ศาลปล่อยตัว “ฮาเวิร์ด หวัง” เตรียมส่งให้ สตม.รอผลักดันออกนอกประเทศ ด้าน สตม.เห็นใจอนุญาตให้ประกันตัวสามารถอยู่ในเมืองไทยได้ 7-30 วัน แม่ฮาเวิร์ดเผยอยากให้กลับทันที เพราะหากอยู่ต่อเรื่องจะยุ่งยาก ส่วนตัวฮาเวิร์ดรับปากจะบวชเพื่อจะได้สงบจิตใจและยังอยากอยู่เมืองไทยต่อเพื่อทำงาน
วันนี้ (30 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ร.ต.ต.สุธีร์ ใยบัว รอง สวป.สน.ลาดพร้าว ลาดพร้าว ได้ควบคุมตัวนายฮาเวิร์ด หวัง ขึ้นรถสายตรวจของ สน.ลาดพร้าว มาส่งตัวที่สถานกักตัวคนต่างด้าว (สตม.) เพื่อเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ โดยมีนางจูลี่ ชู อายุ 62 ปี ผู้เป็นแม่ร่วมเดินทางมาในรถด้วย เมื่อลงจากรถเห็นสื่อมวลชนจากหลายสำนักที่มารอบันทึกภาพ-ทำข่าวก็ยกมือไหว้ทักทายสวัสดีด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม โดยกล่าวว่า “ดีใจที่ได้ออกมากอดแม่อีกครั้ง และคดีสิ้นสุด ขอบคุณสื่อมวลชนที่มารอทำข่าว หลังจากนี้จะขอไปเคลียร์ทุกอย่างก่อน” จากนั้นเจ้าหน้าที่ สตม.ได้นำตัวนายฮาเวิร์ดเข้าไปที่สถานกักตัวคนต่างด้าว พร้อมได้ทำบันทึกรับตัวจาก สน.ลาดพร้าว ก่อนทำประวัติไว้ทันที ในวันนี้นายฮาเวิร์ดแต่งกายด้วยการใส่หมวกแก๊ปสีดำ แว่นตากันแดด สวมเสื้อยืดสีขาว นุ่งกางเกงยีนส์ สะพายกระเป๋าสีดำ ใบหน้าดูซูบผอม
เนื่องจากกรณีที่นายธนวรรษ ว่องไวทวีวงศ์ อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษฝ่ายคดีอาญา 9 ได้ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลปล่อยตัวนายฮาเวิร์ด หวัง หรือหวัง เหว่ยลี่ หรือหวัง ลี่ จิน อายุ 27 ปี สัญชาติไต้หวัน นายแบบและอดีตนักร้องวงไจแอนท์ ที่บุกรุกบ้านพักยามวิกาลของอดีตแฟนสาว น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือเอมี่ แม็กซิม อายุ 28 ปี นางแบบ เนื่องจากมีคำสั่งไม่ฟ้อง จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดพร้าว เดินทางมารับตัวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปเมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเตรียมส่งให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ดำเนินการผลักดันออกนอกประเทศ เนื่องจากชื่ออยู่ในบัญชีดำเป็นบุคคลต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักรตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายอากาศ วสิกชาติ ทนายความของนายฮาเวิร์ดเปิดเผยว่า หลังจาก สตม.ทำการรับตัวนายฮาเวิร์ดมาแล้วนั้นก็อยู่ในขั้นตอนรอผลักดันออกนอกประเทศ ซึ่งหากไม่มีปัญหาอะไร และมีตั๋วเครื่องบินพร้อมก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ทันที เเต่เนื่องจากมีคดียื่นฟ้อง สตม.ต่อศาลปกครองอยู่ ในกรณีที่ใช้ดุลพินิจให้นายฮาเวิร์ดเป็นบุคคลในแบล็กลิสต์โดยมิชอบ และศาลปกครองก็รับคดีไว้แล้ว จึงจะทำเรื่องขอยื่นประกันตัวเพื่อต่อสู้คดี โดยใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสด 1 แสนบาท ซึ่งในช่วงบ่ายจะทำเอกสารยื่นให้ทาง ผบช.สตม.เป็นผู้พิจารณาอีกครั้ง โดยน่าจะทราบผลในช่วงเย็น
