ลูกศิษย์เณรคำเผา จยย.ประท้วงหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ พร้อมชูป้ายประท้วงการทำหน้าที่อ้างหลวงปู่เณรคำถูกลั่นแกล้ง พบมีประวัติป่วยด้วยโรคซึมเศร้า
วันนี้ (18 ก.ค.) ร.ต.อ.วิทยา คงทอง พงส.สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งเหตุมีผู้จุดไฟเผาจักรยานยนต์บริเวณทางเข้าด้านหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และสายตรวจ
ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกท่วมจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีขาว-ดำ ทะเบียน คกท 481 อุบลราชธานี ใกล้ๆ กันมีชายสวมเสื้อเชิ้ตขาว กางเกงสแล็กสีดำ ยืนชูป้ายกระดาษมีข้อความ เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่หลวงปู่เณรคำ ระบุว่าหลวงปู่ถูกใส่ร้าย ส่งผลให้การจราจรบนถนนแจ้งวัฒนะ และหน้าตึกดีเอสไอติดขัดต่อเนื่อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ รปภ.ประจำดีเอสไอได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงฉีดจนเพลิงดับ แต่จักรยานยนต์ก็วอดเสียหายหมดทั้งคัน จึงได้ควบคุมตัวชายดังกล่าวพร้อมซากจักรยานยนต์มาสอบสวนที่ สน.ทุ่งสองห้อง
จากการสอบสวนชายดังกล่าวทราบชื่อ นายสุพรรณ ก้อนหิน อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209 ม.16 ต.กลาง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี โดยอ้างว่าตนเองเป็นลูกศิษย์ที่มีความศรัทธาในคำสอนของหลวงปู่เณรคำ เนื่องจากเคยได้ฟังเทศน์เมื่อ 2 ปีก่อนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 2 โดยเมื่อช่วงเช้าได้พยายามขอเข้ายื่นหนังสือเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้หลวงปู่เณรคำ ที่ชั้น 3 อาคารดีเอสไอ แต่เจ้าหน้าที่ดีเอสไอได้แต่รับหนังสือร้องเรียนเอาไว้ พร้อมแจ้งให้ตนเดินทางกลับไป ทำให้ตนเกิดความไม่พอใจ
จากนั้นตนจึงออกมาที่หน้าถนนพร้อมเดินไปชูป้ายประท้วงที่เขียนข้อความว่า “มีคนใส่ร้ายหลวงปู่เณรคำ”, “ขอความเป็นธรรมให้หลวงปู่เณรคำ” ก่อนจะเปิดฝาถังน้ำมันรถจักรยานยนต์และจับรถนอนตะแคงให้น้ำมันไหลออกมา ก่อนจะจุดไฟเผา และก็โยนกระเป๋าเป้ของตนเข้าไปเผารวมไปด้วยจนเสียหายหมดทั้งคัน ทั้งนี้ ตนไม่ได้มีการเตรียมการหรือตั้งใจจะมาเผารถประชดแต่อย่างใด แต่เกิดจากความไม่พอใจที่ทางดีเอสไอ ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องที่ตนมาร้องของความเป็นธรรมดังกล่าว
สำหรับการตรวจสอบประวัติของนายสุพรรณ พบว่าปัจจุบันยังไม่มีงานทำ โดยพักอยู่กับพี่สาวที่ย่านมหาวิทยลัยรามคำแหง 2 นอกจากนี้ยังพบว่ามีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าอย่างรุนแรง โดยรับการรักษาตัวอยู่กับ รพ.มโนรมย์ บางนา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ทำการตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด ก่อนจะติดต่อพี่สาวของนายสุพรรณให้นำหลักฐานการรักษาตัวมาแสดง โดยหากทางแพทย์ยืนยันว่าเป็นผู้มีอาการป่วยทางจิตก็จะไม่ต้องถูกดำเนินคดี