ประจานผ่านเฟซบุ๊ก น้องชายพร้อมเพื่อนถูก “มาเฟีย” ตลาดนัดรถไฟรุมกระทืบก่อนถูกจ่อยิงซ้ำอาการปางตาย อ้างตำรวจ สน.บางซื่อเจ้าของพื้นที่เมินระงับเหตุ โบ้ยโยนไปให้ สน.นพวงศ์ ด้าน ผกก.สน.บางซื่อฉุนสื่อโบ้ยไม่ทราบมีเหตุเกิด พร้อมอัดกลับถ้ามีเหตุยิงกันก็ต้องรู้แล้วสิ ก่อนโยนไปให้ สน.นพวงศ์ นักข่าวมึนโทร.เช็ก สน.นพวงศ์บอกไม่รู้เรื่อง เชื่อเป็นพื้นที่อิทธิพลมาเฟีย ตำรวจเมินไม่กล้าแตะ ชี้ผลประโยชน์มากมายยันเศษขวด เศษขยะรีไซเคิล ยังห้ามแตะ!!
วันนี้ (3 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการโพสต์ข้อความผ่าน www.facebook.com/sorajin41 ซึ่งมีเนื้อความว่า ถ้าสื่อคุณเป็นกลางจริง คุณอย่าลบครับ ปล่อยให้ทางฝ่ายดูแลตลาดนัดรถไฟออกมาแก้ต่างผ่านสื่อ แล้วให้ประชาชนวิเคราะห์ กฎหมายเมืองไทยใช้การได้จริงหรือ? โดยผู้โพสต์มีการเขียนข้อความระบายความอัดอั้นใจว่า
“กรณีนี้สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันเสาร์ที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา น้องชายผม นายศุภชัย ไร่ทับทิม (อาร์ม) กับเพื่อนอีก 5 คน ได้ไปดื่มสังสรรค์กันที่ร้าน “Rod” ตั้งอยู่ภายใน “ตลาดนัดรถไฟจตุจักร” และเป็นที่รู้กันดีว่าตลาดกลางคืนแห่งนี้เปิดเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ และทางการรถไฟได้ได้แจ้งให้ผู้ค้าขายเลิกกิจการค้าขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว แต่ยังมีกลุ่มมาเฟียที่คอยบริหารจัดการตลาดนัดและยังให้มีการค้าขายต่อมามาจนถึงทุกวันนี้ โดยถือกรรมสิทธิ์เก็บค่าคุ้มครอง ทั้งนี้พวกน้องอาร์มได้นั่งดื่มจนถึงประมาณ 02.00 น. จึงเรียกเด็กในร้านเก็บเงินและกำลังเดินออกจากร้านเพื่อกลับบ้าน
แต่ในระหว่างที่กำลังจะเดินออกจากร้านนั้นได้มีเรื่องเข้าใจผิดกับกลุ่มวัยรุ่นอีกกลุ่มที่อยู่ในร้านซึ่งกลุ่มนั้นมีกันประมาณสิบกว่าคน แต่ทั้งสองกลุ่มได้ยืนคุยกันจนจบภายในร้าน โดยไม่ได้มีเรื่องกันแต่อย่างใด แต่หลังจากนั้นไม่นานกลุ่มมาเฟียที่ดูแลความเรียบร้อยได้เข้ามาถึง (ในสภาพเมา) เรื่องราวก็เปลี่ยนเป็นใหญ่โตขึ้น โดยทั้งสองกลุ่มโดนไล่ บ้างก็โดนตบ และชักปืน 11 มม.ออกมาขู่
โดยกลุ่มน้องอาร์มโดนไล่ออกไปข้างนอกร้าน แล้วก็ลากเพื่อนน้องอาร์มคนนึงไปกระทืบ โดยมีพวกเค้าประมาณยี่สิบกว่าคน คอยยืนกันไม่ให้พวกน้องอาร์มเข้าไปช่วยเหลือ จนน้องอาร์มทนไม่ไหววิ่งเข้าไปขอร้องให้ปล่อยเพื่อนตน น้องอาร์มก็เลยโดนกระทืบด้วยอีกคน จากนั้นมาเฟียดังกล่าวก็สั่งให้น้องทั้งสองนอนลงแล้วเสียงปืนก็ดังขึ้น 1 นัด น้องอาร์มนอนดิ้นด้วยความเจ็บปวด พวกเพื่อนๆ ทั้งหมดขอร้องว่าให้ปล่อย และจะขอพาเพื่อนไป รพ. แต่กลุ่มมาเฟียดังกล่าวก็ไม่สนใจ ปล่อยให้นอนดิ้นอยู่แบบนั้นแล้วพวกมันก็เดินหาปลอกกระสุน และคนยิงก็กลับบ้านไปประมาณครึ่ง ชม. พวกมันจึงยอมให้น้องไป รพ.
อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ทางเพื่อนของน้องอาร์มได้วิ่งไปที่ด่านตรวจ สน.บางซื่อ ที่ตั้งห่างจากจุดเกิดเหตุเพียง 300 เมตร เล่าเรื่องราวทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้ความช่วยเหลือแต่อย่างใด และไล่ให้ไปแจ้ง สน.นพวงศ์ (ตำรวจรถไฟ) เพราะเป็นเจ้าของพื้นที่ ทั้งยังได้ขอความช่วยเหลือจากตำรวจสายตรวจ สน.บางซื่อ ซึ่งขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์พอดี เพื่อนๆ น้องอาร์มก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกเจ้าหน้าที่ปฏิเสธโดยอ้างลักษณะเดียวกันว่าไม่ใช่พื่นที่ที่อยู่ในความดูแลและรับผิดชอบของ สน.บางซื่อแต่อย่างใด น้องๆ จึงรอจนชั่วโมงกว่าๆ
ชาย 2 คนแต่งกายคล้ายตำรวจมา 2 คน โดยสอบปากคำน้องๆ แล้วก็กลับ และบริเวณนั้นยังมีพวกมาเฟียในกลุ่มที่ทำร้ายน้องอาร์มซึ่งมีบางคนก็ยังยืนอยู่ แต่ ตร.ก็ไม่เรียกมาสอบถามถึงคนยิงสักคำ จนวันนี้ภาพสเกตช์ของคนร้ายก็ยังไม่ออก หมายจับก็ยังไม่มี และยังไม่มีการเรียกตัวกลุ่มมาเฟียที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบปากคำสักคน
อย่างไรก็ตาม น้องๆ ของผมก็จำหน้าพวกมันได้ทุกคน ทั้งนี้วันเสาร์ที่ผ่านมาผมได้ไปแอบเดินดูแต่พวกมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม คนยิงก็ยังอยู่ ทำไมมึงไม่ไปจับว่ะ หรือว่าไอ้พวกเหี้ยนั่นสีเดียวกับพวกเมิง!!!....ใครช่วยตอบผมที่ครับว่า กฎหมายเมืองไทยใช้การได้จริงหรือ?”
ทั้งนี้ นายศุภชัยใช้เพียงแค่บัตรทองในรักษาตัวที่ รพ.อนันต์พัฒนา (บางกรวย) ขณะนี้ผ่าหัวกระสุนออกมาแล้ว ขนาด 11 มม. ถูกยิงเข้าหน้าท้องกระสุนไปฝังอยู่ที่กระดูกสันหลัง หมอทำการผ่าตัดหลายรอบ รอดตาย แต่อาการคงไม่เหมือนเดิม น่าจะมีอาการแทรกซ้อนทางระบบประสาทเนื่องนจากกระสุนไปฝังอยู่ที่กระดูกสันหลัง”
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามถึงเรื่องดังกล่าวจาก พ.ต.ท.สุนทร คงกล่ำ ผกก.สน.บางซื่อ กล่าวว่าเบื้องต้นไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง “ถ้ามีการแจ้งเหตุยิงกันจริง ผมในฐานะเจ้าของพื้นที่ก็ต้องทราบแล้วสิ อย่างไรก็ตาม คุณลองไปสอบถามทาง สน.นพวงศ์ ดูสิ” ผกก.สน.บางซื่อระบุเสียงเข้มอย่างไม่ค่อยพอใจ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง สน.นพวงศ์ ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบว่ามีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เพราะ สน.นพวงศ์อยู่หัวลำโพง ถ้ามีเหตุการยิงกันในพื้นที่ดังกล่าวจริงน่าจะเป็นพื้นที่ สน.บางซื่อมากกว่า แต่เบื้องต้นในรายงานบันทึกประจำวันไม่มีในรายงานของ สน.นพวงศ์ แต่อย่างใด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พื้นที่ตลาดนัดรถไฟอยู่ในพื้นที่ สน.บางซื่อ เพราะเป็นท้องที่เกิดเหตุ อีกทั้งพื้นที่ตลาดนัดรถไฟนั้นเป็นโกดังเก่าของการรถไฟแห่งประเทศไทย ต่อมามีการเปิดเป็นพื้นที่ตลาดนัดรถไฟโดยเอกชนเข้าประมูล มีผลประโยชน์มากมาย โดยตลาดนัดรถไฟจะเปิดช่วงค่ำคืนวันศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ โดยล่าสุดได้มีการขยายพื้นที่ไปเปิดตลาดนัดรถไฟย่านถนนศรีนครินทร์ โดยมีมาเฟียคอยเก็บค่าคุ้มครองรอบโครงการ ตั้งแต่ค่าจอดรถ ซึ่งมีอัตราค่าบริการอยู่ที่ประมาณคันละ 30-40 บาท มีการจอดอย่างหนาแน่นจนรถสวนทางเข้าออกยากลำบาก มีรถถูกเฉี่ยวชนเป็นจำนวนมากแต่ไม่สามารถหาผู้รับผิดชอบได้ โดยมีผลประโยชน์มากมายไปจนถึงขยะ เช่น พวกขวดพลาสติก และขยะรีไซเคิลทั่วไป ไม่สามารถเข้าไปเก็บได้หากไม่ได้รับอนุญาต