หัวหน้ามูลนิธิกระจกเงาพร้อมด้วยแม่ของหนูน้อยวัย 4 ขวบที่หายตัวไปบริเวณศาลากลาง จ.เลย ตั้งแต่ 5 ก.พ. 56 โร่ร้อง สตช.ให้ ตร.เร่งตามหาลูกสาว
วันนี้ (2 พ.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแช หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา พร้อมด้วยนางอุษาณ์ คงโสภาดี มารดาของ ด.ญ.มนัสนันท์ คงโสภาดี หรือน้องหญิง อายุ 4 ขวบ เด็กหญิงที่หายตัวไปตั้งแต่วันที่ 5 ก.พ. 2556 บริเวณศาลากลาง จ.เลย เดินทางมายื่นหนังสือเรียกร้องให้ ตร.เร่งติดตามคดีการหายตัวไปของเด็กและเยาวชน
โดยภายในหนังสือระบุว่า สืบเนื่องจากกรณีการหายตัวไปของ ด.ญ.มนัสนันท์ ภายในงานประจำปี บริเวณศาลากลาง จ.เลย เมื่อวันที่ 5 ก.พ.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏเบาะแสที่ชัดเจนในการติดตามหาตัว ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจเป็นการลักพาตัวเด็ก ประกอบกับระยะเวลาในการหายตัวไปนานเกือบ 3 เดือนแล้วนั้น ถือว่ามีความเสี่ยงสูงที่เด็กอาจได้รับอันตราย หรือถูกนำไปบังคับแสวงหาผลประโยชน์ ฉะนั้นทางมูลนิธิกระจกเงาขอเรียกร้องให้ ตร.เร่งติดตาม ด.ญ.มนัสนันท์ และเด็กรายอื่นๆ ดังนี้
1. ขอเสนอให้ ตร.ควรตั้งชุดเฉพาะกิจเพื่อติดตามกรณีหายตัวไปของ ด.ญ.มนัสนันท์ อย่างใกล้ชิด โดยบูรณาการร่วมกันระหว่างกองบัญชาการตำรวจภูธรทุกภาค 2. ขอเสนอให้ ตร.ปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้ปฏิบัติงานต่อการรับแจ้งความคนหาย กรณีคนหายที่เป็นเด็ก หรือการห่ยตัวไปที่เข้าข่ายถูกค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจควรรับแจ้งความทันที โดยไม่ต้องรอให้หายตัวไปครบ 24 ชม. และต้องมีกระบวนการสืบสวนติดตามที่มีประสิทธิภาพในทันที ตลอดจนมีความต่อเนื่องในการติดตามหา 3. ขอเสนอให้ ตร.จัดการความรู้เกี่ยวกับคดีลักพาตัวเด็กในประเทศ เพื่อให้แผนประทุษกรรมและลักษณะของการกระทำความผิด สำหรับเป็นแนวทางในการป้องกันและปราบปรามกรณีลักพาตัวเด็กต่อไปในอนาคต
4. ขอเสนอให้ ตร.ในระยะสั้นนั้นควรจัดตั้งคณะทำงานแผนกติดตามคนหาย ในพื้นที่กองบังคับการภูธรจังหวัด กองบัญชาการตำรวจนครบาล และกองบัญชาการตำรวจภูธรภาคต่างๆ เพื่อให้คำปรึกษา และสืบสวนติดตามกรณีคนหาย โดยทำงานประสานร่วมกับศูนย์ประชาบดี กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 5. ขอเสนอให้ ตร.จัดให้มีการประชาสัมพันธ์และเปิดพื้นที่ให้มีการเผยแพร่ภาพเด็กหาย ในสื่อที่ ตร.กำกับดูแลอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง 6. ขอเสนอให้ ตร.พิจารณาจัดตั้งศูนย์ติดตามคนหายแห่งประเทศไทย เพื่อบริหารจัดการปัญหาคนหายอย่างเป็นระบบ โดยบูรณาการร่วมกันระหว่าง ตร. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรพัฒนาเอกชน และสื่อมวลชน 7. รัฐควรพิจารณาปรับปรุงแก้ไขระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดีลักษณะคนหาย หรือพลัดหลง และผลักดันกฎหม่ยเกี่ยวกับการติดตามคนหายในประเทศไทย
นางอุษาณ์กล่าวว่า หลังจากลูกสาวหายตัวไปเมื่อวันที่ 5 ก.พ. 56 ตนก็ได้ออกเดินทางตามหา และเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าทึ่ตำรวจที่ จ.เลย แต่พบเจ้าหน้าที่ตำรวจกลับไม่ได้ดำเนินการทันที แต่กลับไปตามหาตัวพ่อของเด็กเพื่อนำตัวมายืนยันว่าไม่ได้นำตัวเด็กไป จากนั้นจึงแจ้งไปยังมูลนิธิกระจกเงาซึ่งที่ผ่านมาได้มีคนแจ้งเบาะแสเข้ามายังมูลนิธิกระจกเงาอยู่เป็นระยะ แต่เมื่อลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็ไม่ใช่ลูกสาวของตนเอง นอกจากนั้นตนได้ใช้เวลาหลังจากการทำงานในโรงงานออกตามหาลูกตามสถานที่ต่างๆ ที่มีเด็กมาขอทานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากคาดว่าลูกสาวจะถูกลักพาตัวไปขอทาน และในเร็ววันนี้ตนจะเดินทางไปที่หาดจอมเทียน พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเด็กขอทานจำนวนมาก เพื่อหวังจะได้พบเจอลูกสาวที่นั่น