รอง ผบช.ปส.แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติด 3 คดียึดของกลางยาบ้า 690,000 เม็ด ยาไอซ์ 4.5 กก.มูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท
วันนี้ (20 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) พล.ต.ต.สุรพล ทวนทอง รอง ผบช.ปส. พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.ประจำ บช.ปส. พ.ต.อ.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบก.ปส.3และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปส.3 แถลงการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติด จำนวน 3 คดี ได้ของกลางยาบ้า 690,000 เม็ด ยาไอซ์ 4.5 กก.มูลค่าประมาณ 180 ล้านบาท
โดยคดีแรกจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ประกอบด้วย นายอัสรีย์ หรือ เบียร์ อรอุมาศ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 150,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า ทะเบียน ฏห 4897 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือยี่ห้อซัมซุง จำนวน 1 เครื่อง และกล่องบรรจุโทรทัศน์สีจอแบน ยี่ห้อซัมซุง สีดำขนาด 32 นิ้ว และ 40 นิ้ว จำนวน 2 เครื่อง นายดารา หรือ บังวา เจ๊ะมัด อายุ 31 ปี และนายอุดม หรือ อุ๋ย กลัดเจริญ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 70,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดง ทะเบียน วห 5791 กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์มือถือ จำนวน 3 เครื่อง และกล่องบรรจุโทรทัศน์สีจอแบน ยี่ห้อซัมซุง สีดำ ขนาด 40 นิ้ว จำนวน 1 กล่อง พร้อมเครื่องโทรทัศน์ โดยจับกุมตัวทั้งหมดได้ที่บริเวณลานจอดรถทางออกบริษัท นิ่มซี่เส็ง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงขนยาเสพติดมากับบริษัทขนส่งเอกชน (นิ่มซี่เส็ง) โดยซุกซ่อนมาภายในโทรทัศน์สีจอแบน จำนวน 5 กล่อง จากจังหวัดเชียงใหม่ โดยใช้รถทัวร์นิ่มซี่เส็ง ขนส่ง ปลายทางตลาดไท ซึ่งจะมีรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ฎห 4897 กรุงเทพมหานคร และรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ สีแดง หมายเลขทะเบียน วห 5791 กรุงเทพมหานคร มารับพัสดุดังกล่าวบริเวณลานจอดรถทางออกบริษัท นิ่มซี่เส็ง กระทั่งเจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยดังกล่าวตามที่สายลับแจ้งไว้ จึงแสดงตัวขอตรวจค้น พบยาบ้า จำนวน 90,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวโทรทัศน์สีจอแบน สีดำ ยี่ห้อซัมซุง ขนาด 40 นิ้ว และยาบ้าอีก จำนวน 60,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตัวโทรทัศน์สีจอแบน สีดำ ยี่ห้อซัมซุง ขนาด 32 นิ้ว ยังพบยาบ้าอีก จำนวน 70,000 เม็ด ซุกซ่อนอยู่ในตัวโทรทัศน์สีจอแบน สีดำ ยี่ห้อซัมซุง ขนาด 40 นิ้ว เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดของกลางทั้งหมดและควบคุมตัวมาสอบสวน “เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คดีที่สองเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายธัญยา แซ่ยาง อายุ32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 ม.13 ต.แม่วิน อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้า 400,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อเชฟโรเลต โคโรลาโด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยถูกจับกุมได้ที่ บ้านแก่น ต.ห้วยช้อ อ.คอยหลวง จ.เชียงใหม่
พล.ต.ต.สุรพล กล่าวว่า การจับกุมดังกล่าวได้รับการประสานงานจาก พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ และได้รับแจ้จากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดของกลุ่มม้ง บ้านใหม่สุขสันต์ ต.คาดควัน อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย โดยใช้รถยนต์กระบะ ยี่ห้อเชฟโรเลต ไปส่งให้กับลูกค้าที่บ้านแก่น ต.ห้วยช้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย จึงได้ตั้งจุดสกัดที่จุดตรวจจันหว้า อ.แม่จัน จ.เชียงราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจพบรถยนต์กระบะดังกล่าว โดยมีชายสองคนนั่งมาอยู่ในรถมีท่าทางน่าสงสัย เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุด แต่รถยนต์คันดังกล่าวได้ขับฝ่าด่านตรวจหลบหนี ไปตามเส้นทาง อ.เชียงแสน เจ้าหน้าที่จึงติดตามไป และพบรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บน ถ.เขตบ้านแก่น ต.ห้วยซ้อ อ.ดอยหลวง จ.เชียงใหม่
จากการตรวจสอบพบว่ามีนายธัญยา แซ่ยาง เป็นผู้ขับขี่ ซึ่งจากการสอบสวนนายธัญยา ให้การรับสารภาพว่าตนเองกับเพื่อนอีกคนกำลังจะนำยาบ้าไปส่งให้ลูกค้าที่ริม ถ.บ้านป่าตึง โดยพวกจะนำไปซ่อนไว้ แล้วจะให้ลูกค้ามารับไปอีกที เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาร่วมกันมียาเสพติดประเภทที่ 1 ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมนำตัวดำเนินคดีต่อไป
ส่วนคดีสุดท้าย โดย พ.ต.อ.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผกก.1 บก.ปส.3 และพวก ร่วมกันตรวจยึดยาบ้าจำนวน 70,000 เม็ด ยาไอซ์ 4.5 กก.สามารถตรวจยึดได้ที่ห้องเลขที่ 414 ชั้น 4 อาคารสมบูรณ์แมนชั่น ซ.แบริ่ง 43 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สามารถยึดของกลางได้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บก.ปส.3 สามารถจับกุมนายไกรวิทย์ กานดา กับพวกรวม 3 คน พร้อมของกลางยาบ้า 327,400 เม็ด ยาไอซ์ 793 กรัม ที่ริม ถ.บางนา กม.10 ต.บางพลี อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และผู้ต้องหาได้เผารถยนต์เพื่อทำลายของกลางตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ได้ทำการขยายผลจนทราบว่ายาเสพติดดังกล่าวมีนายบาส ไม่ทราบนามสกุล เป็นผู้ร่วมขบวนการค้า โดยนำยาเสพติดมาซ่อนไว้ที่ห้องดังกล่าว จึงเข้าทำการตรวจค้น พบยาเสพติดดังกล่าว แต่ไม่พบผู้ใดอาศัยอยู่ภายในห้อง จึงได้ทำการตรวจยึดไว้ หลังจากนี้จะทำการติดตามตัวเจ้าของยาเสพติดของกลางทั้งหมดมาดำเนินคดีต่อไป
