พบศพสาวถูกอดีตสามีกระหน่ำแทงพรุน 6 แผล หลังอยู่กินมานานกว่า 10 ปี ก่อนเลิกรากันไป แต่พยายามของ้อคืนดีไม่สำเร็จ ประกอบกับความหึงหวง ที่ผู้ตายชอบเล่นเฟซบุ๊กพูดคุยกับชายอื่นจึงเกิดบันดาลโทสะ
วันนี้ (26 พ.ค.) พ.ต.ต.สนั่น เบี่ยงสวาท พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการ สน.บางยี่เรือ รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกแทงได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 335 ถ.ริมทางรถไฟ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พล.ต.ต.รัษฎากร ยิ่งยง ผบก.น.8 เจ้าหน้าที่สายตรวจ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้ง
ที่เกิดเหตุหน้าบ้านเลขที่ดังกล่าว พบนางธนวรรณ ฉายสว่าง อายุ 26 ปี นอนจมกองเลือดหายใจรวยริน เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ้งจึงเร่งนำตัวส่งรพ.ตากสิน แต่ผู้บาดเจ็บเสียเลือดมากทำให้ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งแพทย์ระบุถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามลำตัวจำนวน 6 แผลที่บริเวณหน้าอกขวา 1 แผล ด้านหลังขวา 3 แผล ข้อศอกซ้ายและขวาอย่างละ 1 แผล
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. นายสุรเจตน์ ฉายสว่าง 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 345 ถ.ริมทางรถไฟ แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี กทม. อดีตสามีของผู้ตายได้เดินทางเข้ามอบตัว โดยสารภาพทั้งน้ำตาว่า เป็นผู้ลงมือแทงอดีตเมียเอง เพราะไม่สามารถตกลงเรื่องขอคืนดีกันได้ จึงบันดาลโทสะกระหน่ำแทงไม่ยั้ง ก่อนจะหลบหนีไปตั้งสติ แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกและสำนึกผิดจึงเข้ามอบตัว
นายสุรเจตน์ ให้การว่า ได้แต่งงานอยู่กินกับผู้ตายมากว่า 12 ปี มีลูกด้วยกัน 3 คน แต่เสียชีวิตไป 1 คน เหลือลูกชายวัย 8 ขวบ กับลูกสาววัย 7 ขวบ โดยตนทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทย่านเจริญนคร ส่วนผู้ตายทำงานขายโทรศัพท์มือถืออยู่ย่านสนามเสือป่า แต่ระยะหลังมาตนรู้สึกผิดสังเกตในพฤติกรรมของผู้ตายที่ชอบเล่นเฟซบุ๊กพูดคุยกับชายอื่น จนวันหนึ่งตนรีบกลับบ้านมา และได้เข้าไปเคาะประตูที่หน้าห้องนอนเพื่อเรียกเมียแต่กลับไม่ยอมเปิด และพอเปิดมาก็เห็นอดีตภรรยากำลังเปลี่ยนซิมโทรศัพท์ จึงได้ต่อว่าไปว่า ทำไมต้องทำเช่นนี้ ก่อนจะแยกกันอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ จากนั้นจึงตัดสินใจหย่าขาดจากกันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา พร้อมกับแบ่งลูกกัน
นายสุรเจตน์ ยังให้การอีกว่า ตนสงสารลูกมากที่ถามหาว่าแม่อยู่ไหนตลอดเวลา จึงตัดสินใจไปหาที่บ้านเมื่อช่วงเช้า และได้พยายามพูดอธิบายต่างๆ เพื่อง้อขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่ฟังตนเลย และยืนยันไม่ยอมคืนดี ด้วยความที่ตนดื่มสุรามาจึงบันดาลโทสะใช้มีดปลอกผลไม้ที่เตรียมมาจ้วงแทงจนล้มลง ก่อนจะหลบหนีไป
พล.ต.ต.รัษฎากร กล่าวว่า สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าสาเหตุที่นายสุรเจตน์ลงมือแทงอดีตภรรยาตัวเองเป็นเพราะฤทธิ์สุราและอารมณ์ชั่ววูบ หลังจากที่ไม่สามารถตกลงเรื่องขอคืนดีได้ พอสิ้นฤทธิ์สุราเกิดสำนึกผิดจึงได้เดินทางมามอบตัวดังกล่าว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งพร้อมควบคุมตัวไว้ เพื่อรอการทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุต่อไป