“ดีเอสไอ” ชงคดีละเมิดลิขสิทธิ์ให้ ปปง.ยึดทรัพย์

“ดีเอสไอ” ชง 4 คดีละเมิดลิขสิทธิ์ให้ ปปง.ยึดทรัพย์ หลังปูด กม.ใหม่ ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่ามากกว่า 5 แสนบาทขึ้นไป มีความผิดฟอกเงิน และสามารถยึดทรัพย์ได้

วันนี้ (1 พ.ค.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมว.กระทรวงพาณิชย์ และ ร.ต.อ.(หญิง) สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ร่วมแถลงผลการการจับกุมแหล่งจำหน่ายและเก็บสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 4 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้านบาท ในพื้นที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษหลายพื้นที่ทั้งในกรุงเทพฯ และภูเก็ต

นายธาริตกล่าวว่า สำหรับของกลางเป็นสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าหลายแบบ ทั้งเคส (กรอบโทรศัพท์มือถือ) ย่านบางขุนเทียน เขตจอมทอง สามารถยึดเคสโทรศัพท์มือถือได้จำนวน 200,000 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 20 ล้านบาท มีชาวต่างชาติชื่อ “เจ๊จู” เป็นผู้ครอบครองอาคาร ส่วนเครือข่ายจำหน่ายสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าประเภทเสื้อผ้ามี 5 จุด สามารถยึดสินค้าปลอมเครื่องหมายการค้า เสื้อ กางเกง และกระเป๋ารวม 16,957 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท นอกจากนี้ยังตรวจยึดสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าในพื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ได้จำนวน 3,827 ชิ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 5 ล้านบาท และการจับกุมสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้าบริเวณพื้นที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต พบของกลาง 10,075 ชิ้น มูลค่าความเสียหาย 2.5 ล้านบาท

“การจับกุมสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทั้ง 4 คดีดังกล่าว ถือเป็น 4 คดีแรกที่ถูกดำเนินคดีความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะส่งเรื่องให้ ปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์ด้วย โดยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ใหม่ที่มีการเพิ่มฐานความผิดกฎหมายฟอกเงินโดยให้การทำธุรกิจสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมูลค่ามากกว่า 500,000 บาทขึ้นไป อยู่ในฐานความผิดฟอกเงิน และสามารถยึดทรัพย์ได้ ดังนั้นขอแจ้งเตือนไปยังผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้จำหน่าย และศูนย์กระจายสินค้าให้เลิกกระทำผิดไม่เช่นนั้นจะถูกยึดทรัพย์” อธิบดีดีเอสไอกล่าว