ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เปิดนโยบายคลองด่วน 4 จุด ตามแนวถนนประดิษฐ์มนูญธรรม รัชดาภิเษก ขยายคลองพระยาราชมนตรี และคลองด่วนรามอินทรา ป้องกันน้ำท่วมกรุง หาเสียงทั่วเมือง ก่อนปราศรัยโค้งสุดท้ายสวนเบญจสิริ ขนแกนนำขึ้นเวที
วันนี้ (1 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการหาเสียงเลือกตั้งของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ โดยเมื่อเวลา 09.05 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ พร้อมคณะเดินทางมาที่ศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ถนนรามอินทรา เพื่อแถลงข่าวโครงการสร้างคลองด่วนน้ำ ว่า เมื่อปี 2555 มีฝนตกหนักในรอบ 50 ปี แต่ไม่มีน้ำท่วมขังถนนในช่วงข้ามคืน ซึ่งต่างจากปี 2552 ถนนรามคำแหง และถนนศรีนครินทร์มีปัญหาท่วมหลายวัน จึงตั้งใจจะหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำในกทม.มากกว่า 60 มิลลิเมตร แต่ใจอยากให้ได้ถึง 100 มิลลิเมตรด้วนซ้ำ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องมีการขยายท่อระบายน้ำในกรุงเทพฯ แต่กลับไม่มีการเชื่อมโยงกับพื้นที่คลองหลัก หรือไม่มีการระบายน้ำได้ตรงเพื่อให้การระบายน้ำทำได้เร็วที่สุด
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ต้องมีการสร้างคลองด่วน 4 จุด 1.คลองด่วนตามแนวถนนประดิษฐ์มนูธรรม สามารถสร้างทางด่วนระหว่างตอหม้อไปสู่อุโมงค์ยักษ์พระราม 9 ได้ มีระยะทาง 13 กิโลเมตรใช้งบประมาณ 2.2 พันล้านบาท 2.คลองด่วนเส้นทางถนนรัชดาภิเษก เริ่มตั้งแต่บริเวณหลังศาลอาญา สามารถบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังในบริเวณจุดอ่อนเขตห้วยขวาง จตุจักร และบริเวณหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งอาจมีการลอดใต้ทางด่วนวิภาวดีลงสู่คลองเปรม ใช้งบประมาณประมาณ 100 ล้านบาท 3.คลองด่วนฝั่งธนบุรี จะมีการขยายเส้นคลองพระยาราชมนตรี จากคลองบางเชือกหนังขึ้นไปด้ายเหนือผ่านแนวคลองบางพรต แนวคลองบางระมาด และแนวคลองบ้านไทร เพื่อให้ฝั่งธนบุนีมีเส้นทางระบายน้ำหลักมากขึ้น ส่วนหนึ้งจะเชื่อมโยงกับการสร้างอุโมงค์ยักษ์ และ 4.คลองด่วนรามอินทรา จากศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก ถึงคลองหลุมไผ่ ใช้งบประมาณ 368 ล้านบาท
"ทั้งหมดจะทำให้คลองหลักทำให้เป็นประโยชน์ ถ้าทั้ง 4 โครงการแล้วเสร็จ การขยายท่อระบายน้ำเกือบ 5 พันกิโลเมตรในกีถงเทพฯ จะสามารถทำเป็นเฟสได้ในระยะยาว แต่ระยะสั้นจะสามารถทำคลองด่วนได้ทันที"ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์กล่าว
จากนั้น ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ขึ้นขบวนรถกระบะแห่หาเสียงจากตั้งแต่เขตบางเขน บางซื่อ พญาไท ดุสิต โดยเริ่มใช้เส้นทางถนนรามอินทรา เลี้ยวเข้าภายในกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ พร้อมลงจากรถเพื่อแวะขอคะแนนเสียงที่บ้านพักครอบครัวทหาร จากนั้นกลับมาที่เส้นถนนพหลโยธิน ผ่านหน้ามหาวิทยาลัยศรีปทุม ผ่านสี่แยกเกษตร เลี้ยวขวาเข้าถนนงามวงศ์วานและทักทายประชาชน พ่อค้า แม้ค้า วินมอเตอร์ไซค์บริเวณตลาดอมรพันธ์ ต่อมา ขบวนหาเสียงได้ผ่านเรือนจำกลางคลองเปรม เลี้ยวซ้ายสี่แยกพงษ์เพชรเข้าถนนประชาชื่น วิ่งตรงถึงแยกสี่ประชานุกูล ก่อนเลี้ยวขวาเข้าถนนรัชดาภิเษก เลี้ยวซ้ายเข้าถนนกรุงเทพ-นนท์ เขตบางซื่อ ก่อนม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ลงจากรถเพื่อแวะทักทายประชาชนที่ตลาดเตาปูน 5 นาที จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าสี่แยกบางโพ เลี้ยวซ้ายผ่านแยกเกียกกาย ผ่านกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ เขตดุสิต เลี้ยวซ้ายเข้าซอยสามเสน 28 โดยภายในซอยมีประชาชนบางส่วนเตรียมดอกไม้มามอบให้ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์เป็นระยะ
