นครบาลปูพรมค้นพื้นที่เป้าหมายทั่วกรุงหลังเกิดเหตุบึ้ม

โฆษกตำรวจแถลงควาบคืบหน้าคดีระเบิดหน้ารามคำแหง 43/1 บ่ายสองวันนี้นครบาลออกปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ถนนรามคำแหง - ลาดพร้าวและใกล้เคียง
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) วันนี้ (28 พ.ค.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุระเบิดหน้าซอยรามคำแหง 43/1 ว่า วันนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลได้ออกคำสั่งปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่เสี่ยงต่างๆในเขตกรุงเทพมหานครโดยในเวลา 14.00 น.ทางกองบังคับการตำรวจนครบาล4 จะออกปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นบนถนนรามคำแหง ถนนลาดพร้าวและพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนั้นได้จัดกำลังสายตรวจ 191 ไปดูแลสถานที่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศเพื่อป้องกันเหตุนอกจากนั้นยังได้สั่งการให้ไปตรวจสอบร้านเครื่องยุทธภัณฑ์ต่างๆ ร้านดอกไม้ไฟร้านขายดินดำ และร้านที่มีอุปกรณ์ต่างๆที่สามารถประกอบระเบิดได้ เพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บทั้ง 7 คนตอนนี้อยู่โรงพยาบาลเพียง 3 คนซึ่งทั้ง 3 คนอาการปลอดภัยแล้วเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.ก็ได้มอบหมายให้พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รองผบ.ตร.ไปเยี่ยมและดูแลคนเจ็บแล้ว สำหรับความคืบหน้าของคดีทางการสืบสวนตอนนี้ฝ่ายสืบสวนได้ไล่ดูกล้องวงจรปิดทั้งหมดซึ่งก็ได้รับความร่วมมืออย่างที่จากประชาชนและภาคเอกชน ส่วนการสอบสวนก็ได้สอบพยานเพิ่มเติมอีกหลายปากได้ความคืบหน้าพอสมควร ในส่วนของระเบิดที่ใช้ในครั้งนี้ทางผู้เชี่ยวชาญด้านระเบิดยืนยันว่าการประกอบหากคนที่มีความสนใจศึกษาในเรื่องนี้ก็สามารถประกอบได้ไม่จะเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ

"ตำรวจยังมุ่งปมความขัดแย้งเรื่องแผงค้าในพื้นที่โดยไม่ได้ดูความขัดแย้งเฉพาะพื้นที่เกิดเหตุแต่ให้ตรวจสอบความขัดแย้งบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงด้วย ส่วนประเด็นเรื่องการสร้างสถานการณ์ให้เกิดความวุ่นวายก็ไม่ตัดทิ้ง ทำให้เราต้องไปดูแลความปลอดภัยตามสถานที่สัญลักษณ์สำคัญต่างๆ เนื่องจากขณะนี้ก็ยังมีประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมกลุ่มต่างๆอยู่ก็ต้องมีการดูแลป้องกัน"พล.ต.ต.ปิยะ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าระเบิดดังกล่าวอยู่ใกล้ธนาคารกรุงเทพเป็นสัญลักษณ์ทางการเมืองหรือไม่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกันจุดระเบิดเป็นจุดริมทางเท้า ทางสัญจร แผงค้าขาย ไม่เกี่ยวกับประเด็นสัญลักษณ์ทางการเมือง