xs
xsm
sm
md
lg

ประหารผัว-เมียค้ายา ขับรถทับรองสารวัตรสืบสุทธิสารดับคาที่

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

 นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 26 ปี และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา (ในความผิดฐาน ฆ่าและพยามฆ่าเจ้าพนักงาน)
ศาลพิพากษาประหารชีวิตหนุ่มค้ายาตีนผี ขับรถเหยียบสารวัตรสืบดับสยองขณะเข้าล่อซื้อ เมื่อปี 2555 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์เหลือลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้ตาย 1.6 ล้านบาท ส่วนเมียลดโทษเหลือจำคุก 7 ปี

ศาลประหารชีวิตหนุ่มค้ายา ขับรถทับรองสารวัตรสืบสุทธิสาร เสียชีวิต ขณะเข้าล่อซื้อเมื่อปี 2555 แต่จำเลยให้การเป็นประโยชน์เหลือลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ชดใช้เงินให้ครอบครัวผู้ตาย 1.6 ล้านบาท ส่วนเมียลดโทษเหลือจำคุก 7 ปี

ที่ห้องพิจารณาคดี 712 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (22 มี.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.1002/2555 ที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 26 ปี และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา เป็นจำเลยที่ 1-2 ตามลำดับ ในความผิดฐานฆ่าและพยามฆ่าเจ้าพนักงาน

โจทก์ฟ้องสรุปว่า เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2555 เวลากลางวัน จำเลยทั้งสองมียาบ้าจำนวน 200 เม็ดและยาไอซ์จำนวน 4 กรัม ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จากนั้นตำรวจ สน.สุทธิสารได้ล่อซื้อยาเสพติดจากจำเลยภายในซอยลาดพร้าว 48 ซึ่งจำเลยทั้งสองได้ขับขับรถยนต์มาสด้า 2 ทะเบียน ฎฟ-7874 กทม. ต่อมาจำเลยที่ 1 รู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าจับกุมจึงขับรถหลบหนีและพุ่งชนจักรยานยนต์ ทะเบียน สธม 279 กทม. ซึ่งมี ส.ต.ท.ศิรวิทย์ รวมจิตร เป็นผู้ขับขี่ และ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรือง รอง สว.สส.สน.สุทธิสาร นั่งซ้อนท้าย จนทับร่างของ ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ดาวเรืองเสียชีวิต ส่วน ส.ต.ท.ศิรวิทย์ได้รับบาดเจ็บสาหัส กระทั่งหลังเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุมจำเลยทั้งสองได้พร้อมของกลางยาเสพติด ชั้นสอบสวนจำเลยทั้งสองให้การรับสารภาพ แต่ปฏิเสธสู้คดีในชั้นศาล เหตุเกิดแขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กทม.และ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เกี่ยวพันกัน ขอให้ศาลลงโทษ ตาม พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 102, ป.อาญา มาตรา 138, 289

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า โจทก์มี ส.ต.ท.ศิรวิทย์ เป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์ และมี ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ นั่งซ้อนท้าย เบิกความเป็นประจักษ์พยาน ระบุถึงเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ยังมีตำรวจที่เห็นเหตุการณ์อีก 2 ปาก ต่างเบิกความสอดคล้องกันว่า ขณะตำรวจแสดงตัวเข้าจับกุม จำเลยเข้าไปกลับรถภายในซอย ก่อนขับออกมาพุ่งชน ร.ต.อ.ทวีศักดิ์ ที่จอดรถจักรยานยนต์ขวางอยู่ การกระทำของจำเลยที่ขับรถทับผู้ตาย และลากร่างไปเป็นระยะทาง 15 เมตร ย่อมเล็งเห็นผลว่าน่าจะถึงแก่ความตาย ประกอบกับจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวน ที่จำเลยเบิกความอ้างว่า ไม่ทราบว่าเป็นตำรวจ และหลังถูกจับกุมแล้วโดนทำร้ายร่างกาย เห็นว่าเป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ข้อเท็จจริงรับฟังโดยปราศจากข้อสงสัยว่า จำเลยที่ 1 กระทำผิดตามฟ้อง นอกจากนี้ โจทก์ร่วมที่เป็นบิดา-มารดาของผู้เสียชีวิตจะต้องได้ค่าขาดไร้ผู้อุปการะและค่าใช้จ่ายในการทำศพ รวมเป็นเงิน 1.64 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตรา 7.5 ต่อปี

พิพากษาว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานฆ่าเจ้าพนักงานที่กำลังปฏิบัติหน้าที่ ลงโทษหนักสุดให้ประหารชีวิต ลงโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ให้จำคุก 14 ปี ปรับเงินจำนวน 7.5 แสน แต่จำเลยให้การรับสารภาพฐานมียาเสพติดฯ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 7 ปี ปรับเงินจำนวน 3.75 แสนบาท ฐานฆ่าเจ้าพนักงานฯ จำเลยให้การเป็นประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต แต่เมื่อรวมโทษจำคุกตลอดชีวิตแล้ว และปรับเงินจำนวน 3.75 แสนบาท

ส่วนจำเลยที่ 2 ลงโทษฐานมียาเสพติด ให้จำคุก 14 ปี ปรับเงินจำนวน 7.5 แสนบาท แต่จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุก 7 ปี ปรับเงิน 3.75 แสนบาท ให้จำเลยที่ 1 ชำระเงินค่าไร้ผู้อุปการะและค่าใช้จ่ายในการทำศพ จำนวน 1.64 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย 7.5 ต่อปี และให้ริบยาเสพติดของกลาง
นายอลงกรณ์ เริ่มประชาธิปไตย อายุ 26 ปี และ น.ส.ปรียานุช พุฒิกรณ์ อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา จำเลยในความผิดฐาน ฆ่าและพยามฆ่าเจ้าพนักงาน


กำลังโหลดความคิดเห็น