ตีนแมวบุกเดี่ยวปีนบ้านลูกสาว “มยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช“” ย่านเสนาฯ แม่บ้านประสบเหตุจนถูกทำร้ายร่างกาย คนร้ายวิ่งหลบหนีไปโดยไม่ได้ทรัพย์สินติดตัวไป ตร.รับเรื่องกลับนิ่ง เกรงไม่มั่นใจในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
วันนี้ (9 มิ.ย.) น.ส.ยศสินี ณ นคร หรือจ๋า ลูกสาวของนางมยุรฉัตร เหมือนประสิทธิเวช อดีตดารา และผู้จัดละครชื่อดังไทยทีวีสีช่อง 3 ว่า เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ช่วงเวลาประมาณ 20.00 น.ได้เกิดเหตุมีคนร้ายบุกเข้าบ้าน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบ้านเลขที่ 58/22 ซ.เสนานิเวศน์ 112 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.
น.ส.ยศสินีเปิดเผยถึงเหตุการณ์คนร้ายบุกเข้าบ้านว่า บ้านที่เกิดเหตุเปิดเป็นบริษัท เม็คเกอร์ไวน์ จำกัด เป็นลักษณะบ้าน 2 ชั้น แบ่งเป็น 3 หลัง เนื้อที่ประมาณ 300 ตารางวา ที่บริเวณรั้วด้านหลังบ้านพบมีร่องรอยเท้าการปีนป่ายเข้ามาจากภายนอก โดยเข้าไปในห้องของแม่บ้าน ซึ่งเป็นจังหวะที่ทุกคนกำลังรับประทานอาหาร โดยแม่บ้านคือ น.ส.สาลี่ นาแง่ ได้อุ้มหลานและหมาเข้าไปในห้องพักและพบกับคนร้ายซึ่งอยู่ภายในห้องพักส่วนตัว จึงพยายามจะตะโกนขอความช่วยเหลือ ก่อนถูกคนร้ายใช้กระเป๋าฟาดเข้าที่ใบหน้าและวิ่งออกทางประตูปีนกำแพงหลบหนีไปยังบ้านข้างเคียง ซึ่งแม่บ้านได้วิ่งออกมาเรียกขอความช่วยเหลือ โดยคุณพ่อตนกับคนในบ้านได้วิ่งติดตามไป แต่คนร้ายก็ยังหลบหนีไปได้
น.ส.ยศสินีกล่าวอีกว่า จากนั้นตนได้พยายามติดต่อแจ้ง 191 พร้อมทั้งแจ้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมงได้มีอาสาตำรวจเข้ามาสอบถามเหตุการณ์ ซึ่งตนเองคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่มารู้ภายหลังว่าเป็นอาสา ซึ่งทั้งสองกลับแนะนำเพียงให้ระวังป้องกันเท่านั้น จากนั้นตนพยายามประสานขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เคยมาดูแลช่วงจัดพิธีบวงสรวงละคร ซึ่งก็เดินทางมาที่บ้านและเก็บรายละเอียดต่างๆ ก่อนที่จะกลับไป ทำให้ตนและคนในบ้านสับสนว่าต่อไปนี้ควรจะประสานงานกับใคร เพราะไม่ได้คำแนะนำและรู้สึกไม่มั่นคงในชีวิตทรัพย์สิน เพราะเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้ามาและมีการทำร้ายร่างกายถึงในบ้านแต่กลับไม่มีเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบดูแล หรือต้องให้ถึงกับเสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงจะเดินทางมา ทำให้เสียความรู้สึก เพราะคนร้ายเข้ามาก่อเหตุในช่วงเวลา 2 ทุ่ม ซึ่งมีคนอยู่เต็มบ้าน นอกจากนี้ บริเวณหน้าบ้านยังเคยถูกคนร้ายทุบกระจกในช่วงเวลากลางวันด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธนวัฒน์ วัฒนกุล ผกก.สน.โชคชัย กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องเมื่อช่วงเช้าได้เดินทางไปที่บ้านเกิดเหตุและพูดคุยสอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานมาตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงแล้ว และได้ให้ทีมสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบตามแคมป์งานก่อสร้าง นอกจากนี้ได้เชิญแม่บ้านที่เห็นหน้าคนร้ายมาให้ข้อมุลเพื่อออกภาพสเกตช์ใบหน้าคนร้ายด้วย