ดีเอสไอจับมือ สตม.ร่วมกันนำหมายค้นเข้าตรวจค้นที่ บ.แคปปิตอล คอนแซนแท้นท์ แมนเน็กเม้นท์ ซ.ทองหล่อ 17 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา เพื่อจับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยการจับกุมไม่พบ ผจก.แก๊งต้มตุ๋น พบเพียง พนง.รับโทรศัพท์ 9 คน พร้อมของกลางคอมพ์ 19 ตัว โทรศัพท์โมเดม 20 ตัว เอกสารทางการเงินนับ 20 กล่อง ชี้ดารานางแบบสาวเซ็กซี่มี่เอี่ยว
วันนี้ (3 เม.ย.) เวลา 15.00 น. พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล ผู้บัญชาการสำนักการต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาติชาย เอี่ยมแสง รอง ผบก.สส. บช.สตม. พ.ต.ท.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุณยมานนท์ สว.กก.3 บก.สส.บชน. ร่วมกันนำหมายค้นศาลอาญากรุงใต้ เลขที่ 55/2556 ลงวันที่ 3 เม.ย.56 เข้าตรวจค้นที่ บริษัท แคปปิตอล คอนแซนแท้นท์ แมนเน็กเม้นท์ จำกัด เลขที่ 333/223 ชั้น17 อาคารยูไนเต็ด เอ็กคลูซีฟ ทาวเวอร์ ซอยทองหล่อ 17 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม.
ที่เกิดเหตุพบเปิดเป็นสำนักงานให้เช่า กว้างประมาณ 50 ตารางเมตร โดยมีนายอีริค เทอรีไอซ์ เป็นผู้จัดการ แต่ระหว่างเข้าจับกุมเจ้าตัวไม่อยู่ด้วย พบเพียงพนักงานรับโทรศัพท์ รวม 9 คน ประกอบด้วย นายอลันวิลซัน ชาวอังกฤษ นายเทอเร้นเลน ชาวอังกฤษ นายจานิส โรเซ็นแบ็ค ชาวลัตเวีย นายเคอร์รี่ ออเธอโน ชาวแคนาดา นายเทอเร้นท์ พุชอีริค ชาวแคนาดา นายกันน่า เอลกาสัน ชาวแคนาดา นายดักลาส ดับเบิว อีริค ชาวแคนาดา นายเอ็ดเวิร์ด กัวเตเรส ชาวอเมริกัน นายอารอน เดอเม่อร์ ชาวอเมริกัน พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 19 ตัว โทรศัพท์โมเดม 20 ตัว เอกสารทางการเงิน ใบเสร็จ ใบหุ้น นับ 20 กล่อง และรายการอื่นๆ อีกมากมาย
พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ เปิดเผยว่า ทางสำนักการต่างประเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้รับการประสานงานจากหน่วยงานต่างประเทศที่ตั้งอยู่ในประเทศไทย ว่ามีกลุ่มคนร้ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำทีเปิดบริษัทร่วมลงทุนธุรกิจต่างๆ ในลักษณะขายหุ้น โดยเปิดเป็นบริษัทที่ปรึกษาการลงทุนบังหน้า ซึ่งล่าสุดก่อเหตุโทรศัพท์หลอกลวงชาวยุโรปเรื่องการร่วมลงทุนในหุ้นน้ำมัน จนทำให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร่วมลงทุนที่หลงเชื่อด้วยการโอนเงินมาให้แล้ว จากนั้นกลุ่มคนร้ายทำการปิดบริษัทหนี และจะเปิดเป็นบริษัทใหม่กระทำการหลอกแบบเดิม จะเปลี่ยนชื่อบริษัทไปเรื่อยๆ ทางเจ้าหน้าที่จึงวางแผนเข้าจับกุม จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่ามีการไหลเวียนเงินในบัญชีจริง โดยการใช้โทรศัพท์ติดต่อลูกค้าต่างประเทศผ่านระบบวีโอไอพี ตรวจสอบเบื้องต้นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งบริษัทนี้ทำกิจการลักษณะนี้มากว่า 2 ปีแล้ว
เบื้องต้นแจ้งข้อหา พ.ร.บ.หลบหนีเข้าเมือง เป็นชาวต่างชาติ ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต และรอการผลักดันกลับออกนอกประเทศ จากนั้นควบคุมตัวตามมาตรา 12 ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สตม.ดำเนินคดีต่อไป ซึ่งระหว่างนี้ต้องทำการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดให้ชัดเจน เพราะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน จะต้องประสานงานกับทางเจ้าทุกข์เสียก่อน
เมื่อถามว่า ผู้จัดการบริษัทคนดังกล่าวเป็นสามีของดารานางแบบชื่อดังรายหนึ่งใช่หรือไม่ ทาง พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล กล่าวว่า ดาราสาวมีความเกี่ยวข้องเป็นผู้จัดการจริง แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานก่อนว่าจะสามารถสาวไปถึงตัวได้หรือไม่ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อหาแก่ผู้จัดการคนนี้แต่อย่างใด เนื่องจากไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย
ตามรายงานข่าวแจ้งว่า ดารานางแบบที่ถูกกล่าวอ้างคือ นางลีน่า คริสเตนเซ่น ดารา นางแบบสาวเซ็กซี่ กับสามีหนุ่มลูกครึ่ง สแปนนิช ชิลี นั่นเอง