DSI แถลงผลการบุกทลายสินค้า-เสื้อผ้าแบรนด์ดังปลอม ห้างดังย่านปทุมวัน กว่า 4 พันชิ้น มูลค่า 6 ล้านบาท พร้อมจับกุมเจ้าของร้านค้าเช่าจำนวน 5 ราย เตรียมตรวจสอบเส้นทางการเงินก่อนอายัดทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิดต่อไป
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันแถลงผลการบุกทลาย แหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ดังปลอมเครื่องหมายการค้า ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่า มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (3 ก.ค.) ดีเอสไอได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าเช่า 7 แห่ง พบของกลางเป็นเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ และรองเท้าแบรนด์เนม เช่น Diesel, Gucci, Prada, Dolce&Gabbana จำนวนกว่า 4,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดไว้ พร้อมจับกุมเจ้าของร้าน 5 ราย คือ น.ส.กชพร ลิ้มฮะสูน นายชัยวัฒน์ สลักคำ น.ส.ละมัย ภาณะรมย์ น.ส.สุนิษา ฉัตรสุวรรณ และ น.ส.มัลลิกา เสรีรัฐ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.ท.ชินโชติกล่าวว่า นอกจากการเดินหน้าปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจังแล้ว ดีเอสไอจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิดด้วย ซึ่งหากพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด เจ้าหน้าที่จะดำเนินการยึดอายัดต่อไป
วันนี้ (4 ก.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.ชินโชติ พุฒิวรรธธาดา ผู้บัญชาการสำนักคดีทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกันแถลงผลการบุกทลาย แหล่งจำหน่ายเสื้อผ้าแบรนด์ดังปลอมเครื่องหมายการค้า ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านปทุมวัน โดยสามารถตรวจยึดของกลางได้จำนวนมาก
สืบเนื่องจากมีผู้เสียหายให้ข้อมูลกับดีเอสไอว่า มีการลักลอบจำหน่ายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ในห้างสรรพสินค้าดังกล่าว ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (3 ก.ค.) ดีเอสไอได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นร้านค้าเช่า 7 แห่ง พบของกลางเป็นเสื้อผ้า กางเกงยีนส์ และรองเท้าแบรนด์เนม เช่น Diesel, Gucci, Prada, Dolce&Gabbana จำนวนกว่า 4,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 6 ล้านบาท จึงทำการตรวจยึดไว้ พร้อมจับกุมเจ้าของร้าน 5 ราย คือ น.ส.กชพร ลิ้มฮะสูน นายชัยวัฒน์ สลักคำ น.ส.ละมัย ภาณะรมย์ น.ส.สุนิษา ฉัตรสุวรรณ และ น.ส.มัลลิกา เสรีรัฐ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเสนอจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปี ปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.ท.ชินโชติกล่าวว่า นอกจากการเดินหน้าปราบปรามสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจังแล้ว ดีเอสไอจะตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิดด้วย ซึ่งหากพบว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำผิด เจ้าหน้าที่จะดำเนินการยึดอายัดต่อไป