นายอากาศกล่าวอีกว่า หากทาง สตม.อนุญาตให้ได้รับการประกันตัว ก็จะมีระยะเวลาตั้งแต่ 7-30 วันที่จะสามารถอยู่ในเมืองไทยได้ หลังจากนั้นก็อาจจะถูกผลักดันต่อไป แต่หากไม่ได้รับการประกันตัวก็อาจจะถูกส่งกลับทันที ถ้านายฮาเวิร์ดตัดสินใจเดินทางกลับวันนี้ก็อาจจะไม่ได้กลับมาที่เมืองไทยอีกเลยตลอดชีวิต หรือหลังจากนี้อีก 5 ปีก็ต้องยื่นขอให้ทาง สตม.ทบทวนการขึ้นเเบล็คลิสใหม่อีกครั้ง จึงตัดสินใจอยู่เพื่อสู้คดี ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่านายฮาเวิร์ดอยู่เมืองไทยตั้งแต่ 6 ขวบ หากเดินทางกลับไปไต้หวันก็ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม
ด้านนางจูลี่ ชู แม่ของฮาเวิร์ดกล่าวว่า ได้คุยกับลูกชายแล้ว เจ้าตัวก็บอกยังอยากอยู่เมืองไทยต่อ จะอยู่กี่วันก็ได้ เพราะยังไม่ได้เตรียมตัวว่าจะกลับ นอกจากนี้ลูกชายยังรับปากว่าจะบวชด้วย เพราะคดีสิ้นสุดแล้ว แต่โดยส่วนตัวของตนนั้นอยากจะให้ลูกชายเดินทางกลับทันที เพราะหากอยู่ต่อเรื่องจะยุ่งยาก อาจจะมีปัญหาอีก แต่ลูกชายก็บอกอยากจะอยู่ต่อเพื่อทำงาน ซึ่งตนก็ไม่อยากตัดสินใจแทนลูก ให้เจ้าตัวตัดสินใจเองว่าจะทำอย่างไร เพราะลูกชายรับปากแล้วว่าจะบวช ตนก็เห็นด้วยที่ลูกชายจะบวชเพื่อจะได้สงบจิตใจ
นางจูลี่กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นอยากให้เป็นบทเรียนกับลูกชาย ต่อไปจะได้ไม่ทำอะไรผิดอีก จะได้มีอนาคตที่ดีขึ้น ซึ่งตนก็เชื่อใจว่าลูกชายจะทำได้ อยากให้สังคมให้โอกาสทำงานต่อไปในเมืองไทยด้วย ส่วนเรื่องการคบหากับเอมี่ แม็กซิมนั้น ตนเห็นว่าลูกชายโตแล้วอยากปล่อยให้เจ้าตัวตัดสินใจเองดีกว่า เมื่อทำเองก็ต้องรับผิดชอบเอง ตนจะแค่มองดูอยู่เท่านั้น แต่ตนก็ต้องขอขอบคุณเอมี่ ที่ไปเยี่ยมลูกชายทุกวัน เป็นเพื่อนที่ให้กำลังใจฮาเวิร์ดได้มากที่สุด ตนเห็นว่าถ้าคบเป็นเพื่อนกันก็น่าจะได้ แต่หากให้กลับมาคบกันนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้
ขณะที่ พล.ต.ท.ภาณุ เกิดลาภผล ผบช.สตม.กล่าวว่า สำหรับเรื่องการยื่นขอประกันตัวนายฮาเวิร์ดนั้น ได้ให้นโยบายไปแล้วว่าอนุญาตให้ประกันตัว โดยใช้หลักทรัพย์ 50,000-100,000 บาท ซึ่งเจ้าตัวให้เหตุผลว่าจะขอจัดการเรื่องข้าวของและบวชในประเทศไทย แต่การให้ประกันนั้นมีเงื่อนไขสามารถถอนประกันเรียกตัวกลับมาได้ทันที ซึ่งก็เห็นใจเพราะอยู่เมืองไทยมาตั้งแต่ 6 ขวบ หากกลับไปก็ไม่มีญาติหรือสังคม แต่ตามกฎหมายนั้นนายฮาเวิร์ดเป็นคนไต้หวัน ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของไทย ส่วนเรื่องการฟ้องศาลปกครองเรื่องการใช้ดุลพินิจขึ้นบัญชีดำโดยมิชอบนั้นเป็นสิทธิ์ที่เจ้าตัวสามราถกระทำได้ ก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอน