xs
xsm
sm
md
lg

รวบโชเฟอร์แท็กซี่เมืองร้อยเอ็ด เลือดร้อนฟันหนุ่มใหญ่มะกันเบี้ยวค่าแท็กซี่แถมปาแก้วกาแฟใส่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ตร.รวบโชเฟอร์แท็กซีชาวร้อยเอ็ดคาอพาร์ตเมนต์ มือฟันหนุ่มใหญ่สัญชาติมะกันเสียชีวิตหน้าร้านตัดชุดแต่งงาน ปากซอยสุขุมวิท 68 สารภาพบันดาลโทสะที่ผู้ตายปาแก้วกาแฟใส่

วันนี้ (7 ก.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พ.ต.อ.สืบศักดิ์ พันธุ์สุระ รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางนา แถลงการจับกุม นายเชิดชัย หรือเชิด อุตมะชะ อายุ 32 ปี อาชีพโชเฟอร์ขับแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 165 หมู่ที่ 14 ต.ภูเงิน อ.เสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงชาวต่างชาติเสียชีวิต พร้อมของกลางรถยนต์นั่งส่วนบุคคลสาธารณะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทว 6549 กรุงเทพมหานคร เสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อน มีคราบเลือดติดอยู่ จำนวน 1 ตัว รองเท้าหนังสีน้ำตาลมีคราบเลือดติดอยู่ จำนวน 1 คู่ โดยสามารถจับกุมได้ที่หน้าเกตุลอยอพาร์ตเมนต์ กลางซอยเฉลิมพระเกียรติร.9 ซอย 46 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม.

พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากวันที่ 6 ก.ค.2556 เวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต บริเวณหน้าร้านตัดเสื้อผ้าแต่งงาน “มิสแซดเทอร์เดย์” ปากซอยสุขุมวิท 68 แขวงและเขตบางนา กทม. จึงร่วมกันเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบศพ นายทรอยลี พิลคิงตัน อายุ 50 ปี สัญชาติอเมริกา อาชีพผู้จัดการฝ่ายประสานงานบริการลูกค้า บริษัท แคทเธอร์พิลลาร์ (ประเทศไทย) จำกัด และอยู่ในประเทศไทยมากว่า 3 ปี ถูกฟันด้วยอาวุธมีดมีบาดแผลหลายแห่งจนถึงแก่ความตาย ภายในที่เกิดเหตุมีกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ที่คนร้ายก่อเหตุไว้ได้ ซึ่งคนร้ายเป็นชายไทยอายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าอ่อน ใช้อาวุธมีดยาวประมาณ 1 ฟุต ฟันผู้ตายหลายครั้งจนสิ้นใจ สืบสวนต่อมาทราบว่า รถแท็กซี่คันดังกล่าวเป็นของนายเชิดชัย หรือเชิด อุตมะชะ อายุ 32 ปี พักอาศัยอยู่ห้องเลขที่ 207 ชั้น 2 เกตุลอยอพาร์ตเมนต์ กลางซอยเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ซ.46 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. จึงได้นำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ ต่อมา เวลาประมาณ 05.00 น. พบนายเชิดชัย ขณะขับรถที่ใช้ก่อเหตุกลับเข้าที่พักพร้อมเสื้อเชิ้ต และรองเท้ามีคราบเลือดติดอยู่ จึงทำการเข้าจับกุม

จากการสอบสวน นายเชิดชัย ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายได้เรียกรถแท็กซี่ที่บริเวณฝั่งตรงกันข้ามห้างเซ็นทรัล บางนา ให้ไปส่งที่พักภายในซอยสุขุมวิท 85 ระหว่างรถติดขัดบริเวณจุดเกิดเหตุ นายทรอยลี ได้โวยวายว่าตนโกงค่าโดยสาร ซึ่งขณะนั้นมิเตอร์ขึ้นราคา 51 บาท ก่อนเปิดประตูลงจากรถไป ตนจึงเปิดหน้าต่างฝั่งซ้ายเพื่อทวงถามค่าโดยสารที่ผู้ตายไม่ได้จ่าย แต่ผู้ตายได้ปาแก้วกาแฟยี่ห้อสตาร์บัคที่ถือมาด้วยใส่ตน จากนั้นตนเกิดบันดาลโทสะจึงรีบวิ่งลงไปหยิบมีดยาวขนาด 1 ฟุตครึ่ง ปลายตัดที่อยู่ท้ายกระโปรงหลังรถ ใช้อาวุธมีดกะไปแค่ข่มขู่แต่ผู้ตายต่อสู้มีการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน แต่ด้านผู้ตายตัวโตกว่าสู้ไม่ไหวเลยฟันสวนไปโดยไม่ยั้งมือจนผู้ตายล้มลง แต่ไม่คาดคิดว่าจะเสียชีวิต จึงรีบขึ้นรถขับหลบหนีไปตามเส้นทางสุขุมวิท 64 และนำอาวุธมีดที่ใช้ก่อเหตุไปโยนทิ้งบริเวณคลองโครงการพระราชดำริ ต.บางปลา อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ แต่จำจุดไม่แน่นอน ส่วนเสื้อเชิ้ตนำไปทิ้งที่ริมถนนมอเตอร์เวย์ ปากซอยกาญจนาภิเษก 45 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กทม. โดยรถแท็กซี่คันดังกล่าวนั้นตนเช่าซื้อขับมาเป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา นำโดยพ.ต.อ.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.นพดล สามารถ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.บางนาเจ้าของคดี พ.ต.ท.ภาสกร รัตนปนัดดา รอง ผกก.สส.สน.บางนา พ.ต.ท.ธีรยุทธ ใหม่แปง สว.สส. ร.ต.อ.อภิโชค ขนบดี รอง สว.สส.นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ควบคุมตัว นายเชิดชัย ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุกแรกบริเวณริมถนนบางนา-ตราด ใกล้โรงพยาบาลบางนา 1 ฝั่งตรงกันข้ามห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลบางนา เป็นจุดที่นายเชิดชัย รับผู้ตายขึ้นรถ จากนั้นได้ขับเข้าช่องทางด่วน ไปถนนสุขุมวิท ต่อมา จุดที่ 2 บริเวณริมถนนสุขุมวิทระหว่างซอยสุขุมวิท 70-68 หน้าร้านมิสแซทเทอร์เดย์ ซึ่งเป็นจุดที่นายเชิดชัย และผู้ตายทะเลาะกัน โดยนายเชิดชัยได้หยิบมีดที่กระโปรงหลังรถออกมา พร้อมกับได้ฟันด้านหน้า ท้ายทอย และแทง จนผู้ตายล้มลงเสียเสียชีวิตแล้วนำมีดไปเก็บที่กระโปรงหลังรถพร้อมขับรถออกไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพได้มีไทยมุงจำนวนมากตะโกนด่านายเชิดชัย ว่า “ไปฆ่าเขาทำไม ไม่ใช่คนแล้ว” รู้ไหมว่าภรรยาเขาร้องไห้เสียใจเท่าไหร่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามกันไทยมุงออกไปไม่ให้เข้ามาทำร้ายผู้ต้องหา จากนั้นก็รีบนำตัวไป สน.บางนา ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ผู้ต้องหาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ



กำลังโหลดความคิดเห็น