สองคนร้ายใจโหดก่อเหตุอุกอาจกระหน่ำฟัน ปาดคอแขกขายของเงินผ่อน ปล่อยเงินกู้รายวันหวิดขาด! ตร.เชื่อคนร้ายผูกใจเจ็บผู้ตายส่งชุดสืบสวนล่าตัว!
วานนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 22.00 น. ที่ สน.ดอนเมือง พ.ต.ท.เตชวัตร ทองทวี พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.ดอนเมือง รับแจ้งเหตุมีชายชาวต่างชาติถูกทำร้ายร่างกายเสียชีวิต บริเวณกลางซอยสรนคมณ์ 4 ถ.สรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ปริญญา จันทร์สุริยา รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบก.น.2 พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.พัฒนา เพศยนาวิน รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สน.ดอนเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บก.น.2 สน.ดอนเมือง แพทย์เวรนิติเวช รพ.ตำรวจ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบศพชายชาวต่างชาติ ทราบชื่อต่อมา คือ นายจันกาซากา ยาดาฬ (Mr.Gangasagar Yadav) ชาวอินเดีย อายุ 24 ปี เสียชีวิตสภาพนอนหงายจมกองเลือดอยู่บริเวณกลางถนนหน้าบ้านเลขที่ 402/19 สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดง กางเกงขายาวสีน้ำตาล ตรวจสอบพบบาดแผลฉกรรจ์ที่ลำคอถูกปาดหลอดลมขาด สภาพคอหวิดขาด ศีรษะด้านซ้ายเป็นแผลลึกถึงกะโหลก และท่อนแขนด้านซ้ายมีแผลถูกฟันด้วยของมีคมลึกจนถึงกระดูก ภายในกระเป๋ากางเกงพบโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง และเงินสด 2,280 บาท ส่วนรถจักรยานยนต์ยี่ฮ้อฮอนด้าคลิก สีเทาดำ ทะเบียน (ไม่ทราบหมวดอักษร) 7483 กทม. หายไป ใกล้กับศพพบหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ และรองเท้าแตะของผู้ตายตกอยู่ ห่างจากศพประมาณ 4 เมตร พบรอยเลือดหยดเป็นทางมาจากบริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว
จากการสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพขายสินค้าเงินผ่อน และปล่อยกู้เงินรายวัน พักอาศัยอยู่ย่านถนนสรงประภา ก่อนเกิดเหตุได้มาจอดรถจักรยานยนต์ที่หน้าบ้านเลขที่ 402/19 ซึ่งมี นางทองหยุด ทับเนียม อายุ 56 ปี เป็นเจ้าของบ้าน โดยจะมาเก็บเงินที่ นางทองหยุด กู้ยืมไปเป็นปกติ ขณะเดียวกัน น.ส.ชไมพร ทับเนียม อายุ 23 ปี บุตรสาวของ นางทองหยุด ก็เป็นผู้รับว่าจ้างจากผู้ตายจดทะเบียนสมรส เพื่อให้สามารถอยู่ประเทศไทยได้นาน และสามารถประกอบอาชีพได้ โดยผู้ตายได้เข้าไปพูดคุยในบ้าน นางทองหยุด ไม่ถึง 5 นาที ก็ออกมานั่งคร่อมรถจักรยานยนต์ของตัวเอง แล้วหันหน้ามองเข้าไปในบ้าน ระหว่างนั้นได้มีชายวัยรุ่น 2 คน ซึ่งจอดรถจักรยานยนต์ไม่ทราบรุ่น สี และทะเบียน แต่ลักษณะเป็นเกียร์ออโต้ จอดห่างอยู่ที่บ้านอีกหลัง โดยคนขับสูงประมาณ 175 ซม. สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงยีนส์ขายาว ส่วนคนซ้อนลักษณะตัวป้อมๆ สูงประมาณ 165 ซม. สวมหมวกกันน็อกแบบเต็มใบสีดำ ใส่เสื้อแจ็กเกตสีดำ กางเกงขาสามส่วนสีเข้ม เดินมาหาผู้ตายแล้วใช้อาวุธเป็นท่อนยาวประมาณ 50 ซม. ซึ่งไม่ชัดเจนว่าเป็นมีด หรือไม้มากระหน่ำฟาดใส่ผู้ตายหลายครั้ง
จากนั้นชายที่เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ก็มาช่วยกันจับผู้ตายล็อกคอที่บริเวณกลางถนน โดยชายที่เป็นคนซ้อนได้นำมีดพับออกมาเฉือนที่คอ แล้วก็มีชาวบ้านระแวกดังกล่าวส่งเสียงตะโกนว่าทำอะไรกัน และร้องให้คนช่วย คนร้ายทั้งสองจึงรีบหลบหนีไป โดยคนตัวสูงวิ่งกลับไปขับรถจักรยานยนต์ของตนเอง ส่วนคนตัวเตี้ยขับรถจักรยานยนต์ของผู้ตายหลบหนีไป
พยานในละแวกที่เกิดเหตุยังบอกด้วยว่า ผู้ตายจะมาซอยดังกล่าวทุกวัน เพื่อเก็บเงินกู้รายวัน ซึ่งมีแม่ค้าเป็นลูกหนี้ส่วนใหญ่ และเก็บเงินผ่อนสินค้าต่างๆ ทั้งเสื้อผ้า อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ ส่วนใหญ่ก็มาคนเดียว จะมีเป็นบางครั้งที่มีเพื่อนมาด้วย เวลามาก็จะมาแวะบ้าน นางทองหยุด เป็นประจำ
พล.ต.ต.ปริญญา กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะเป็นการจงใจ หรือเจตนาฆ่า โดยคนร้ายที่ลงมือนั้นถือว่าอุกอาจ และโหดเหี้ยม ซึ่งน่าจะมีการติดตาม และดักรอเพื่อก่อเหตุ จากลักษณะการก่อเหตุคงมีการโกรธแค้นกันมาก และน่าจะมีเบื้องลึกเบื้องหลังมากกว่าการฆ่าชิงทรัพย์ เพราะทรัพย์สินในตัวผู้ตายยังอยู่ครบ คนร้ายเอาเพียงรถจักรยานยนต์ของผู้ตายไป ขณะนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนหาข้อมูลจากพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุ และใกล้เคียง เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายทั้งสองราย ขณะเดียวกัน ก็สี่งการให้ไล่ดูกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะเป็นเส้นทางหลบหนี อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ยังตั้งประเด็นไว้กว้างๆ โดยยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องชู้สาว ชิงทรัพย์ ความแค้นส่วนตัว และหักผลประโยชน์บางอย่าง หรือเป็นการหากินข้ามเขตกัน ซึ่งคนร้ายที่ก่อเหตุก็อาจจะเป็นทั้งชาติเดียวกัน หรือเป็นคนไทยก็ได้