“ชูวิทย์” ร้อง ป.ป.ช. ตร.สุทธิสาร-วังทองหลางเมินจับบ่อนพนัน

“ชูวิทย์” เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กรณีตำรวจปฏิบัติหน้าที่มิชอบคดีบ่อนย่านวังทองหลาง และสุทธิสาร เพื่อให้ไต่สวนดำเนินคดีอาญาและวินัยอย่างร้ายแรงกับ ตร.ที่เกี่ยวข้องทั้ง 16 นาย พร้อมให้รายงานตนทุก 30 วัน


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 เม.ย. 56 ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เลขที่ 361 ถนนสนามบินน้ำ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครักประเทศไทย ได้เข้าพบนายวิทยา อาคมพิทักษ์ รองเลขาธิการ ป.ป.ช. เพื่อยื่นหนังสือกรณีข้าราชการตำรวจปฏิบัติหน้าที่มิชอบคดีบ่อนย่านวังทองหลาง และสุทธิสาร เพื่อให้ไต่สวนดำเนินคดีอาญาและวินัยอย่างร้ายแรงต่อข้าราชการตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 16 นาย

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 54 ตามที่นายชูวิทย์ได้อภิปรายและแสดงหลักฐานภาพเคลื่อนไหวในสภาผู้แทนราษฎรว่ามีการเปิดบ่อนการพนันขนาดใหญ่มีผู้เล่นวันละหลายร้อยคนในพื้นที่ สน.สุทธิสาร และ สน.วังทองหลาง และทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยมีตำรวจเกี่ยวข้องทั้ง 16 นายตามรายชื่อในเอกสารแนบนั้น ร่วมกันดำเนินการทางวินัยข้าราชการตำรวจผู้รับผิดชอบบกพร่องต่อหน้าที่จนเกิดความเสียหายต่อทางราชการอย่างร้ายแรง จากการตรวจสอบของนายชูวิทย์ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดถูกลงโทษทางวินัยแม้แต่คนเดียว

วันนี้ที่สำนักงาน ป.ป.ช. นายชูวิทย์ได้ยื่นหนังสือดังกล่าวพร้อมด้วยเอกสารการเสนอความเห็นและการสั่งการทางวินัยของสำนักงานตำรวจแห่งชาติจำนวน 2 แผ่น, รายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีหน้าที่รับผิดชอบบกพร่องต่อหน้าที่กรณีบ่อนการพนัน พื้นที่ สน.สุทธิสาร จำนวน 44 แผ่น, รายงานการสืบสวนข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีหน้าที่รับผิดชอบบกพร่องต่อหน้าที่กรณีบ่อนการพนัน พื้นที่ สน.วังทองหลาง จำนวน 42 แผ่น พร้อมทั้งขอให้รายงานผลการดำเนินการให้นายชูวิทย์ทราบทุกระยะ 30 วัน เพื่อที่จะได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร

นายชูวิทย์กล่าวว่า ในการมายื่นเอกสารวันนี้เพื่อให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาคดีบ่อนขนาดใหญ่ทั้ง 2 สน.ว่า สรุปแล้วว่าไม่มีใครผิดทั้งๆที่ตำรวจได้มีการสืบสวนแล้วว่าเป็นบ่อนการพนันจริง โดยมีรายละเอียดอยู่ในเอกสารที่ตนยื่นทั้งหมด อยากจะให้เป็นกรณีตัวอย่างในการช่วยเหลือกัน การป้องกันกันเอง ทั้งๆที่มีพยานยืนยันและพิสูจน์แล้วตามคณะกรรมการของตำรวจเองก็ได้มีการยืนยันแล้วเรื่องก็หายไปหมด ตนจึงทำเรื่องมาเพื่อให้ทาง ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป