“เฉลิม” แถลงผลงานจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 4 คดี พร้อมของกลางยาบ้าเกือบล้านเม็ด
วันนี้ (4 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชัยวัฒน์ โชติมา ผบช.ปส.ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมยาเสพติด 4 คดีด้วยกัน
คดีที่ 1 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส.จับกุม นายชัยน่าน แสงซ่งพงศ์พันธุ์ อายุ 33 ปี นายนิคม อนุสาวรีย์ดอย อายุ 24 ปี นายกำพล แซ่ว้า อายุ 23 ปี นายภานุวิชย์ แซ่ว่าง อายุ 17 ปี นายจตุรพิธ อยู่วิจิตร อายุ 32 ปี นายเล่ง แซ่ซ้ง อายุ 29 ปี นายวีระชัย ท่อศิริกุล อายุ 30 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 500,000 เม็ด
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีคนร้ายขนยาเสพติดจากภาคเหนือมาส่งมอบให้ลูกค้าในเขต กทม.และปริมณฑล เจ้าหน้าจึงได้สะกดรอยตามรถกระบะ บธ 7655 พะเยา ที่สายลับแจ้งมา จนสามารถสกัดรถได้บริเวณ หลักกิโลเมตรที่ 91/92 ต.ไพศาลี อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ สามารถจับกุมนายกำพล และนายภานุวิทย์ ได้ โดยผู้ต้องหาทั้งสองสารภาพว่าได้ส่งของให้กับผู้ต้องหาอีกกลุ่มไปซึ่งให้รถกระบะวีโก้ หมายเลขทะเบียน บร 5540 พิษณุโลก จึงได้สกัดจับรถกระบะวีโก้ได้ที่ด่านตรวจนางฟ้า ทุ่งน้าว อ.สอง จ.แพร่ พร้อมของกลางยาบ้าและผู้ต้องหาทั้งหมด
คดีที่ 2 สามารถจับกุมนายวิชัย หรือ ต้น สถิตไพรวัลย์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด เงินสด 5,089,800 บาท โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับแจ้งจากสายลับว่าผู้ต้องหาจะนำยาเสพติดไปส่งให้ลูกค้าในตัวเมืองเชียงใหม่ จึงได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมจนกระทั่งผู้ต้องหาได้ขับรถกระบะยี่ห้อ โตโยต้า ทะเบียน ผธ 5278 เชียงใหม่ มาตามเส้นทางฮอด-แม่สะเรียง จึงเรียกทำการตรวจค้น จึงพบยาบ้าและเงินสดดังกล่าวซุกซ่อนอยู่ในรถจึงได้จับกุมตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.3บช.ปส.ดำเนินคดีตามกฎหมาย
คดีที่ 3 สามารถจะจับกุมนายเปาซี เงาะ อายุ 32ปี น.ส.ศรีอักษร ศรีมณีอายุ 37 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 300,000 เม็ด โดยการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตังด่านตรวจยานพาหนะชุมพร ถนนเพชรเกษม ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ระหว่างที่ตั้งด่านตรวจก็มีรถเก๋งวอลโว่ สีเขียวทะเบียน กต 6843 นครปฐม วิ่งผ่านมาดูน่าสงสัย จึงได้เรียกตรวจค้น มีนายเปาซี เป็นคนขับ น.ส.ศรีอักษร และเด็กอายุขวบกว่าๆ นั่งโดยสารมา ผลการตรวจค้นได้ของกลางยาบ้า 300,000 เม็ด
น.ส.ศรีอักษร รับสารภาพว่า รับยามาจาก จ.เพชรบุรี เพื่อนำไปส่งที่ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส โดยทำมา 3 ครั้งแล้ว ได้ค่าจ่างครั้งละ 100,000 บาท พร้อมยืนยันว่าไม่มีการผลิตยาทางภาคใต้ ยาส่วนใหญ่ต้องไปรับมาจากทางภาคเหนืิอ
คดีที่ 4 จับกุมนายอาทิตย์ จงเจริญ อายุ 30 ปี นายไมเต๋อ มณีกุล อายุ 43 ปี นายสมยศ เสรีวงศ์สวัสดิ์ อายุ 36 ปี นายณภัทร ฤทธิไตรภพ อายุ 29 ปี พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด โดยการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีชาวเขาเผ่าม้งมาส่งยาบ้าที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยใช้รถกระบะโตโยต้า ทะเบียน ถฬ 4062 กทม.และรถยนต์อีซูซุ ทะเบียน กฉ 185 ลำปาง จึงได้จัดชุดติดตามรถทั้งสองคัน พบรถทั้งสองคันหยุดรถบริเวณหน้าร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ถนนสายพิษณุโลก-หล่มสัก จากนั้นมีรถกระบะวีโก้หมายเลขทะเบียน กน 3514 พิษณุโลก ขับนำรถทั้งสองคันไปทาง อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ จนรถกระบะวีโก้หมายเลขทะเบียน กน 3514 พิษณุโลก เข้าไปจอดที่ โรงแรมสันติสุขรีสอร์ท ห้อง เอ6 เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนายอาทิตย์ พร้อมของกลางยาบ้า 100,000 เม็ด ส่วนผู้ต้องหารายอื่นๆ เจ้าหน้าที่ได้แบ่งกำลังติดตามรถจนสามารถจับกุมได้ทั้งหมด
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ยืนยันว่ายาที่ส่งไปภาคใต้ผลิตในภาคเหนือทั้งหมด ไม่มียาผลิตในภาคใต้ หลังจากนี้จะหารือกับทาง ผบ.ตร. เลขา ป.ป.ส.จัดสัมมนาใหญ่ตำรวจระดับ ผกก.ขึ้นไปที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้นต่อไป
ด้าน พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตนเองไปทำงานในพื้นที่ มีประชาชนถามหลายครั้งว่ายาเสพติดที่นำมาแถลงเป็นของเก่าหรือไม่ ตรงนี้ยืนยันได้ว่าไม่มีการนำยาเสพติดเก่ามาแถลงเป็นการจับกุมของแต่ละครั้ง การจับกุมการส่งของกลางมีระเบียบขั้นตอนระบุไว้ ยาเสพติดของกลางตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจับ ยึด และตรวจพิสูจน์ พ.ศ.2537 ต้องทำบัญชีตรวจยึดของกลาง ส่งของกลางทั้งหมดไปสถานตรวจพิสูจน์ภายใน 3 วัน ได้แก่ยาเสพติเประเภท 1 และ 2 ยกเว้นยาเสพติดประเภท 4 และ 5 จะสุ่มตัวอย่างส่งตรวจเมื่อทราบผลการตรวจก็ขออนุมัติ ผบ.ตร.ในการเผาทำลาย
ของกลางที่เหลือจากการตรวจพิสูจน์จะถูกส่งให้สำนักงานองค์การอาหารและยา (อย.)เพื่อเก็บไว้ในคลังของ อย.เมื่อคดีถึงที่สุดศาลตัดสินให้เผาทำลายยาเสพติด ของกลางซึ่งโดยปกติจะมีการเผาทำลายของกลางปีละ 1 ครั้ง ในวันที่ 26 มิถุนายน ซึ่งเป็นวันต่อต้านยาเสพติดโลก