กระทั่งเวลา 11.45 น. ขบวนหาเสียงเดินทางมาถึงตลาดราชวัตร ถนนนครชัยศรี ผ่านแยกสามเสน เขตพญาไท ข้ามคลองประปา เข้าซอยริมคลองสามเสน วิ่งลัดใต้ทางด่วนเข้าซอยพหลโยธิน 1 ออกซอยพหลโยธิน 3 เข้าซอยพหลโยธิน 5 ผ่านสำนักงานเขตพญาไท ออกซอยพหลโยธิน 7 กลับรถบริเวณสถานีรถไฟฟ้าอารีย์ ผ่านอนุสาวรีย์ไชยสมรภูมิ เข้าซอยรางน้ำ ก่อนสิ้นสุดที่วังพญาไท โดยตลอดการหาเสียง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ได้ยกมือไหว้พร้อมโบกทักทายประชาชนตลอดเส้นทางในเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง จากนั้นเวลา 15.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์จะจะเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีตลาดพลู เพื่อแถลงข่าวเรื่องระบบขนส่งจราจรทั้งกรุงเทพฯ
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเวลา 16.00 น. ที่บริเวณสวนเบญจศิริ ถนนสุขุมวิท พรรคประชาธิปัตย์เปิดเวทีปราศรัยครั้งสุดท้าย เพื่อหาเสียงให้กับผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพ โดยมีบรรดาแกนนำ อาทิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายอภิรักษ็ โกษะโยธิน นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรค นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ โดยมีประชาชนมาร่วมฟังประมาณ 5 พันคน ซึ่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัย ตอนหนึ่งว่า ตนวามเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องยอมรับว่าไม่เคยเห็นเรื่องอย่างนี้ คือเมื่อวันที่ 28 ก..ที่ผ่านมามีนายตำรวจที่หวังดีต่อประเทศชาติ ส่งข้อความมาว่า มีผู้ใหญ่ให้เงินระดับผู้กำกับ คนละ 5 หมื่น เขาใช้คำว่าขู่ว่าจะย้าย และให้เงิน เพื่อบังคับให้ทำตามที่เขาสั่ง เมื่อคืนก็มีตำรวจที่ปฏิบัติการแจ้งมาว่าให้ส่งรายชื่อตำรวจ 70 คนที่มีสิทธิเลือกตั้งที่อยู่ในจ.ตรัง พร้อมด้วยเบอร์โทร ไปที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 มีให้ตำรวจยศ พ.ต.อ.คนหนึ่งและปรากฏว่ามีการอย่างนี้ในหลายจังหวัด แต่เมื่อเรื่องแดงก็ไม่กล้าดำเนินการต่อ ถือเป็นตัวอย่างที่ทำให้รู้สึกว่าทำไมต้องใช้วิธีนี้ ทำไมไม่ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างตรงไปตรงมา
อย่างไรก็ตาม ตนขอชื่นชมตำรวจที่รักศักดิ์ศรีตัวเองมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้รักษากฎหมายรักษาความถูกต้อง ทำไมต้องมาฟังคำสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ขอให้ตำรวจทุกคนอย่าทำตามที่ผู้ใหญ่ใครก็ตาม ให้ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะมันจะทำให้บ้านเมือง และส่วนรวมเสียหาย ประเทศไทยมีจุดอ่อน คือ1.เรื่องวินัยที่ไม่ดี 2.คอร์รัปชั่นมากเกินไป ซึ่งผสมกันระหว่างนักการเมืองและข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ หลายครั้งคนพูดว่าแก้คอร์รัปชั่น ปราบคอร์รัปชั่น แต่เขาคือตัวคอร์รัปชั่น ตนจึงย้ำว่า ปัญหาอยู่ที่เราปฏิบัติได้จริงอย่างที่พูดหรือไม่
