ตำรวจคุมตัว “ไอ้โหด” ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ “น้องยิ้ม” สาวสวยโออิชิไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุลานจอดรถห้างค้าปลีกชื่อดังย่านบางกะปิ ชาวบ้านต่างโกรธแค้นแห่รอรุมประชาทัณฑ์ ก่อนตำรวจรีบนำตัวออกจากที่เกิดเหตุทันที! ด้านพี่สาวสุดอาลัยรุดรับศพน้องสาวที่ สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เผยน้องแวะจอดรถซื้อของประจำ ชี้บางจุดที่จอดรถในห้างเปลี่ยวอันตราย
วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางกรวย นำตัวนายทัศไนย แสงศรี อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.พรพรรณ พรหมจารย์ หรือน้องยิ้ม ผู้เข้าประกวดโครงการ Oishi Mc Search Gen 2 มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ห้างสรรพสินค้าปลีกชื่อดังย่านบางกะปิ โดยระหว่างการนำตัวมาทำแผนได้มีประชาชนมามุงดูการทำแผนจำนวนมาก จนบางรายถึงกับโกรธแค้นในความโหดเหี้ยมของผู้ต้องหาพยายามที่จะเข้ามาประชาทัณฑ์
โดยจุดแรกเริ่มจากจุดที่สะกดรอยตามผู้ตาย ก่อนที่จะเข้ามาเปิดประตูรถด้านหลังคนขับขณะผู้ตายกำลังขึ้นรถ บริเวณลานจอดรถโซน 5 ซี จากนั้นผู้ต้องหาได้ใช้มีดจี้ที่คอผู้ตายก่อนบังคับให้ขับรถออกไป ระหว่างนั้นผู้ตายเกิดขัดขืนผู้ต้องหาจึงใช้อาวุธมีดปาดคอผู้ตายและเลื่อนผู้ตายไปที่เบาะนั่งด้านข้างคนขับ และเอนเบาะเพื่อพลางศพ จากนั้นจึงปีนไปด้านคนขับก่อนขับรถออกไป จุดที่สองที่ห้องพักหมายเลข 406 ภายในโรงแรมกิ๊กทาวน์ ถนนราชพฤกษ์ ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ต้องหาขับรถของผู้ตายมาเปิดห้องก่อนจะลากศพลงจากรถไปทิ้งไว้ในห้องน้ำ จากนั้นผู้ต้องหาได้พยายามขับรถของผู้ตายหนี แต่เกียร์เกิดขัดข้อง จึงได้ทิ้งรถก่อนวิ่งออกไปเรียกรถแท็กซี่เพื่อหลบหนี แต่พนักงานโรงแรมซึ่งกำลังเข้ามาเก็บค่าห้องเกิดเห็นรอยเลือดจึงรีบโทร.แจ้งเจ้าหน้าที่จนสกัดจับผู้ต้องหาไว้ได้
นายทัศไนย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริงและอ้างว่าได้ซื้อมีดที่ใช้ก่อเหตุมาจากห้างอิมพีเรียลลาดพร้าว ก่อนจะมาเดินที่ห้างเดอะมอล์บางกะปิ และข้ามมาที่ห้างที่เกิดเหตุซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ระหว่างเดินอยู่นั้นเห็นผู้ตายใส่สร้อยทอง นาฬิกา เดินคุยโทรศัพท์ จึงคิดว่าน่าจะมีเงิน จึงเกิดความคิดชั่ววูบประกอบกับต้องการเงินไปใช้หนี้ค่าผ่อนรถ จึงเดินตามผู้ตายมาที่ลานจอดรถ แต่ระหว่างที่ผู้ตายขึ้นรถได้เปิดประตูหลัง เลยฉวยโอกาสใช้มีดจี้และล็อกคอ แต่ผู้ตายขัดขืนจึงใช้มีดปาดคอผู้ตาย จากนั้นนำศพไปทิ้งที่โรงแรมกิ๊กทาวน์ ซึ่งเป็นโรงแรมที่เคยมาพักกับแฟนสาวสมัยที่เป็นทหารเกณฑ์ ทั้งนี้ยืนยันว่าตนเองเพิ่งก่อเหตุเป็นครั้งแรก เพียงประสงค์ต่อทรัพย์เท่านั้น ไม่หวังชีวิตและข่มขืน ตนรู้สึกเสียใจและอยากขอโทษต่อครอบครัวของผู้ตาย หลังจากทำแผนเสร็จสิ้นเจ้าหน้าที่รีบควบคุมตัวขึ้นรถทันทีเกรงว่าจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากไทยมุงมีจำนวนมาก
