xs
xsm
sm
md
lg

ตร.เร่งกวาดล้างกลุ่มอิทธิพล-แก๊งทวงหนี้ภายใน 3 เดือน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
สตช.จัดประชุมประชุมมาตรการเชิงรุก เพื่อป้องกันการชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ พร้อมประสานผู้ประกอบการ มั่นใจสามารถจับกุมคนร้ายได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ตั้งเป้า 3 เดือนสุดท้ายปีงบมาณเร่งกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล กลุ่มปล่อยเงินกู้ แก๊งทวงเงินกู้ และกลุ่มลักลอบค้าอาวุธออนไลน์

วันนี้ (2 ก.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อนุชา รมยะนันท์ พ.ต.อ.หญิง วิชญ์ชยากรณ์ ณิชาบวร รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกันแถลงประจำสัปดาห์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า วันนี้ในที่ประชุมบริหารสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำชับการปฏิบัติในเรื่องสำคัญๆ เรื่องแรกเป็นเรื่องมาตรการเชิงรุก การป้องกันอาชญากรรมที่เกิดขึ้นบ่อยเรื่องการชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ สถานบริการ ร้านทองร้านค้าต่างๆ แม้ที่ผ่านมาเกิดเหตุแล้วเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ แต่หัวใจสำคัญคือการป้องกันไม่ให้เหตุเกิดขึ้น ต้องดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันเหตุโดยการประสานกับผู้ประกอบการหามาตรการป้องกันทั้งเรื่องของเส้นทาง กล้องวงจรปิดต่างๆ

ด้าน พ.ต.อ.อนุชา กล่าวว่า สำหรับสถิติอาชญากรรม 5 กลุ่ม เทียบระหว่างเดือนมิถุนายน 2556 กับเดือน พฤษภาคม 2556 พบว่า สถิติอาชญากรรมกลุ่มที่ 1-4 ลดลง อาชญากรรมที่เป็นความผิดต่อรัฐเช่น คดีอาวุธปืนลดลง ทั้งนี้เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาตรการกวาดล้างอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง สำหรับการชิงทรัพย์เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมก็ให้ปรับแผนเชิงรุก สั่งให้หัวหน้าสถานีไปทำแผนร่วมกับเจ้าของร้านหามาตรการป้องกันเหตุ จากการวิเคราะห์สภาพอาชญากรรมยังสามารถควบคุมได้

พ.ต.อ.อนุชา กล่าวอีกว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร.เน้นย้ำเรื่องการดูแลนักท่องเที่ยวและคดีที่เกี่ยวข้องกับนักท่องเที่ยว ซึ่งในวันที่ 1-15 ก.ค.นี้ เป็นช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมใน จ.ภูเก็ต จึงได้สั่งการให้พื้นที่ท่องเที่ยวเป้าหมาย กทม. พัทยา จ.เชียงใหม่ และ จ.สุราษฎร์ธานี ดำเนินการระดมกวาดล้างอาชญากรรมควบคู่ไปด้วย ถ้ามีเหตุเกี่ยวกับนักท่องเที่ยวให้รีบรายงานผู้บังคับบัญชา และให้ผู้บัญชาการ ผู้บังคับการ ลงไปกำกับดูแลด้วยตนเอง เพราะเป็นคดีที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ นอกจากนั้นยังกำชับเรื่องบ่อนออนไลน์ ร้านอินเทอร์เน็ตในสถานศึกษาห้ามให้มีบ่อนออนไลน์รอบสถานศึกษา รวมทั้งบ่อนการพนันอื่นๆ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวเสริมอีกว่า ใน 3 เดือนสุดท้ายของปีงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีกลุ่มเป้าหมาย 5 กลุ่มที่ต้องไปดำเนินการให้ออกแผนการทำงานอย่างชัดเจน คือ 1.กลุ่มผู้มีอิทธิพล 2.กลุ่มปล่อยเงินกู้ แก๊งทวงเงินกู้ 3.กลุ่มลักลอบค้าอาวุธออนไลน์ 4.กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในชุมชน 5.กลุ่มอื่นๆ ผู้แข่งรถในทาง อันธพาล บุคคลเพิ่งพ้นโทษที่มีคดีเกี่ยวกับการประทุษร้ายต่อทรัพย์ กลุ่มที่มีหมายจับค้างเก่า โดยสั่งการให้ ผบก.จว.รีบไปดำเนินการกำชับว่าไม่มีใครที่จะอยู่เหนืออำนาจรัฐ

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า พล.ต.อ.ปานศิริ ได้สั่งการการให้ข้อมูลในคดีสำคัญ ว่าต้องอธิบายข้อเท็จจริงให้ประชาชนเข้าใจแต่ให้ระมัดระวังใน 3 เรื่องคือ 1.หลีกเลี่ยงการชี้แจงที่จะกระทบความมั่นคง 2.หลีกเลี่ยงการชี้แจงที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของตำรวจ 3.หลีกเลี่ยงการให้ข้อมูลที่กระทบกับรูปคดี นอกจากนั้นยังกำชับเรื่องการนำผู้ต้องหามาแถลงข่าวได้รับความยินยอมและต้องเป็นเพื่อประโยชน์ต่อราชการและประชาชน ระวังเรื่องการแต่งกายให้ผู้ต้องหาต้องไม่มีเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ของตำรวจ เพราะอาจจะทำให้้เกิดการเข้าใจผิดว่าตำรวจทำผิดเสียเอง การนำผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดอันตราย
กำลังโหลดความคิดเห็น