xs
xsm
sm
md
lg

ปคบ.ทลายโกดังผลิตภัณฑ์โบทอกซ์มูลค่า 10 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ปคบ.ทลายโกดังผลิตภัณฑ์โบทอกซ์ อาหารเสริม และเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต ย่านเสนาฯ ยึดของกลางมูลค่า 10 ล้านบาท เตือนผู้บริโภคอาจจะได้รับอันตรายต่อร่างกาย

วันนี้ (11 มิ.ย.) ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ต.นิพนธ์ เจริญผล ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไพฑูรย์ คุ้มสระพรหม รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ล้ำพันธ์ พรรธนประเทศ ผกก.4 บก.ปคบ. พ.ต.ท.อานันท์ วิชเศรษฐสมิต สว.กก.4 บก.ปคบ.แถลงผลการจับกุม นายพลพิพัฒน์ ธมัติรัตน์ อายุ 44 ปี เจ้าของ หจก.เวลตี้ แอนด์ โกรท ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เสริมความงามรายใหญ่ ตั้งอยู่ที่ซอยเสนานิคม 1 แยก 23 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.

นอกจากนี้ ได้ตรวจยึดของกลางประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์รีไฟน์, นูร็อกซิน, ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมซีแอนด์จี บลิ้งค์ เมจิก คอลาเจ้นท์ กลูตาไธโอน ไม่แสดงฉลากข้อความภาษาไทย, ผลิตภัณฑ์เอสอาร์เอส สกิน รีจูเวเนชั่น โซลูชั่น เซรั่ม คอร์พอเรล, ผลิตภัณฑ์เดอร์มัลริส สกิน รีจูเวเนชั่น, ผลิตภัณฑ์เดอร์มัลริส ลีโพลี่ติค โซลูชั่น ผลิตภัณฑ์อินสติติว บีซียู และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จำนวนมาก พร้อมเครื่องจักร ฉลาก และวัตถุดิบที่ใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิต รวมมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท จับกุมได้ที่ หจก.เวลตี้ฯ ที่บ้านพัก และที่โกดังเก็บสินค้าภายในซอยนวลจันทร์ 56 แยก 5 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.

พล.ต.ต.นิพนธ์กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวสืบเนื่องจากชุดสืบสวน กก.4 บก.ปคบ.สืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายผลิตภัณฑ์โบทอกซ์ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอางโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ก่อนขออนุมัติศาลอาญา ออกหมายค้นที่ 213-215/2556 ลงวันที่ 10 มิถุนายน 2556 เข้าตรวจค้น หจก.แห่งนี้ รวมทั้งบ้านพักของนายพลพิพัฒน์ และโกดังเก็บสินค้า ยึดของกลางทั้งหมดไว้ได้ เบื้องต้นพบว่ามีการลักลอบผลิตและปรุงยาที่มีลักษณะเป็นหลอดแก้วหรือพลาสติก (Ampoule) และแบบขวดมีจุกยางใช้เข็มเจาะดูดยา (Vial) ซึ่งผู้ประกอบการขออนุญาตขึ้นทะเบียนเครื่องสำอาง แต่กลับมีการผลิตและส่งจำหน่ายไปยังสถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ

ผบก.ปคบ.กล่าวต่อว่า สำหรับของกลางที่ตรวจยึดได้นั้นยังพบว่า เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดลักษณะเครื่องสำอาง ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย (ฉบับ 2) ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 ยกเลิกการขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ยังไม่ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) อีกด้วย หากผู้บริโภคเข้ารับบริการหรือใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก็อาจจะได้รับอันตรายต่อร่างกาย

พล.ต.ต.นิพนธ์กล่าวอีกว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ขายยาที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา ตาม พ.ร.บ.ยา, ขายผลิตภัณฑ์อาหาร ตาม พ.ร.บ.อาหาร และขายเครื่องสำอาง ที่มีการแสดงฉลากไม่ถูกต้องตาม พ.ร.บ.เครื่องสำอาง และหากนำของกลางส่งตรวจที่ อย.แล้วพบว่ามีสารที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ก็อาจพิจารณาแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป ทั้งนี้ จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยขอให้การในชั้นศาล

“ต้องขอฝากเตือนผู้บริโภคว่าควรระมัดระวังการใช้ยาและผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่างๆ โดยขอให้พิจารณาใน 3 ส่วน คือ 1. สถานประกอบการที่เข้ารับบริการนั้นมีการขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ 2.แพทย์ผู้ทำการรักษามีใบอนุญาตถูกต้องหรือไม่ และ 3. ยาที่ใช้นั้นมีการขึ้นทะเบียนถูกต้องหรือไม่ และหากไม่มั่นใจขอให้ตรวจสอบข้อมูลและสอบถามหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันปัญหาอันตรายที่อาจได้รับจากการใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ เหล่านี้” พล.ต.ต.นิพนธ์กล่าวทิ้งท้าย

กำลังโหลดความคิดเห็น