ด้าน พล.ต.ต.ธนายุตม์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี กล่าวว่า ตำรวจมีหลักฐานเพียงพอ ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิด และมีด ซึ่งตรวจพบบนรถแท็กซี่ที่ผู้ต้องหานั่งขณะหลบหนี จากการตรวจสอบพบรอยนิ้วมือของผู้ต้องหาบนมีดที่พบ ซึ่งคดีนี้เป็นอุทาหรณ์สำหรับคนที่จอดรถในอาคารจอดรถ ให้จอดในที่ที่มีแสงสว่างเพียงพอ ก่อนขึ้นรถให้สังเกตว่ามีสิ่งผิดปกติหรือคนแปลกหน้าเดืนตามหรือไม่ รวมถึงให้ล็อกรถทันที เพื่อป้องกันเหตุ หลังจากนี้จะนำตัวผู้ต้องหาไปตรวจสอบประวัติและจะประสานไปยัง กก.สส.บก.น.4 ว่าผู้ต้องหาเคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะนี้หรือไม่ รวมถึงตรวจสอบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่
ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ น.ส.สาวิตรี พรหมจารย์ อายุ 30 ปี พี่สาวของ น.ส.พรพรรณ พรหมจารย์ หรือน้องยิ้ม ที่ถูกนายทัศไนย แสงศรี อายุ 26 ปี ก่อเหตุจี้จากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว ใช้ของมีคมแทงที่ลำคอภายในรถยนต์และนำศพไปทิ้งที่โรงแรมกิ๊กทาวน์ ย่านบางกรวย พร้อมด้วยเพื่อนๆ ได้เดินทางมารับศพ น.ส.พรพรรณ ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าสลด
น.ส.สาวิตรี เผยด้วยความเศร้าโศกว่า น้องสาวทำงานที่ซอยลาดพร้าว 80 โดยก่อนเกิดเหตุน้องสาวได้เดินทางกลับจากที่ทำงานเพื่อกลับบ้านพักย่านสุขาภิบาล 3 แต่ระหว่างทางได้แวะซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ โดยนำรถไปจอดที่ห้างสรรพสินค้าโลตัส ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อสะดวกในการกลับรถ เมื่อซื้อของเสร็จน้องสาวได้เดินกลับมาที่ลานจอดรถ คาดว่าคนร้ายน่าจะอาศัยจังหวะที่น้องสาวกำลังเปิดประตูรถลงมือก่อเหตุทันที ซึ่งปกติหลังเลิกงานน้องมักแวะซื้อของที่ห้างดังกล่าวเป็นประจำ แต่จะมีเพื่อนหรือญาติไปด้วยเสมอ ส่วนที่จอดรถมีลักษณะเหมือนที่จอดรถทั่วไป แต่จะเปลี่ยวในบางเวลา หากเดินคนเดียวจะเป็นอันตรายมาก ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนเองและน้องสาวไม่เคยมีศัตรูที่ไหน ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายมาก่อน และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางครอบครัวยังรู้สึกช็อก และยังรับไม่ได้ที่จะต้องสูญเสียน้องสาวไปอย่างกะทันหัน โดยหลังจากนี้จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดที่วัดสระบัวทอง อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
ขณะที่แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตของ น.ส.พรพรรณ ว่า มาจากเส้นเลือดใหญ่บริเวณลำคอฉีกขาด เสียเลือดมากจากการถูกของมีคมเฉือน