“ดีเอสไอ” ระบุผลสอบรถหรูยี่ห้อเบนซ์-บีเอ็มดับเบิลยู เข้าข่ายผิดกฎหมายเกือบ 4 ร้อยคัน เตือนเสี่ย น.และ ธ. พ่อค้ารถหรูรีบเข้ามอบตัวก่อนถูกออกหมายจับ โยงรถหรู 6 คันที่ถูกไฟไหม้ มั่นใจพยานหลักฐานเอาผิดขบวนการนำเข้ารถหรูหลบเลี่ยงภาษีได้ยกแก๊ง ลั่นรู้ผลสอบการนำเข้ารถ “โรลส์รอยซ์ เฉลิม” เย็นนี้
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ กล่าวภายหลังเดินตรวจจุดวันสต็อปเซอร์วิส (ศูนย์บริการรับแจ้งนำรถเข้าตรวจสอบ) ว่า วันนี้เป็นวันแรกที่เราเปิดศูนย์บริการวันสต็อปเซอร์วิสให้แก่ผู้ที่เป็นเจ้าของหรือผู้ครอบครองรถหรูที่มีราคาตั้งแต่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งอยู่ในรายชื่อ 548 คัน ที่ทางดีเอสไอและหน่วยงานทั้ง 7 จะร่วมกันตรวจสอบ โดยเช้าวันนี้มีผู้มายื่นแสดงความประสงค์ที่จะให้ตรวจสอบรถในภาคสมัครใจแล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารเบื้องต้นว่าเป็นเจ้าของหรือผู้รับมอบอำนาจถูกต้องหรือไม่ และหลังจากนี้ก็จะมีการนัดหมายมาตรวจสอบรถในวันที่ 24 มิ.ย.นี้
ส่วนความคืบหน้ารถหรูทั้ง 6 คันที่ถูกไฟไหม้ที่ ต.กลางดง จ.นครราชสีมานั้น ขณะนี้ทางดีเอสไอกำลังรวบรวมพยานและหลักฐานให้เพียงพอเพื่อขอศาลออกหมายจับ คาดว่าภายใน 1-2 วันนี้จะดำเนินการขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องการกระทำความผิดได้ และในขณะเดียวกันเราก็เชื่อว่า เสี่ย น.และเสี่ย ธ. ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนร่วมในขบวนการนี้ที่มีรายงานข่าวมาว่าเป็นพี่น้องกันนั้นเป็นบุคคลที่จะถูกออกหมายจับ เพราะมีหลักแหล่งและมีสถานที่ประกอบการ รวมทั้งมีฐานะและหน้าตาในสังคมกลุ่มพ่อค้ารถ และนายนที ริ้วทอง หรือเป้ แขนด้วน
ทั้งนี้ ทางดีเอสไอขอให้บุคคลดังกล่าวมาติดต่อมอบตัวกับดีเอสไอดีกว่าที่จะต้องให้ถูกจับกุมเสียก่อน เนื่องจากว่าหากถูกจับกุมก็อาจะไม่ได้รับสิทธิ์ให้ปล่อยตัวชั่วคราว และอาจจะต้องถูกควบคุมตัวอยู่ในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดี ดังนั้นจึงอยากให้บุคคลทั้งสามติดต่อเข้ามอบตัวกับดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม การสอบสวนคดีรถหรูทั้ง 6 คัน ดีเอสไอไม่ได้ดำเนินการไปตามการให้ปากคำของนางองุ่น จึงแสงมณี เจ้าของรถเทรลเลอร์เท่านั้น แต่เราได้สอบพฤติการณ์แวดล้อม ทั้งตรวจสอบกระแสเงินทางบัญชี และบันทึกการใช้โทรศัพท์ รวมทั้งอีกหลายอย่างมาประกอบกัน คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะทราบผลและจะสามารถเปิดเผยขบวนการนำเข้ารถหรูหลบเลี่ยงภาษีได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ารถโรลส์รอยซ์สีแดงเลือดหมูคาดสีตะกั่วนั้น เป็นรถของนักธุรกิจชาวสิงคโปร์ที่เป็นที่เพื่อนกับลูกชายนำมาฝากไว้นั้น อธิบดีดีเอไอกล่าวว่า เป็นเรื่องที่ ร.