ผบ.ตร.เมินข้อมูล “ชูวิทย์” แฉบ่อนโวสั่งตรวจจับจริงจังนานแล้ว

ผบ.ตร.เผยความคืบหน้า บก.ป.เข้าทลายบ่อนพนัน 3 แห่ง พร้อมจี้หน่วยไหนพบบ่อนผีพนันต้องจับกุมทันที ลั่นไม่จำเป็นต้องขอข้อมูลจาก “ชูวิทย์” ปชช.ร้องมา ตร.พร้อมดำเนินการทลายบ่อน ย้ำเอาจริงกับเรื่องนี้นานแล้ว

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าทลายบ่อนพนัน 3 แห่งว่า การตรวจจับแหล่งอบายมุขเป็นนโยบายที่ให้แก่ท้องที่ดูแลความเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง อย่าให้เกิดปัญหา ซึ่งกรณีการบุกจับบ่อนทั้ง 3 แห่ง เป็นการปฏิบัติการของ บก.ป.โดยบ่อนในพื้นที่คลองตัน ได้ผู้ต้องหา 290 ราย พบของกลาง 1 ล้านกว่าบาท พื้นที่บางนา ได้ผู้ต้องหา 90 ราย พื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว ได้ผู้ต้องหา 30 กว่าราย ทั้งนี้ สำหรับ ผบก.น.5 และ ผกก.ทั้ง 3 ท้องที่ ตนมีคำสั่งให้มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.อย่างไม่มีกำหนด พร้อมทั้งตั้งจเรตำรวจเข้าไปตรวจสอบวินัย และรายงานเข้ามาภายใน 7 วัน โดยทั้งหมดได้เข้ามารายงานตัวแล้ว ซึ่งตนได้มอบหมายแบ่งงานให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหตุผลที่เรียก ผบก.น.5 เข้ามาช่วยราชการ เพราะพบว่า มีการจับกลุ่มบ่อนใหญ่ในพื้นที่รับผิดชอบได้ถึง 2 แห่ง ส่วนการที่ยังไม่เรียก ผบก.ภ.จ.นครปฐม มาช่วยราชการนั้น เนื่องจากพบว่ามีการจับกุมบ่อนพนันเพียงแห่งเดียว รวมถึงจำนวนผู้ต้องหามีจำนวนไม่มาก ขอยืนยันว่า กรณีนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นตัวอย่าง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามปกติ หน่วยไหนพบเจอการลักลอบเปิดบ่อนก็ต้องดำเนินการจับกุมทันที

ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนพื้นที่อื่นๆ มีข้อมูลการลักลอบเปิดบ่อนพนันหรือไม่ พล.ต.อ.อดุลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้ให้ทาง บก.ป.ดำเนินการอยู่ หากพบมีการเปิดบ่อน หรือแหล่งอบายมุขก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่จำเป็นต้องขอข้อมูลจากนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ถ้ามีประชาชนร้องเรียนมาตำรวจก็พร้อมดำเนินการซึ่งตนได้เอาจริงกับเรื่องนี้มานานแล้ว ไม่ว่าจะเป็นบ่อนขนาดใหญ่ หรือเล็กก็ต้องดำเนินการทั้งหมด

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับคำสั่งให้ ผบก.น.5 มาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ได้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางใน ตร. เนื่องจากการจับกุมบ่อนทั้ง 3 แห่งในครั้งนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ บ่อนพนันในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐม กลับไม่มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.เพชรัตน์ แสงไชย ผบก.ภ.จ.นครปฐม มาช่วยราชการแต่อย่างใด และหากนำไปเปรียบเทียบกับกรณีให้ ผบก.ตชด.1-3 เข้ามาช่วยราชการที่ ศปก.ตร.ก่อนหน้านี้ เพียงแค่ได้รับรายงานว่า ไม่ได้ลงควบคุมการฝึกซ้อมหน่วยเท่านั้น รวมถึงก่อนหน้านี้ เคยมีการจับกุมบ่อนพนันในพื้นที่ สภ.โพธิ์แก้ว มาแล้วอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า คงไม่ใช่ลักษณะของบ่อนวิ่ง จนมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมคำสั่งช่วยราชการในครั้งนี้