฝั่งธนบุรี ก่อเหตุปาระเบิดปิงปองใส่รถเมล์สาย 101 ขณะวิ่งรับส่งผู้โดยสารอยู่บริเวณปากซอยท่าพระ 14 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีนักเรียนอาชีวะก่อเหตุปาระเบิดใส่คู่อริบนรถโดยสารประจำทางสาย 101 เมื่อเย็นวานนี้ (17 ก.ค.) ที่ผ่านมา เหตุเกิดท้องที่ สน.ตลาดพลู ว่าพนักงานสอบสวนได้นำตัวพยานและกลุ่มนักศึกษาที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดไปสอบปากคำแล้วกว่า 50 คน ทราบว่าหนึ่งในคนร้ายที่ก่อเหตุเป็นอดีตนักศึกษาสถาบันมีชื่อย่านฝั่งธนฯ ที่จบไปแล้วเป็นคนปาระเบิดใส่รถโดยสาร ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับผู้ต้องหาแล้ว และยืนยันจะสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้เพราะเป็นการกระทำที่อุกอาจ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (17 ก.ค.) เมื่อเวลา 17.00 น. พ.ต.ท.ธนูพล จินตาคม สวป.สน.ตลาดพลู รับแจ้งมีเหตุวัยรุ่นก่อเหตุทะเลาะวิวาท และปาระเบิดใส่รถประจำทางสาธารณะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุพบรถเมล์โดยสารของ ขสมก.สีครีม-แดง สาย 101 ทะเบียน กท 11-8687 กรุงเทพมหานคร เลขข้างรถ 6-50106 วิ่งระหว่างพุทธมณฑลสาย 2-ตลาดบางปะแก้ว จอดติดเครื่องอยู่ก่อนถึงป้ายรถเมล์ใกล้เคียงปากซอยรัชดาท่าพระ 14 แขวงตลาดพลู เขตธนบุรี เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นพบบริเวณเบาะนั่งท้ายรถมีคราบเลือด และเศษกระจกแตกตกเกลื่อน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 5 คน ถูกสะเก็ดระเบิดตามแขนและลำตัวบาดเจ็บทั่วร่าง เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง อีกทั้งภายในรถยังพบกลุ่มนักเรียนของเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง จำนวน 58 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวเด็กนักเรียนทั้งหมดให้ลงมาจากรถ และทำการตรวจค้นพบอาวุธมีดสปาต้า จำนวน 11 เล่ม แต่ไม่มีใครรับว่าเป็นเจ้าของ จึงควบคุมตัวไปทำประวัติก่อนแจ้งให้อาจารย์ฝ่ายปกครองมารับตัวกลับ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นักเรียนของเทคโนโลยีแห่งหนึ่งกำลังโดยสารรถเมล์คันดังกล่าวเพื่อกลับบ้าน ได้มีกลุ่มจักรยานยนต์ของนักเรียนวิทยาลัยเทคโนโลยีคู่อริจำนวน 5-6 คันขับขี่มาด้านข้าง เมื่อพบว่าบนรถเมล์มีกลุ่มนักเรียนคู่อริอยู่จึงได้ขว้างปาระเบิดปิงปองเข้ามาที่หน้าต่างแต่ระเบิดติดที่ขอบหน้าต่างด้านหลังบานสุดท้าย และเกิดการระเบิดขึ้นทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าตำรวจเร่งสืบหาพยานที่เห็นเหตุการณ์ และประสานขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง เพื่อตามตัวผู้ลงมือก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป