xs
xsm
sm
md
lg

รวบแล้ว “2 มือปืน-ผู้จ้างวาน” ยิงแกนนำต้านบ่อขยะสารพิษเมืองแปดริ้ว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.และตำรวจบช.ภ.2 แถลงข่าวจับกุมมือปืน-ผู้จ้างวาน
ผบ.ตร.แถลงจับ “2 มือปืน-ผู้จ้างวาน” ยิงผู้ใหญ่จบ “แกนนำต่อต้านบ่อขยะสารพิษ” ใน อ.พนมสารคาม เสียชีวิต มือปืนรับสารภาพหนึ่งราย ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือยังปฏิเสธ ขอให้การในชั้นศาล ด้านตำรวจเร่งหาหลักฐานเพื่อจับกุมผู้เกี่ยวข้องอีกหลายราย

วันนี้ (13 เม.ย.) เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.อ.ปานศิริ ประภาวัต รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.สมบัติ บัวเรือง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บช.ภ.2 แถลงข่าวจับกุมคนร้ายยิงนักอนุรักษ์ในจังหวัดฉะเชิงเทรา คือ นายประจบ เนาวโอภาส อายุ 43 ปี หรือ “ผู้ใหญ่จบ” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 กพ.2556 ที่ผ่านมา จำนวน 3 ราย คือนายภูธร กวีพันธ์ อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน จ่าอากาศเอกยุทธนัย นาแจ้ง อายุ 32 ปี และจ่าอากาศอนุ บุญเพ็ง อายุ 29 ปี สองมือปืน พร้อมของกลาง รถยนต์ฮอนด้า ซีวิค สีดำ ทะเบียน กค 8045 ที่ใช้ก่อเหตุ อาวุธปืน ขนาด 11 มม. อาวุธปืนลูกซองยาวเบอร์ 12 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน และโทรศัพท์มือถือ

พล.ต.อ.อดุลย์ เปิดเผยว่า หลังเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิง “ผู้ใหญ่จบ” หรือ นายประจบ เนาวโอภาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณหน้าอู่ซ่อมรถก่วยเซอร์วิส ต.พนมสารคาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 และสืบสวนภูธร จ.ฉะเชิงเทรา ก็ได้รวบรวมพยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย คนแรกที่ถูกจับกุมก่อน คือนายภูธร กวีพันธ์ โดยจับกุมตัวได้เมื่อวานนี้ ในหมู่บ้านปรีชา ซอยรามคำแหง 158 พร้อมได้ตรวจยึดทรัพย์สินนำไปตรวจสอบ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ และกล้องถ่ายภาพ โดยกล่าวหาว่าเป็นผู้ใช้จ้างวานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน จากการตรวจสอบพบว่า นายภูธร เป็นที่ปรึกษาบริษัทรับกำจัดน้ำเสียโรงงานอุตสาหกรรมให้แก่บริษัทแห่งหนึ่ง และต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 2 ก็ยังสามารถจับกุมตัว จ่าอากาศเอกยุทธนัย นาแจ้ง ได้ที่จังหวัดตรัง พร้อมอาวุธปืนขนาด 11 มม. 1 กระบอก กระสุน 22 นัด อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 8 นัด โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง และทรัพย์สินอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งจับกุมตัว จ่าอากาศเอกอนุ บุญเพ็ง อายุ 29 ปี ได้ที่จังหวัดบึงกาฬ พร้อมกันนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังตรวจยึดรถเก๋งยี่ห้อฮอนด้าซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน กค 8045 สุราษฎร์ธานี ได้ที่บริเวณลานจอดรถแฟลตข้าราชการทหารอากาศ ย่านทุ่งสีกัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อส่งกองพิสูจน์หลักฐานทำการตรวจสอบต่อไป

พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับสาเหตุนั้นเจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ตายเป็นแกนนำต่อต้านกลุ่มนายทุนที่ลักลอบนำขยะสารพิษ และกากวัสดุสารเคมีที่เหลือใช้จากตามโรงงานอุตสาหกรรมเข้ามาทิ้งในบ่อลูกรังร้าง ของพื้นที่หมู่ 7 ต.หนองแหน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย มีปากเสียง และขัดแย้งกันหลายครั้ง ซึ่งปมปัญหาเกิดจากการต่อต้านบ่อกำจัดขยะสารพิษ กระทั่ง “ผู้ใหญ่จบ” ถูกสังหารเสียชีวิต

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา นายภูธร เป็นผู้ใช้จ้างวาน หรือสนับสนุนให้ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ส่วนจ่าอากาศเอกยุทธนัย และจ่าอากาศเอกอนุ ได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยใช้อาวุธปืน โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ทั้งนี้ นายภูธร ผู้จ้างวาน และจ่าอากาศเอกยุทธนัย มือปืนคนที่ 1 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยระบุเพียงว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น ขณะที่จ่าอากาศเอกอนุ มือปืนคนที่ 2 รับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา อย่างไรก็ตาม สำหรับคดีนี้ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีกหลายราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติหมายจับต่อไป

รายงานข่าวแจ้งว่า ในระหว่างการแถลงข่าวมีชาวบ้านตำบลหนองแหน เดินทางมามอบดอกไม้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด บช.ภ.2 ที่ช่วยจับกุมมือปืน และผู้จ้างวานฆ่าในคดีนี้ด้วย
ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุน
ญาติและชาวบ้านหนองแหน อ.พนมสารคาม เดินทางมาให้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
กำลังโหลดความคิดเห็น