ศาลนัดฟังคำสั่งขอประกัน “ก่อแก้ว พิกุลทอง” ส.ส.เพื่อไทย 22 เม.ย.นี้ และเลื่อนสืบพยานโจทก์คดี 24 หัวหอก นปช.ก่อการร้าย ไป 25 เม.ย. เนื่องจากมีจำเลย 5 คนเป็น ส.ส.อยู่ระหว่างประชุมสภา พร้อมออกหมายจับ “สมพงษ์ บางชม” การ์ด นปช. จำเลยที่ 23 ไม่มาศาลโดยไม่มีเหตุอันควร
ที่ห้องพิจารณา 704 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก (วันนี้ 19 เม.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ศาลนัดไต่สวนคำร้องที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จำเลยที่ 5 คดีร่วมกันก่อการร้าย ขอปล่อยชั่วคราว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ศาลอาญามีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยชั่วคราวไป เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2555 เนื่องจากมีพฤติการณ์ข่มขู่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าข่ายยุยง ปลุกปั่น ปลุกระดม ทำให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย อันเป็นการผิดเงื่อนไขปล่อยชั่วคราว
โดยศาลได้สอบถามนายก่อแก้ว จำเลยที่ 5 ถึงคำร้องที่ได้ยื่นต่อศาลว่าไม่ติดใจจะสืบพยานในชั้นไต่สวนคำร้องขอปล่อยชั่วคราวอีกต่อไป ซึ่งจำเลยที่ 5 แถลงยืนยันตามคำร้อง ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เมื่อคดีเสร็จการพิจารณา จึงให้เลื่อนนัดฟังคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 5 ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ เวลา 10.00 น.
ส่วนคดีที่ศาลอาญา นัดสืบพยานโจทก์คดี 24 แกนนำ นปช. ร่วมกันก่อการร้าย หมายเลขดำ อ.2543/2556 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 และกลุ่มผู้ค้าที่ได้รับความเสียหายรวม 42 ราย ร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายวีระ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช., นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์, นพ.เหวง โตจิราการ และนายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และแกนนำ นปช. กับพวกรวม 24 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานร่วมกันก่อการร้าย, ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ทำให้ปรากฏต่อประชาชนด้วยวาจา เพื่อประทุษร้ายให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และร่วมกันชุมนุม ฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน กรณีระหว่างวันที่ 28 ก.พ. - 20 พ.ค. 2553 กลุ่ม นปช. ได้ชุมนุมกดดันรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้ยุบสภานั้น
ปรากฏว่าวันนี้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จำเลยที่ 3, นายขวัญชัย สาราคำ จำเลยที่ 6 และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ไม่มาศาล ซึ่งทนายความจำเลยที่ 6 แถลงศาลว่า จำเลยไม่มาศาลเนื่องจากญาติฝ่ายภรรยาประสบอุบัติเหตุถึงแก่ความตายและจะทำการฌาปนกิจศพในวันนี้ ซึ่งจำเลยที่ 6 ต้องอยู่ร่วมงานด้วยและจะส่งใบมรณบัตรให้ศาลทราบในวันที่ 25 เม.ย.นี้ ขณะที่ทนายความจำเลยที่ 10 แถลงว่า จำเลยเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ซึ่งเข้าร่วมการประชุมรัฐสภาสามัญนิติบัญญัติโดยจะมีการปิดสมัยประชุมในวันที่ 20 เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ศาลสอบถามโจทก์แล้ว แถลงว่าวันนี้เตรียมพยานมาศาลพร้อมสืบ 1 ปาก และขณะนี้ยังอยู่ในสมัยประชุมรัฐสภาจริง
ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เนื่องจากจำเลยที่ 3-5 และ 9-10 เป็น ส.ส.จึงไม่อาจพิจารณาในสมัยประชุมได้ จึงเห็นควรให้เลื่อนนัดสืบพยานโจทก์ไปวันที่ 25 เม.ย.นี้ เวลา 09.00 น. ส่วนนายสมพงษ์ หรือแขก บางชม จำเลยที่ 23 ไม่มาศาลโดยไม่ปรากฏว่ามีเหตุอันสมควร ศาลจึงให้ออกหมายจับจำเลยที่ 23 เพื่อนำตัวมาพิจารณาคดีต่อไป
ภายหลัง นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความกลุ่ม นปช.กล่าวว่า แม้รัฐสภาจะปิดสมัยประชุมในวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.นี้ แต่นายก่อแก้วก็ยังไม่ต้องกลับเข้าไปเรือนจำ เนื่องจากถือว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคำสั่งให้หรือไม่ประกันของศาล โดยศาลเองก็ยังไม่ได้ออกให้ขังนายก่อแก้วหลังปิดสมัยประชุมสภาแต่อย่างใด ซึ่งศาลยกยอดให้ไปฟังคำสั่งเรื่องประกันตัวในวันจันทร์ที่ 22 เม.ย.นี้ ซึ่งหากวันนั้นศาลมีคำสั่งไม่ให้ประกัน นายก่อแก้วก็จะเข้าเรือนจำต่อไป
ด้านนายก่อแก้วกล่าวว่า ไม่ได้กังวลว่าจะได้ประกันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล
นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช.กล่าวว่า สำหรับคดีก่อการร้าย คาดว่าจะใช้เวลาสืบพยานนานมาก ซึ่งตนและแกนนำเสื้อแดงทุกคนจะไม่ขอนิรโทษกรรมจากร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ฉบับของนายวรชัย เหมะ สส.สมุทรปราการ และของพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้เนื้อหาจะเป็นการนิรโทษกรรมให้กับประชาชนทุกฝ่าย ดังนั้นขอให้พรรค ปชป.เลิกกลัวได้แล้ว