ตร.ลาดพร้าวนำหมายจับคุมตัว “ฮาเวิร์ด หวัง” เอาผิดฐานบุกรุกเคหสถานฯ เจ้าตัวปฏิเสธ อ้างแค่จะเอาของขวัญไปให้แฟน เผยอนาคตจะไปร้องเพลงที่มาเลเซีย ด้าน “เอมี่” ขึ้น สน.ให้ปากคำเพิ่ม เจอหน้าแฟนหนุ่มโผเข้ากอดร่ำไห้ นัดเคลียร์ทุกอย่างวันนี้ ทางช่องสตาร์แม็กซ์ ด้านทนายยื่น 7.5 หมื่นขอประกันตัว ตร.เตรียมค้าน
วานนี้ (24 เม.ย.) จากกรณีที่ น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมี่ แม็กซิม อายุ 28 ปี ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันกับทางเจ้าหน้าที่ สน.ลาดพร้าว เนื่องจากถูกฮาเวิร์ด หวัง อดีตนักร้องวงไจแอนท์ บุกบ้านพัก โดยได้ทุบกระจกและใช้เลือดเขียนข้อความว่า “I love you but you don’t” เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่ 17 เม.ย. และได้เข้าแจ้งความเพื่อเป็นหลักฐานเมื่อวันที่ 22 เม.ย. ต่อมาวันที่ 23 เม.ย.เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจับกุมฮาเวิร์ด หวัง ได้ที่ฟิตเนสกลางห้างดังย่านรัชดาภิเษกตามที่เสนอข่าวไปแล้ว
ความคืบหน้าทางคดี พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบก.น.4 กล่าวว่า ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ สน.ลาดพร้าวไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกเพื่อออกหมายจับนายฮาเวิร์ด หวัง ในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ซึ่งไม่สามารถที่จะยอมความกันไม่ได้ และให้ สน.ลาดพร้าวไปอายัดตัวฮาเวิร์ด หวังจากที่ ตม.เพื่อมาสอบปากคำที่ สน.ลาดพร้าว และนำตัวส่งศาลดำเนินคดี ก่อนจะผลักดันตัวกลับไต้หวัน ซึ่งขั้นตอนทั้งหมดจะแล้วเสร็จภายในวันนี้
พ.ต.อ.ภาคภูม พูลศิริโภคา พนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สอบปากคำพยานในวันเกิดเหตุ พบว่าฮาเวิร์ด หวัง ไม่ได้มีเจตนาบุกรุก เพียงแต่จะมาเซอร์ไพรส์และได้กดกริ่งหน้าบ้าน เมื่อไม่เห็นใครเปิดออกมา ประกอบกับเห็นไฟห้องนอนของเอมี่เปิดไว้ จึงปีนไปก่อเหตุดังกล่าว และทิ้งของขวัญก่อนจะกลับไป หลังสอบปากคำเอมี่ก็ไม่ได้ติดใจจะเอาเรื่อง เมื่อวานนี้ช่วงเย็นเจ้าหน้าที่พยายามติดต่อไปทางเอมี่เพื่อมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่เอมี่ไม่ประสงค์จะให้ปากคำเพื่อดำเนินคดีกับฮาเวิร์ด หวัง เนื่องจากยังคบกันอยู่ แต่เนื่องจากทางผู้บังคับบัญชาเห็นว่า คดีดังกล่าวอยู่ในความสนใจของประชาชนและสื่อมวลชนจึงต้องแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดีกับอดีตนักร้องวงไจแอนท์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ กล่าวต่ออีกว่า คดีนี้แม้ผู้เสียหายจะไม่ติดใจ แต่ข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืนนั้น