ต.อ.เฉลิมให้ข้อมูลเอง สำหรับเรื่องนี้ตนได้มอบหมายให้ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีดีเอสไอ เชิญหน่วยงานทั้ง 7 หน่วยงานมาหารือเรื่องการตรวจสอบ โดยนำเอกสารฉบับจริงจากกรมการขนส่งทางบกมาตรวจสอบภายในวันนี้ ซึ่งเอกสารจากกรมขนส่งทางบกนั้นก็จะมีเรื่องราวตั้งแต่การนำเข้า การเสียภาษี และเอกสารอื่นๆ อย่างครบถ้วน ทั้งนี้ ตนมั่นใจว่าภายในเย็นวันนี้จะทราบผลการตรวจสอบรถของรองนายกฯเฉลิม
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากการประชุมทั้ง 7 หน่วยงาน คาดว่าจะมีการแถลงผลการตรวจสอบรถคันดังกล่าว ซึ่งเบื้องต้นเท่าที่ทราบ ร.ต.อ.เฉลิม ยอมรับว่าเป็นรถที่รับฝากจากหุ้นส่วนชาวสิงคโปร์ ถ้าได้ความว่าเป็นรถจดประกอบก็จะมีการตรวจสอบทางกายภาพ แต่หากไม่ใช่รถจดประกอบก็ไม่เกี่ยวกับรถที่ดีเอสไอดำเนินการอยู่
เมื่อถามว่า รถที่มาตรวจทางเอกสารวานนี้มีความน่าเชื่อว่าเป็นรถที่นำเข้ามาทั้งคันหรือไม่ อธิบดีดีเอสไอกล่าวว่า มีข่าวทางสื่อมวลชนว่าผู้ครอบครองรถบางท่านได้ให้ข่าวชัดเจนวานนี้ว่า รถของผู้ครอบครองรถต้องสงสัยนั้นซื้อจากต่างประเทศแล้วก็ถอดชิ้นส่วนออกเป็นชิ้นๆ แยกเป็นเครื่องยนต์ ตัวถังและอุปกรณ์ โดยนำเข้ามาทีละลำเรือแล้วแยกกันเข้ามา พอมาถึงประเทศไทยก็นำไปประกอบขึ้นใหม่เป็นคันเหมือนเดิม ทั้งนี้สิ่งที่ผู้เสียหายพูดมานั้นเป็นการยอมรับออกสื่อว่ากระทำผิดจริง เพราะว่ารถที่จดประกอบนั้นจะนำเอาอุปกรณ์จากรถหลายๆ คันที่เป็นอะไหล่เก่า เช่น แชสซีส์ ตัวถัง หรือเครื่องยนต์ จากหลายคันที่หมดสภาพมาประกอบเป็นคันใหม่ แต่ถ้าเราไปซื้อหรือมีใครให้ก็แล้วแต่ ซึ่งอาจจะเป็นรถเก่าจากต่างประเทศแล้วหลีกเลี่ยงภาษีโดยการถอดเป็นชิ้นแล้วมาประกอบเป็นร่างใหม่ซึ่งถือว่าเป็นการหลีกเลี่ยงชัดเจน และที่พูดกับสื่อมวลชนว่าถูกต้องๆนั้นก็ชัดเจนว่าเป็นการกระทำผิด
ทั้งนี้ จากการที่เราตวจสอบทางเอกสารวานนี้จากซีรีส์นัมเบอร์ของรถเบนซ์และรถบีเอ็มฯ นั้น พบว่าเลขเครื่อง ตัวถัง และเลขเกียร์เป็นซีรีส์เดียวกันของรถคันเดียวกัน ซึ่งก็ชัดเจนว่าเป็นรถคันเดิมที่มีการหลีกเลี่ยงภาษีแน่นอน อย่างไรก็ตาม เพื่อความเป็นธรรมแม้ว่าเราจะพบตัวเลขที่เข้าข่ายผิดกฎหมายจำนวนหนึ่ง แต่เราก็จะทำการตรวจสอบทางกายภาพเพื่อยืนยันให้ตรงกันกับเอกสาร ซึ่งถ้าการตรวจทางกายภาพประกอบกับเอกสารและปรากฏว่าตัวเลขตรงกันก็แสดงว่ารถคันนั้นมีการหลบเลี่ยงภาษีอย่างแน่นอน ทั้งนี้จากการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเอกสารของรถต้องสงสัยเมื่อวันที่ 17 มิ.ย.เบื้องต้นพบว่ามีรถเบนซ์เข้าข่ายผิดกฎหมายประมาณจาก 338 คัน เข้าข่ายผิดกฎหมาย 264 คัน และบีเอ็มดับเบิลยู จาก 46 คัน เข้าข่ายผิดกฎหมาย 37 คัน