ผบ.ตร.เผยนายกฯ กำชับปราบยาเสพติดต่อเนื่อง พร้อมย้ำให้ ตร.ประสานงานกับพื้นที่ เตรียมยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในบางพื้นที่ภาคใต้
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มี.ค. พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. แถลงภายหลังรับมอบนโยบายจาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าวันนี้นายกฯ ได้มาร่วมประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) ตามวาระ และตรวจเยี่ยมศูนย์ ศปก.ตร.พร้อมทั้งมอบนโยบายให้ข้าราชการตำรวจระดับผู้บังคับการ (ผบก.) ขึ้นไปทั่วประเทศ โดยได้เน้นเรื่องหลักๆ คือ การปราบปรามยาเสพติดให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง กำชับการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ ดูแลนักท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน การแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ โดยการแก้ปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น นายกฯ ได้เน้นย้ำและกำชับเรื่องการประสานงานกับทางพื้นที่ ทั้ง ศอ.บต.และ กอ.รมน.รวมถึงจะมีการพิจารณาประกาศยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ในบางพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการยกเลิกไปในหลายพื้นที่แล้ว ส่วนเรื่องกำลังพลที่จะลงไปปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้ ขณะนี้ได้รับรายงานว่า ได้จัดเตรียมกำลังเสร็จแล้ว และจะนำไปฝึกอบรมปรับพื้นฐานก่อนส่งมอบให้ทาง ศตช.ในวันที่ 1 พ.ค.นี้ สำหรับการแก้ปัญหาค้างาช้าง จะต้องมีการบูรณการกับหน่วยงานอื่น ทั้งป่าไม้ และกระทรวงมหาดไทย โดยในพื้นที่จะต้องหาแผนคุ้มกันและสกัดกั้นการลักลอบขนค้างาช้าง
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวว่า การประชุม ก.ต.ช.วันนี้มีเรื่องสำคัญเพื่อทราบ 3 เรื่องด้วยกันเรื่องแรกเป็นเรื่องการแจ้งผลการประชุมหัวหน้าตำรวจอาเซียน ซึ่งนายกฯ ได้เน้นย้ำให้นำผลการประชุมมาสู่การปฏิบัติ การแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านอาชญากรรม การดำเนินการตามข้อตกลงในที่ประชุม รวมถึงการตั้งศูนย์นิติวิทยาศาสตร์อาเซียน ให้รายงานผลความคืบหน้าทุก 3 เดือนไปยังตำรวจอาเซียนกลาง ส่วนเรื่องที่ 2 มีการเสนอสมุหราชองครักษ์ในการแต่งตั้งตำรวจราชการสำนักเวรเพิ่มเติม 167 นาย ซึ่งอยู่ระหว่างการคัดเลือก และเรื่องที่ 3 การเสริมกำลังพลใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้เรียนนายกฯ ว่ากำลังพลกลุ่มแรกที่รับสมัครจากทหารพรานและทหารกองหนุน 1,661 นาย จะอบรมเสร็จในวันที่ 31 มี.ค.นี้ จากนั้นเดือน เม.ย.จะปรับพื้นฐานการใช้อาวุธ และจะสามารถลงไปปฏิบัติหน้าที่ได้วันที่ 1 พ.ค.นี้ ส่วนกลุ่มที่ 2 รับสมัครจากบุคคลภายนอก 1,894 อัตรา จะฝึกอบรมเสร็จวันที่ 30 เม.ย. 2556 จากนั้นจะปรับพื้นฐานอีก 1 เดือนสามารถลงไปปฏิบัติงานได้ในวันที่ 1 มิ.ย.นี้