"วันนี้เราเห็น ผบช.น.จะให้รางวัลจับทุจริตเลือกตั้ง แต่ผมไม่สนใจรางวัล แต่ต้องการเพียงแค่ตำรวจรักษาความถูกต้องเท่านั้น ถ้าเราประมาท เราจะเสียท่าให้ผู้โกงทั้งหลาย อย่าเลือกพวกซื้อเสียงโกงบ้านโกงเมือง และอย่าเลือกพวกเผาบ้านเผาเมือง มีบางพวกเตรียมเงินไว้ซื้อเสียง และไม่ว่าพรรคไหนก็ตามที่ซื้อเสียงอย่าไปเลือก"
นายชวน กล่าวต่อว่า คนที่ยังไม่มีโอกาส ยังไม่มีตำแหน่งเราไม่แน่ใจว่าคนนั้นพูดแล้วจะทำได้จริงหรือไม่ บ้านเมืองทุกวันคนที่พูดไม่ได้ทำได้จริงอย่างที่พุด ซึ่งเป็นปัญหา ตนจึงได้เน้นว่าภาคปฎิบัติเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด พวกเราเวลาจะคิดจะทำอะไรต้องคิดและทำอย่างรอบคอบ ว่าสิ่งที่ทำไปจะไม่เกิดผลร้ายต่อบ้านเมืองพวกที่ไม่ได้ทำตามคำพูด พวกที่ไม่รักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง เอาแต่ประโยชน์ธุรกิจตัวเองเป็นที่ตั้ง เข้ามาหาประโยชน์จากบ้านเมือง
ด้าน นายจุรินทร์ กล่าวปราศรัยตอนหนึ่งว่า วันนี้เป็นการปราศรัยครั้งสุดท้ายที่โรแมนติกที่สุดเพราะมีที่นั่งริมสวน ที่สำคัญมีเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ ด้วยเพื่อนำไปรายงานเจ้านายว่าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยเป็นอย่างไรบ้าง ยอมรับว่าตอนนี้พรรคประชาธิปัตย์เหนื่อยที่สุด เพราะต้องสู้กับหลายอำนาจ เพราะต้องสู้กับ 1.อำนาจรัฐ คือการใช้ตำรวจข่มขู่ตำรวจด้วยกันเอง ว่าหากฝ่ายตรงข้ามประชาธิปัตย์แพ้ ผู้กำกับในพื้นที่ต้องรับผิดชอบ แทนที่ผู้กำกับจะได้ดูแลทุกข์สุขประชาชน กลับต้องดูแลเสาไฟฟ้าแทน และยังมีการจัดกำลังตำรวจดูแลหน่วยการเลือกตั้งเพื่อป้องกันการโกง ตนก็สงสัยว่าใครจะโกง เพราะพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอำนาจรัฐ โกงไม่ได้ 2.อำนาจเงิน 3.อำนาจนอกประเทศ และ 4.อำนาจนอกโลก คือต้องต่อสู้กับผีอีแพง และผีอีพงศ์
"เพราะตอนนี้ผีอีพงศ์กำลังอาละวาดหนัก มีการจดเบอร์บัตรประชาชนหัวละ 500 ชื่อผีนางเลิ้ง และมีผีบึงกุ่มที่รวมแล้วตกหัวละ 1 พันบาท แต่ผีที่น่ากลัวที่สุดคือผีพนันที่หากแทง 100 แต่ฝ่ายตรงข้ามพรรคชนะจะได้เงิน 500 บาท ซึ่งก็คือการซื้อเสียงดีๆนี่เอง จึงอยากให้พี่น้องอย่าเห็นแก่เงินเล็กๆ น้อยๆ"
นายจุรินทร์กล่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้คนกทม.แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.เลือกพรรคประชาธิปัตย์ 2.เลือกเสาไฟฟ้า เพราะมีเหลี่ยม และ 3.กลุ่มที่ยังไม่ตัดสินใจไม่ได้เพราะคิดไม่ทัน จึงขอให้คนที่สนับสนุนพรรคไปเจรจาให้คนกลุ่มนี้กลับมาสนับสนุนผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ และคนที่ยังลังเลจะเลือกผู้สมัครอิสระ หรือผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ดี ซึ่งตนก็อยากขอความกรุณาคนกลุ่มนี้ว่าหากไม่ถนัดใจพรรคประชาธิปัตย์ ก็ให้เห็นแก่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ แต่ถ้าไม่ถนัดใจ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ก็ขอให้เห็นแก่พรรคประชาธิปัตย์ แต่หากไม่ถนัดใจทั้งสองก็ขอให้เห็นแก่ประเทศชาติ
“ในสถานการณ์นี้อย่าเลือกผู้สมัครอิสระเป็นอันขาด เพราะ 1.คะแนนจะเสียของ 2.พรรคประชาธิปัตย์จะแพ้ และ 3.เสาไฟฟ้าจะได้เป็นผู้ว่าจริงๆ และหากเลือกผู้ว่าอิสระจะทำงานได้ยาก เพราะการออกข้อบัญญัติ และระเบียบกทม.นั้นต้องผ่านสภากทม. ต้องมีสก.อยู่ในมือ หากผู้ว่าอิสระจะเป็นหัวเดียวกระเทียมลีบ แต่ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์มี สก.ที่พร้อมยกมือให้ในสภากทม. เพื่อผลประโยชน์ของคนกทม. และการเลือกผู้สมัครที่ชูนโยบายไร้รอยต่อก็จะหวานคอเหลี่ยม ที่เตรียมกินรวบประเทศอยู่แล้ว” นายจุรินทร์ กล่าว