กองปราบบุกจับผู้ต้องหาลักทรัพย์พระเครื่องเซียนพระชื่อดังย่านพุทธมลฑลสาย 2 ราคากว่า 7 แสนบาท
วันนี้ ( 5 ก.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 09.00 น.พ.ต.อ.ปิยะ เจริญสุข ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.ต่อวงศ์ พิทักษ์โกศล สว.กก.1 บก.ป.นำกำลังจับกุม นายกีรติ ตะเภาพงษ์ หรือเอฟ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 142 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 63 ต.บางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. ได้ที่ลานจอดรถวัดมหาธาตุราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร ท่าพระจันทร์
พ.ต.ท.ต่อวงศ์ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ นายกีรติ ได้ก่อเหตุขโมยพระเครื่องจากเฮียปลาบู่ เซียนสุรพล เซียนพระชื่อดังย่านพุทธมลฑลสาย 2 ราคากว่า 7 แสนบาท โดยหาเหยื่อที่ลงประกาศขายพระเครื่องตามหนังสือพระต่างๆ จากนั้นจะโทรศัพท์ไปหาผู้เสียหายเพื่อขอนัดดูพระเครื่อง ซึ่งจะเจาะจงเลือกเหยื่อที่มีอายุมาก และไม่ประกาศขายทางเว็บไซต์ จากนั้นจะติดต่อนัดไปขอดูพระเครื่องรุ่นดังและมีราคาแพงที่บ้านของเหยื่อ เริ่มจากทำทีขอเช่าพระเครื่องบางรุ่นที่ราคาไม่สูงมากนักไว้ก่อน จากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ ผู้ต้องหาจะวางอุบายเอาพระเครื่องมาคืนโดยยอมให้หักเงิน 10 เปอร์เซ็นตามที่ตกลงกันไว้ ต่อมาก็ได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมาหาเหยื่ออีกครั้ง อ้างว่าอยากขอดูและเช่าพระเครื่องของเหยื่ออีก คราวนี้เมื่อมาถึงก็ทำทีขอดูพระเครื่องราคาสูงหลายองค์เช่น พระผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง พิมพ์หัวเล็ก หลวงปู่ทวดหลังเตารีด เนื้อโลหะพิมพ์เล็ก หน้าแหงนใหญ่ หลวงปู่ทวดพิมพ์กลีบบัว และ หลวงปู่ทวดพิมพ์วอจุด ระหว่างที่หยิบพระมาส่องก็อ้างว่าขอเอาพระไปดูตำหนิกลางแดดให้ชัดเจนแล้วไปหยิบเงินที่อยู่ในรถ ก่อนฉวยโอกาสฉกพระเครื่องดังกล่าวหลบหนีไปทันที
“จากการสืบสวนพบว่าผู้ต้องหาเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง ดังนั้นเซียนพระที่มีชื่อเสียงหลายคนที่ถูกผู้ต้องหารายนี้หลอกลวงอาจจะไม่กล้ามาแจ้งความ บางรายกลัวเสียชื่อเสียงหรือความน่าเชื่อถือ ก็สามารถมาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.หลักสอง " พ.ต.ท.ต่อวงศ์ กล่าว
ด้าน นายกีรติ รับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุขโมยพระเครื่องจริง แต่เพิ่งทำครั้งแรก หลังจากขโมยพระเครื่องมาได้นั้น ก็นำไปจำหน่ายที่ห้างย่านงามวงศ์วาน ห้างสรรพสินค้าย่านรามอินทรา แผงพระท่าพระจันทร์ และร้านละแวกตลาดราชวัตร โดยมีคนที่ผมรู้จักเขาพาไปขาย พอไปถึงห้างก็โทรให้คนจะซื้อลงมาดูพระและซื้อนำเงินลงมาจ่าย เฉพาะหลวงปู่ทิมองค์นั้นผมขายถูกๆได้เงินมา 2.5หมื่นบาท เงินที่ได้นำมาใช้จ่ายหนี้พนันไฮโล และมีลูกอายุ 5เดือนที่ต้องดูแล ส่วนตัวไม่ได้ทำอาชีพอะไร
นายกีรติ กล่าวอีกว่า เคยซื้อพระเครื่องจากท่าพระจันทร์ในราคา 150 บาท เอามาใส่กรอบทอง แล้วนำไปขายได้ 1 แสนบาท โดยศึกษาการดูพระเครื่องมาแล้ว 2ปีจากคนที่มีความรู้ ส่วนตัวถนัดการดูพระเครื่องเหรียญหลวงปู่ทวดกับหลวงปู่ทิมเท่านั้น โดยในวันที่ก่อเหตุผมตั้งใจจะเข้าไปซื้อพระเครื่ององค์นั้นจริง แต่ไม่มีเงินพอ เลยก่อเหตุดังกล่าว