เป็นข้อหายอมความกันไม่ได้ แม้เจ้าทุกข์จะไม่ติดใจ แต่ตามกฎหมายถือเป็นอาญาแผ่นดิน เจ้าหน้าที่ต้องดำเนินคดี และทางพนักงานสอบสวนได้ไปขออำนาจศาลอาญารัชดาภิเษกเพื่อขอหมายจับในข้อหาบุกรุกเคหะสถานในเวลากลางคืน ถึงเอมี่อาจจะถอนแจ้งความ ก็ไม่สามารถยุติการดำเนินคดีได้ เจ้าหน้าที่สามารถฟ้องได้เลย ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่จะไปรับตัวฮาเวิร์ด หวังที่ ตม.มาสอบปากคำและควบคุมตัวที่ สน.ลาดพร้าวต่อไป
ต่อมาศาลอาญารัชดาภิเษกอนุมัติหมายจับเลขที่ 708/2556 ลงวันที่ 24 เม.ย.2556 และเจ้าหน้าที่ตำรวจนำหมายจับไปที่ ตม.เพื่อนำตัวฮาเวิร์ด หวังมาที่ สน.ลาดพร้าว จนกระทั่งเวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่นำตัวฮาเวิร์ด หวังมาเข้าห้องพนักงานสอบสวนโดยมี พ.ต.อ.ภาคภูมิและ พ.ต.ท.ผดุงศักดิ์ สุวรรณชัยรบ พงส.ผนพ.สน.ลาดพร้าวเจ้าของคดีสอบร่วมปากคำโดยมีนายอากาศ วสิกชาติ ทนายความร่วมอยู่ด้วย ต่อมาแม่ของฮาเวิร์ดได้เดินทางมาเป็นกำลังใจ ทางอดีตนักร้องวงไจแอนท์ได้สวมกอดแม่
นายฮาเวิร์ด เปิดเผยว่า ตนไม่ขอให้การในชั้นพนักงานสอบสวน โดยปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขอให้การในชั้นศาล และทางทนายได้นำหลักทรัพย์เป็นเงินสด 60,000 บาท ยื่นขอประกันตัว สำหรับคดีนี้ ตนไม่มีเจตนาบุกรุกบ้านเอมี่ เพียงแต่ที่ไปก็เพื่อจะนำของขวัญไปให้ และก็มาเที่ยวเทศกาลสงกรานต์กับเอมี่ เหตุการณ์วันนั้นยอมรับว่าใช้ศอกกระแทกกระจกจริง ซึ่งตนไปบ้านได้กดกริ่ง เห็นไฟที่ห้องเอมี่ที่อยู่ชั้น 2 เปิด แอร์ก็ทำงาน รถก็จอดอยู่ ด้วยความโกรธที่ไม่มีใครมาเปิดประตู จึงปีนขึ้นไปและก่อเหตุดังกล่าว แต่ไม่ได้มีเจตนาจะบุกรุกแต่อย่างใด ต่อไปความสัมพันธ์ระหว่างตนกับเอมี่ แม็กซิม คงยากที่จะกลับมาเหมือนเดิม
นายฮาเวิร์ด กล่าวว่า สำหรับสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนชื่อในพาสปอร์ตเพื่อเข้าประเทศไทยนั้น ไม่ได้มีเจตนาเลี่ยงเข้าประเทศไทย เพราะตนรู้อยู่แล้วว่า ติดแบล็กลิสต์ทาง ตม. แต่ที่เปลี่ยนชื่อเพราะว่า ไปหาหมอดูที่ไต้หวันโดยเปลี่ยนชื่อ 2 ครั้ง ชื่อล่าสุดทางหมอดูแนะนำว่าให้เปลี่ยนชื่อแล้วจะดี จึงเปลี่ยนเป็นนายหวัง ลี่ จิง ซึ่งแปลว่า ผู้มีความสว่าง แต่ก็ขอวีซ่าจากสถานทูตไทยที่ไต้หวันแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุลักษณะนี้ วันนี้ตนได้เขียนจดหมายถึงเอมี่ แฟนคลับ และคุณแม่ของตน เพื่อขอโทษในเรื่องนี้ ตอนนี้รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อนาคตตนจะไปทำงานร้องเพลงที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนจะมาประเทศไทยในช่วงสงกรานต์ก็ไปทำงานที่นั้นมา และตัดสินใจมาพักร้อนช่วงสงกรานต์ที่ไทย ขอขอบคุณแฟนที่สนับสนุนตน ทั้งตอนอยู่กับวงไจแอนท์และตอนนี้ ขอบคุณแฟน ๆ ที่ให้การสนับสนุนมาตลอด ตนขอให้ทุกคนไม่ยอมแพ้ คิดถึงทุกคน ขอให้ทำความฝันให้เป็นจริง ต่อไปตนจะฝึกซ้อมร้องเพลงที่ประเทศมาเลเซียต่อไป
