xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจหัวหมากฝากขัง 2 ผู้ต้องหาบึ้มหน้ารามฯ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายอิดริส สะตาปอ ชาว จ.นราธิวาส อายุ 24 ปี และ นายอัฟฟาฮัม สะอะ อายุ 24 ปี ชาว จ.ปัตตานี (เสื้อเขียว)
พนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก นำตัวสองผู้ต้องหาขออำนาจศาลอาญา รัชดา ฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว กลัวหลบหนี และเป็นคดีอุกอาจมีโทษหนัก

ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 ก.ค. พ.ต.ท.โกเมน สุภาพ พนักงานสอบสวนสน.หัวหมาก ได้ควบคุมตัว นายอัฟฟาฮัม สะอะ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 65 ต.ตะลุบัน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี และ นายอิดริส สะตาปอ อายุ 24 ปี บ้านเลขที่ 18 หมู่ 4 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาคดีวางระเบิดแสวงเครื่อง หน้าร้านทำผมออกัส ปากซอยรามคำแหง 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.มาฝากขังครั้งแรกต่อศาลอาญา มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค.-27 ก.ค.2556 โดยชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

คำร้องระบุพฤติการณ์ว่าเมื่อวันที่ 26 พ.ค.2556 เมื่อเวลา 20.40 น.นายอัฟฟาฮัม ผู้ต้องหาที่ 1 และนายอัดริส ผู้ต้องหาที่ 2 ได้ร่วมกับ นายคัมคีร์ ลาเต๊ะ, นายอิลรอเฮ็ง แวแม และ นายฮาเล็ม มะลี ทำการประกอบวัตถุระเบิดและนำไปวางไว้บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าร้านทำผมออกัส ใกล้ปากซอยรามคำแหง 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม.จนเกิดระเบิดขึ้นจำนวน 1 ครั้ง เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 ราย และมีร้านค้าแผงลอย อาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหายรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 402,000 บาท หลังเกิดเหตุระเบิดผู้ต้องหาทั้งหมดพากันหลบหนีไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับนายอัฟฟาฮัม ผู้ต้องหาที่ 1 นายอิดริส ผู้ต้องหาที่ 2 กับพวกรวม 5 คน ไว้แล้ว

ต่อมาเมื่อวันที่ 15 ก.ค.2556 เมื่อเวลา 11.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกันจับกุม นายอัฟฟาฮัม สะอะ ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญา ที่ จ.1216/2556 และ นายอิดริส สะตาปอ ผู้ต้องหาที่ 2 ตามหมายจับของศาลอาญา พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, กระทำให้เกิดระเบิดจนน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่น หรือทรัพย์ของผู้อื่นและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำและมีวัตถุระเบิด (ระเบิดแสวงเครื่อง) ที่นายทะเบียนจะออกใบอนุญาตให้ไม่ได้ ไว้ในครอบครองโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร

ท้ายคำร้องระบุว่า เนื่องจากพนักงานสอบสวน สน.หัวหมาก ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง จะครบ 48 ชั่วโมงแล้ว แต่การสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น เนื่องจากรอสอบปากคำพยานอีก 9 ปาก รอผลตรวจพิสูจน์ของกลาง ผลการตรวจชันสูตรบาดแผล และผลการตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมือและประวัติต้องโทษผู้ต้องหา มาประกอบสำนวนการสอบสวน และขอคัดค้านการประกันตัว เกรงว่าหากให้ประกัน ผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี อีกทั้งเป็นการกระทำความผิดที่อุกอาจ เป็นคดีร้ายแรง มีอัตราโทษสูง ประกอบกับเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งศาลพิจารณาแล้วอนุญาตให้ฝากขังได้ตามคำร้อง

กำลังโหลดความคิดเห็น