ตำรวจ สตม.แถลงผลงานติดตามจับกุมคนร้ายชาวกัมพูชา ร่วมกับพวกฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวในประเทศกัมพูชาแล้วหลบหนีมากบดานในประเทศไทย!
วันนี้ (3 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ซอยสวนพลู พล.ต.ต.ศักดา ชื่นภักดี รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบก.สส.สตม. พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจากประเทศกัมพูชา 1 นาย แถลงการจับกุมหนุ่มกัมพูชา ร่วมกับพวกฆ่าชิงทรัพย์นักท่องเที่ยว ในประเทศกัมพูชา คือ นายซก นา หรือกลา อายุ 28 ปี ชาวกัมพูชา โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณจุดพักรถ ถ.มอเตอร์เวย์ ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา
พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากทางการประเทศกัมพูชาได้มีหนังสือประสานขอความร่วมมือมายัง เจ้าหน้าที่ตำรวจในประเทศไทย ให้ช่วยติดตามตัวคนร้ายชาวกัมพูชาจำนวน 2 คน ซึ่งได้ร่วมกับพวกรวม 5 คน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ผลิตจากประเทศรัสเซีย ฆ่าชิงทรัพย์ผู้อื่นถึง 3 คดี คือ 1.เมื่อวันที่ 11 มี.ค. 55 ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์ น.ส.ฮาร์น ทาน เทีย นักศึกษาหญิงชาวกัมพูชา 2.เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 55 ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธฆ่าชิงทรัพย์ นายเชน เจียงบิน ชาวจีน อายุ 43 ปี ได้เงินสดไป 5,000 หยวน และคดีที่ 3 เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 56 ร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนฆ่าชิงทรัพย์ นายคิตากูระ โคเซอิ อายุ 44 ปี ชาวญี่ปุ่น ได้เงินสดไป 18,000 ดอลลาร์ โดยทางการกัมพูชาสามารถจับกุมได้แล้วในประเทศกัมพูชา จำนวน 3 คน และอีก 2 คนได้หลบหนีเข้ามายังประเทศไทยเมื่อประมาณวันที่ 17-18 เม.ย.ที่ผ่านมา คือนายซก นาหรือกลา สัญชาติกัมพูชา อายุ 28 ปี และนายโปว กาว อายุ 34 ปี สัญชาติกัมพูชา
พล.ต.ต.รณศิลป์ กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนได้มาจากปืนกระบอกดังกล่าวที่ทางตำรวจประเทศกัมพูชาตรวจสอบพบว่า เป็นปืนกระบอกเดียวกันกับที่ใช้ในการก่อเหตุฆ่าทั้ง 3 คดี จึงได้ส่งรูปพรรณสัณฐานผู้ต้องหาทั้งสองรายที่หลบหนีมาให้ จากนั้น พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส.สตม.จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน กระทั่งวันที่ 2 พ.ค.สามารถจับกุมตัวนายซก นา หรือกลา ได้ยังสถานที่ดังกล่าวหลังเข้ามาได้เพียง 2 วัน ตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าไม่มีหนังสือเดินทางเข้ามา ได้ลักลอบเข้ามาทางจังหวัดสระแก้ว แล้วมาหลบซ่อนทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ร้านอาหารของจุดพักรถบริเวณดังกล่าว ส่วนคนร้ายอีกคนที่ยังหลบหนี คือนายโปว กาว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะหลบหนีไปกบดานอยู่แถบตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งหากผู้ใดพบเห็นสามารถแจ้งข้อมูลมาได้ที่สายด่วน สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง 1178 หรือ www.inv.immigration.go.th
จากการสอบสวนนายซก นา หรือกลา ให้การรับสารภาพว่า ตนได้ร่วมกับพวกก่อเหตุชิงทรัพย์นักท่องเที่ยวจริง แต่ตนมีหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์พ่วงสามล้อให้กับมือปืน จะได้ค่าจ้างครั้งละ 400 ดอลลาร์ และส่วนใหญ่จะเลือกลงมือกับเหยื่อที่เป็นกลุ่มนักธุรกิจที่เข้าไปติดต่องานในกรุงพนมเปญ หรือนักเล่นพนันที่ได้เงินจำนวนมาก เพื่อชิงทรัพย์สิน สาเหตุที่เป็นแรงจูงใจเพราะต้องการอยากได้เงินไปเล่นการพนันเท่านั้น ส่วนเพื่อนที่หลบหนีอีกคนนั้นอ้างว่าไม่ได้หลบหนีเข้ามาด้วยกัน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจกัมพูชา กล่าวว่าจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายที่ได้จับกุมภายในประเทศกัมพูชาได้รับสารภาพให้การซัดทอดว่า นายซก นา หรือกลา เป็นผู้ลงมือก่อเหตุยิงผู้ตายทั้งหมด แม้ทางด้านนายซก นา จะปฏิเสธก็ตาม โดยแก๊งดังกล่าวนี้จะคอยแบ่งงานกันทำบริเวณหน้าบ่อนปอยเปต จะเลือกเหยื่อที่เข้าไปเล่นการพนัน มีคนประกบไว้คอยดูว่าใครเล่นแล้วได้เงินเป็นชิป เมื่อแลกมาเป็นเงินไทยจำนวนมาก ก็จะส่งซิกให้พรรคพวกทางด้านนอกให้ขับขี่รถตาม เมื่อสบโอกาสที่เปลี่ยวจะทำการยิงสังหารปล้นทรัพย์สินทันที นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังตรวจพบพาสปอร์ตของหญิงสาวชาวออสเตรเลียจากแก๊งดังกล่าวอีก โดยเชื่อว่าน่าจะมีการก่อเหตุมากกว่า 3 ครั้ง อย่างไรก็ตามจะต้องทำการสืบสวนขยายผลต่อไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และส่งตัวไปดำเนินคดีที่ประเทศกัมพูชาต่อไป