ล่าสุดพนักงานสอบสวนได้นำตัว นายฮาเวิร์ด หวัง ออกจากห้องสอบสวนมาพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา หลังใช้เวลาสอบสวนเกือบ 1 ชั่วโมง โดยนายฮาเวิร์ดมีสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมกับขอร้องสื่อมวลชนไม่ให้บันทึกภาพขณะพิมพ์ลายนิ้วมือ จากนั้น นายฮาเวิร์ด ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า อยากขอแก้ข่าวเรื่องที่ตนพูดว่าไปเปลี่ยนชื่อเพื่อเข้ามาที่ประเทศไทย โดยจริงๆ แล้วตนไม่ได้มีเจตนาจะเปลี่ยนชื่อแล้วหลบหนีเข้าเมืองไทย แต่ที่เปลี่ยนชื่อเพราะไปดูหมอดูที่ไต้หวันแล้วหมอดูทักว่า ต้องเปลี่ยนชื่อดวงถึงจะดีและรุ่งเรือง จึงเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น หวัง ลี่ จิง ซึ่งชื่อเดิมก็เคยใช้ชื่อ หวัง สือ เฮา ไม่ได้คิดจะทำผิดกฎหมาย
นายฮาเวิร์ด ให้สัมภาษณ์ต่อไปว่า พอเปลี่ยนชื่อแล้วก็ยื่นเรื่องขอวีซ่ามาประเทศไทย เพื่อมาเที่ยววันสงกรานต์ ไม่คิดว่าจะมาถูกจับ ไม่มีเจตนาจริงๆ พอมาถึงก็อยากนำของขวัญวันเกิดจากไต้หวันไปให้ เอมี่ แฟนสาว แต่พอไปถึงบ้านแล้วเอมี่ไม่เปิดประตูให้เลยปีนระเบียงขึ้นไปหา แล้วใช้ศอกกระแทกกระจกจนแตก แล้วใช้เลือดเขียนข้อความฝากไว้ ไม่ได้กรีดข้อมือเอาเลือดมาเขียนแต่อย่างใด และไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โกรธเอมี่หรือไม่ที่มาแจ้งความ และเคยด่าเอมี่ว่าเป็นกระหรี่หรือไม่ นายฮาเวิร์ด กล่าวว่า ยอมรับว่าได้ด่าเอมี่จริง เพราะตอนนั้นกำลังโกรธอยู่ ที่มาหาแล้วเอมี่ไม่สนใจ เลยพิมพ์ข้อความเป็นภาษาคาราโอเกะส่งไปในโปรแกรมไลน์เข้าโทรศัพท์เอมี่ไปด่า ซึ่งคิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะทำให้โกรธขนาดนี้ และได้คุยกับเอมี่แล้ว เอมี่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตเหมือนกัน ซึ่งหากตอนนั้นตอนแค่วางของขวัญไว้เฉยๆ ก็คงไม่เกิดเรื่องขึ้น
เมื่อถามอีกว่า ที่เอมี่บอกว่าขอเป็นแค่เพื่อนรู้สึกอย่างไร และเข็ดหรือไม่กับเรื่องผู้หญิง นายฮาเวิร์ดกล่าวว่า ไม่ขอพูดก็แล้วกัน ก่อนจะพูดเล่นติดตลกว่า ผมเห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตายครับ แต่ตนก็เคยถูกทำร้ายมาแล้วที่หน้าบ้าน ขณะเดินลงมาเอาพิซซ่าที่หน้าบ้านมีคนเข้ามาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บใต้ตาซ้าย ซึ่งก็อาจจะเป็นเรื่องผู้หญิงก็ได้ แต่ไม่อยากพูดอะไรมาก และไม่อยากพูดว่าเกี่ยวข้องกับใคร ส่วนเอมี่จะมีคนใหม่หรือไม่ตนไม่ทราบ แต่เอมี่ก็ทิ้งขว้างตนหลังจากกลับมาจากไต้หวันก็ไม่สนใจตนเลย อย่างไรก็ตาม ได้เขียนจดหมายไว้ฉบับหนึ่งที่จะมอบให้กับเอมี่ด้วย ซึ่งเอมี่ก็รู้แล้ว เป็นจดหมายจากความในใจของตนที่อยากเขียนให้แฟนสาว
ต่อมาเวลา 17.30 น. น.ส.อมลวรรณ ศิริกิตติรัตน์ หรือ เอมี่ แม็กซิม เดินทางมาที่ สน.ลาดพร้าว และให้สัมภาษณ์สั้นๆ ว่า วันนี้จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน โดยจะพูดทุกเรื่องในวันที่ 25 เม.ย. เวลา 14.00 น. ในรายการหนึ่งของช่องสตาร์แม็กซ์ ทุกเรื่องจะเคลียร์ในวันพรุ่งนี้ โดยวันนี้มาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น เพราะตำรวจเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติม ไม่ได้มาให้กำลังใจฮาเวิร์ด หวัง แต่อย่างใด
จากนั้นเอมี่ได้เดินขึ้นไปหานายฮาเวิร์ด หวังขณะนั่งกินข้าวอยู่ที่ห้องพนักงานสอบสวน เมื่อนายฮาเวิร์ด หวัง เห็นแฟนสาว ได้ลุกขึ้นแล้วเข้าไปโผกอด ก่อนทั้งคู่จะนั่งคุยกัน โดยนายฮาเวิร์ดพยายามขอร้องให้เอมี่ไม่เอาเรื่องที่บุกเข้าไปที่บ้านแล้วทุบกระจกได้รับความเสียหาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวพยายามจะถามเอมี่ว่าจะให้อภัยนายฮาเวิร์ดหรือไม่ น้องเอมี่ตอบสั้นๆ ว่า จะพูดทีเดียวเคลียร์ทุกเรื่อง จนนายฮาเวิร์ด พูดย้ำว่าไม่ให้เอาเรื่องตนเอง พร้อมกับระบุว่า ตนเสียเลือดไปมากขนาดไหนที่ใช้เขียนว่ารักคุณ อยากให้ยกโทษให้และไม่เอาเรื่อง และขอให้ตำรวจให้ประกันตัวกลับบ้าน ไม่ต้องนอนในคุกที่นี่คืนนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็โผเข้ากอดกันอีกครั้งจนทั้งคู่กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวนายฮาเวิร์ดเข้าไปอยู่ในห้องขังเพื่อรอการพิจารณาว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
ด้าน นายอากาศ วสิกชาติ ทนายความส่วนตัวของนายฮาเวิร์ด เปิดเผยภายหลังว่า ได้ยื่นขอประตัวนายฮาเวิร์ด หวัง กับพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีแล้วเป็นวงเงิน 75,000 บาท ซึ่งคิดว่าน่าจะได้รับการประกันตัว แต่ตอนนี้ต้องรอทาง พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว และพนักงานสอบสวน ประชุมเสร็จก่อนว่าจะให้ประกันตัวหรือไม่
ต่อมาเวลา 19.00 น. พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว กล่าวว่า เบื้องต้นในชั้น สน.จะคัดค้านการประกันตัว ตามคำร้องของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่ขอให้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากนายฮาเวิร์ด หวัง เป็นบุคคลอันตราย และในช่วงสายวันที่ 25 เม.ย.ก็จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ในข้อหาบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืนต่อไป