รวบแก๊งมาเลย์ปลอมบัตรเครดิตรูดซื้อสินค้าแบรนด์เนมคาห้างหรู

ตำรวจท่องเที่ยวจับกุมแก๊งผู้ต้องหาชาวมาเลเซีย ปลอมแปลงบัตรเครดิตรูดปรื๊ดซื้อของแบรนด์เนมหลายรายการคาห้างสรรพสินค้าพารากอน สารภาพนำบัตรปลอมจากประเทศบ้านเกิด โดยนำข้อมูลบัตรเครดิตที่ซื้อมาจากสหรัฐอเมริกามาตระเวนก่อเหตุในเมืองไทย!

วันนี้ (11 ก.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น.ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.ปัญญณิชช์ ทองขุนนา พ.ต.ท.บรรพต เดชมา รอง ผกก.1 บก.ทท.พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.และนายศิริชัย สถิตชัยไพศาล เจ้าหน้าฝ่ายบริหารการเสี่ยงด้านปฎิบัติการการทุจริต สายงานบริหารความเสี่ยงองค์กร ธนาคารกสิกรไทย ร่วมแถลงการจับกุมแก๊งมาเลเซียใช้บัตรเครดิตปลอมรูดซื้อสินค้าหรู ประกอบด้วยผู้ต้องหา 3 ราย ได้แก่ 1.MR.YAP WEI LUN อายุ 28 ปี 2.MR.LIEW CHOON CHICK อายุ 23 ปี 3.MR.BONG JOO SOON อายุ 30 ปี ทั้งหมดสัญชาติมาเลเซีย พร้อมของกลงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอม จำนวน 14 ใบ สำเนาสลิปการใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 4 ใบ จำนวนเงินรวม 844,700 บาท กระเป๋าสะพายข้างสีน้ำตาล จำนวน 1 ใบ และกระเป๋าสตางค์ จำนวน 1 ใบ สามารถจับกุมได้ที่ห้างสรรพสินค้าพารากอน ถนนพระราม 1 แขวงและเขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.รอย กล่าวว่า เนื่องจากมีชาวต่างชาติเข้ามาในลักษณะนักท่องเที่ยวแล้วมาประกอบการอาชญากรรมในไทยจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานข้อมูลและรับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกสิกรไทยว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค.เวลาประมาณ 14.30 น.ได้มีกลุ่มบุคคลต่างชาติได้ใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมมาซื้อและชำระค่าสินค้าภายในร้าน BURBERRY ชั้นเอ็ม ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน จึงนำกำลังไปตรวจสอบภายในร้านพบว่า กลุ่มผู้ต้องหาออกจากร้านไปแล้ว และทางเจ้าหน้าที่ธนาคารแจ้งมาว่ากลุ่มดังกล่าวกำลังใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ชำระสินค้าอยู่ที่ร้าน PRADA บริเวณชั้นเดียวกัน เจ้าหน้าที่รีบนำกำลังติดตามไปพบผู้ต้องหาทั้งสาม ร่วมกันใช้บัตรชำระสินค้าอยู่ จึงแสดงตัวขอตรวจสอบปรากฏว่า พบบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของกลางจำนวนหลายใบ จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวน

จากการสอบสวน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันนำบัตรอิเล็กทรอนิกส์ปลอมที่ซื้อมาจากประเทศมาเลเซีย โดยใช้ข้อมูลปลอมจากฐานบัตรที่ซื้อข้อมูลมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มาป้อนใส่ไว้ในบัตรปลอมที่ด้านหน้าเปลี่ยนเป็นชื่อของตนเอง โดยเครื่องรูดบัตรจะอ่านจากรหัสบัตรเพียงเท่านั้น จากนั้นนำมาใช้ซื้อสินค้าแบรนด์เนม เช่น กระเป๋า เข็มขัด ที่ร้าน BURBERRY ราคา 119,200 บาท และสินค้ากระเป๋าที่ร้าน PRADA ราคา 72,500 บาท มีการแบ่งหน้าที่กันทำด้วยการแยกไปรูดซื้อสินค้าเป็นนาฬิกายี่ห้อโรเล็กซ์ ราคา 653,000 บาท ที่ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ก่อนหน้ามาอีกด้วย จะได้รับส่วนแบ่งมูลค่า 10 เปอร์เซนต์จากสินค้าที่รูดซื้อ

นอกจากนี้ตรวจสอบหนังสือเดินทางแล้วไม่พบผู้ต้องหาได้ลักลอบเข้ามาทางด่านตรวจสะเดา ไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย เป็นครั้งแรก จากนั้นเมื่อรูดซื้อสินค้าได้แล้วก็จะส่งสินค้าให้กับผู้ต้องหาชาวมาเลเซียอีกคนหนึ่ง ที่หลบหนีไปได้ จากนั้นก็จะไปพักที่โรงแรมหรู ก่อนจะมีการแบ่งเงินกัน และเดินทางกลับประเทศ ผู้เสียหายจะเป็นเจ้าของบัตรจากทางประเทศสหรัฐอเมริกา มูลค่าความเสียหายนับหลายล้านบาท

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่รับอนุญาต, ร่วมกันใช้และมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์โดยรู้ว่าเป็นของที่ทำปลอมหรือแปลงขึ้น โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ก่อนนำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป