ตร.สรุปสถานการณ์ยาเสพติด พบผู้ผลิตตั้งโรงงานในเมือง-เปลี่ยนเส้นทางลำเลียง‏

โฆษก ตร.เผยสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในไทยรอบ 1 เดือน "ยาบ้า - ไอซ์"ยังคงครองแชมป์ ชี้อนาคตหวั่นไอซ์ระบาดหนักสั่งกวาดล้างเข้ม พร้อมระบุผู้ค้ายาเสพติดเปลี่ยนเส้นทางลำเลียงหลังถูกเจ้าหน้าที่กวดขันจับกุมหนัก

วันที่ 28 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงสถานการณ์ยาเสพติดในรอบ 6 เดือนที่ผ่านมา ว่า กลุ่มผู้ผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้านยังคงมีการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยได้ตั้งโรงงานผลิตยาเสพติดกลางเมืองใหญ่ จากเดิมที่ลักลอบตั้งโรงงานผลิตกลางป่าเขา ส่วนการลักลอบลำเลียงยาเสพติดนำเข้ามาในประเทศบริเวณแนวชายแดนซึ่งเป็นพื้นที่บช.ภ.7 โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูล ผบช.ภ.7 ว่า ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา มีการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ที่มีการลักลอบนำเข้ามาจากชายแดนประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น ขณะเดียวกันพบว่ายาบ้าและไอซ์ ยังคงมีการจำหน่ายให้กับผู้เสพในประเทศ ส่วนที่เหลือจะถูกส่งออกไปยังต่างประเทศ ส่วนเฮโรอีน เกือบทั้งหมดมีการใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ และจากการสกัดกั้นอย่างเข้มข้นทางภาคเหนือทำให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดได้เปลี่ยนเส้นทางลำเลียงไปยังชายแดนภาคตะวันตก หรือชายแดนด้านอื่น

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า สำหรับยาเสพติดที่จำหน่ายให้กับผู้เสพในประเทศไทย ยาบ้าและไอซ์ยังคงเป็นตัวหลัก แต่มีแนวโน้มว่าไอซ์จะได้รับความนิยมมากขึ้น นอกจากนี้จากการจับกุมและสกัดกั้นอย่างเข้มข้น ทำให้กลุ่มผู้ลำเลียงหันมาใช้การลำเลียงแบบการส่งยาเสพติดมากลับบริษัทขนส่งเอกชน หรือพัสดุไปรษณีย์ อย่างไรก็ตามตำรวจได้เพิ่มการเฝ้าระวังการลักลอบลำเลียงโดยรถยนต์ที่ทำช่องลับสำหรับซุกซ่อนยาเสพติด หรือรถบรรทุกสินค้าการเกษตร บริษัทขนส่งเอกชนและพัสดุไปรษณีย์ ขณะเดียวกันได้กำชับให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ ด่านตรวจ และการสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่ ตามเส้นทางหลักและเส้นทางรองอย่างเข้มงวด และให้เจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพ้นที่กวดขัน จับกุม และขยายผลเครือข่ายในทุกระดับนอกจากนี้ให้มีการเฝ้าระวังการผลิตยาเสพติดในประเทศ เครื่องอัดตอกเม็ดยาเเบบตอกมือ ตามห้องพักต่างๆ เพื่อจำหน่ายให้กับผู้เสพในพื้นที่กทม.และปริมณฑล