ศาลจำคุก 13 ปี หญิงเขมรบังคับทารุณเด็กเร่ขายกำไลเรืองแสงให้นักท่องเที่ยวที่พัทยา หากขายไม่หมดใช้กุญแจรถมอเตอร์ไซค์แทงหน้าขา-รองเท้าส้นสูงตบหน้า แต่จำเลยรับสารภาพลดโทษ เหลือติดคุก 6 ปี 7 เดือน
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่ห้องพิจารณา 802 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านคำพิพากษา คดีดำ อ.534/2555 ที่อัยการฝ่ายคดีอาญา 6 เป็นโจทก์ฟ้อง นางจันทรา ไม่มีนามสกุล อายุ 36 ปี ชาวกัมพูชา เป็นจำเลยในความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการ บังคับใช้แรงงานหรือบริการหญิงอายุ ไม่เกิน 15 ปี, เป็นบุคคลต่างด้าวเข้าและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างเดือน ก.ย. - 15 พ.ย. 2555 ต่อเนื่องกัน จำเลยกับพวกที่ยังหลบหนีได้ พา ด.ญ.อั้ม (นามสมมติ) อายุ 14 ปี ชาวกัมพูชา ผู้เสียหาย ซึ่งไม่ใช่บุตร มาเร่ขายกำไลข้อมือเรืองแสงให้แก่นักท่องเที่ยวบริเวณถนนพัทยา สาย 2 ซอย 13 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ตั้งแต่เวลา 17.00-02.00 น.ของวันใหม่ โดยผิดกฎหมาย ซึ่งจำเลยจะเก็บเงินจากการขายสินค้าไว้เอง ตลอดเวลา 7 เดือน หากขายสินค้าได้น้อย หรือขายไม่หมด จำเลยก็จะใช้รองเท้าส้นสูง หมวกนิรภัย หรือโทรศัพท์มือถือตีที่ศีรษะ หรือใช้กุญแจจักรยานยนต์แทงหน้าขาผู้เสียหาย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) รับแจ้งจากสายลับว่ามีชาวต่างชาตินำเด็กมาเร่ขายสินค้า จึงปลอมตัวล่อซื้อจับกุมจำเลยได้ พร้อมเงินสด 20,480 บาท และจักรยานยนต์เป็นของกลาง ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี จำเลยให้การรับสารภาพ
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. 2551, พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และพ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน รวมจำคุกจำเลยไว้ 13 ปี 5 เดือน คำรับสารภาพของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ 6 ปี 7 เดือน 15 วัน และให้ริบของกลาง