xs
xsm
sm
md
lg

ร้อง ป.แก๊ง ส.อ.ตุ๋นเงินลวงเข้า ร.ร.เตรียมทหาร

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


ผู้เสียหายจาก จ.ศรีสะเกษ ร้องกองปราบ ถูกลูกเขยตัวแสบสมคบ ส.อ.18 มงกุฎ หลอกฝากบุตรหลานเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร สูญเงินนับล้าน

วันนี้ (13 พ.ค.) ที่ กองปราบปราม เมื่อเวลา 16.00 น. นายอนุรักษ์ เพชรอินทร์ อายุ 57 ปี นายก อบต.ใจดี อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ และอดีต ผอ.โรงเรียนบ้านตาดม อ.ขุขันธ์ พร้อมกลุ่มผู้เสียหาย 7 คน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ส.อ.อนุรักษ์ วารีกุล สังกัดหน่วยบัญชาการรบพิเศษ จ.ลพบุรี หรือ พลร่มป่าหวาย ในความผิดฐานฉ้อโกง โดยนำเอกสารกู้ยืมเงิน หนังสือส่งตัวของโรงเรียนเตรียมทหาร มอบไว้เป็นหลักฐาน

นายอนุรักษ์ กล่าวว่า รู้จักกับ ส.อ.อนุรักษ์ ผ่านการแนะนำของลูกเขย ซึ่งเคยเป็นพลทหารในสังกัดเดียวกับ ส.อ.อนุรักษ์ เมื่อปลดประจำการแล้ว ได้เล่าให้ฟังว่า ส.อ.อนุรักษ์ อ้างว่ารู้จักกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เป็นทหารราชองครักษ์สามารถฝากคนเข้าเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร โรงเรียนจ่าอากาศ หรือโรงเรียนนายสิบได้ จึงมีการติดต่อพูดคุยกัน เนื่องจากตนอยากให้บุตรชายซึ่งจบชั้นมัธยมปลาย ได้เข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร เมื่อสอบถาม ส.อ.อนุรักษ์ ก็บอกว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องมีค่าใช้จ่ายเป็นเงิน 7 แสนบาท โดยมีการทำสัญญากู้เงิน และมีการจ่ายเงินล่วงหน้าแล้ว 4 แสนบาท หากไม่สามารถฝากบุตรชายตนเข้าเป็นทหารได้จะคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้

นายอนุรักษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นได้มีการส่งหนังสือให้บุตรชายไปรายงานตัวต้นเดือนเมษายน 2555 ตนจึงเดินทางไปโรงเรียนเตรียมทหารพร้อมบุตรชาย แต่กลับปรากฏว่า ไม่มีรายชื่อของบุตรชายตนในระบบ และมาทราบอีกด้วยว่า หนังสือเรียกเข้ารายงานตัวดังกล่าวก็ถูกปลอมแปลงขึ้นมา เพื่อหลอกลวงเท่านั้น ต่อมาตนได้โทรศัพท์ไปสอบถาม ส.อ.อนุรักษ์ ก็ได้รับคำตอบว่า ให้กลับไปก่อน เนื่องจากยังเคลียร์กับนายไม่ได้ เพราะกำลังปฏิบัติงานอยู่ ตนเห็นผิดสังเกตจึงขอเงินคืน แต่ทาง ส.อ.อนุรักษ์ ก็บ่ายเบี่ยงเรื่อยมา กระทั่งไม่สามารถติดต่อได้อีก

“ต่อมาผมได้เดินทางไปเข้าพบผู้บังคับบัญชาของ ส.อ.อนุรักษ์ เพื่อสอบถามถึงกรณีที่เกิดขึ้น แต่กลับได้รับคำตอบว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ให้ไปดำเนินการฟ้องร้องกันเอง นอกจากนี้ผมยังทราบมาว่า ส.อ.อนุรักษ์ ได้หลอกลวงผู้เสียหายอีกหลายรายในหลายพื้นที่ เช่น จ.นครราชสีมา จ.อุบลราชธานี จ.ลพบุรี รวมมูลค่าความเสียหายเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งมีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว ผมจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้ง โดยอ้างว่าเป็นคดีฉ้อโกง นอกจากนี้คดียังขาดอายุความไปแล้ว ผมกับผู้เสียหายรายอื่น จึงรวมตัวกันเข้าแจ้งความที่ บก.ป.เพราะไม่ต้องการให้ ส.อ.อนุรักษ์ ไปหลอกลวงคนอื่นอีก” นายอนุรักษ์ กล่าว

ทั้งนี้ ทางพนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ในเบื้องต้น ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น