ร้อง ตร.สุรินทร์โหด ขับรถตราโล่ไล่ชนหนุ่ม จยย.ปางตายสมองบวมไม่รับผิดชอบ

สุรินทร์ - ชาวบ้านสุดทนร้องขอความเป็นธรรมถูกตำรวจ สภ.บัวเชด เมืองช้างโหด ขับรถตราโล่ไล่ชนหนุ่มขับ จยย.อาการปางตายสมองบวมยังนอนรักษาอยู่ รพ. ขณะ ตร.คนก่อเหตุบ่ายเบี่ยงไม่ออกมารับผิดชอบพร้อมนำรถไปหลบซ่อน พี่สาวผู้บาดเจ็บเรียกร้องผู้การฯ ลากตำรวจโหดตัวจริงออกมารับผิดชอบ พร้อมเชือดทั้งคดีอาญา และวินัยจนถึงที่สุด

วันนี้ (20 มี.ค.) ที่บริเวณปราสาทภูมิโปน บ.ภูมิโปน ต.ดม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ น.ส.ลภัสรดา ห่อทอง อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 236 ม.1 บ.ดม ต.ดม อ.สังขะ พร้อมญาติพี่น้องกว่า 20 คน ได้นำหลักฐานภาพถ่ายร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนขอความเป็นธรรมให้แก่นายปิยะ ห่อทอง อายุ 27 ปี น้องชายของ น.ส.ลภัสรดา โดยระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บัวเชด รายหนึ่งได้ขับรถยนต์กระบะตราโล่ตำรวจของ สภ.บัวเชด หมายเลขทะเบียน 4550 กทม.จำหมวดอักษรไม่ได้ ไล่ชนจักรยานยนต์ของนายปิยะ จนล้มคว่ำกลางถนน และไฟหน้าซ้ายของรถตราโล่ตำรวจแตกเสียหาย ทำให้นายปิยะ ได้รับบาดเจ็บสาหัส สมองบวม แขนขวาไม่สามารถใช้การได้ หน้าตาบวมช้ำ และมีแผลถลอกไปทั่วร่างกาย ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสุรินทร์ และเพิ่งออกจากห้องไอซียูแต่ต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.40 น. ของคืนวันที่ 14 มีนาคม ที่บริเวณ 4 แยกก่อนเข้าหมู่บ้านจารย์ ต.อาโพน อ.บัวเชด นายปิยะ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านหลังกลับมาจากทำธุระที่บ้านโพธิ์ใหญ่ ต.อาโพน ซึ่งเป็นบ้านญาติ ระหว่างที่เดินทางมาถึงบริเวณป้อมยามตำรวจ 4 แยกบ้านจารย์ ต.อาโพน อ.บัวเชด พบเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ทราบจำนวนสวมชุดครึ่งท่อนนั่งอยู่

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุหลังเกิดเหตุว่า วันเกิดเหตุมีการตั้งด่านตรวจจราจร ระหว่างนั้น นายปิยะ ได้ขับรถฝ่าด่านตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถไล่ติดตามจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น ซึ่งอยู่ห่างจาก 4 แยกป้อมยามตำรวจบ้านจารย์ ไปประมาณ 1.5 กิโลเมตร ขณะที่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวยืนยันไม่พบว่ามีการตั้งด่านตรวจแต่อย่างใด

น.ส.ลภัสรดา พี่สาว นายปิยะ ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส กล่าวว่า การที่ตน และญาติพี่น้องออกมาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชนในครั้งนี้ เพื่อขอความเป็นธรรมให้แก่น้องชาย และเพื่อเรียกร้องให้ สภ.บัวเชด นำเจ้าหน้าที่ตำรวจตัวจริง ซึ่งตนพอจะทราบชื่อโดยมีพยานในเหตุการณ์บอก คือ ด.ต.ประมูล วันทอง หรือ “ดาบกบ” ออกมารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งจ่ายค่ารักษาพยาบาลจนกว่าน้องชายจะหายเป็นปกติ และให้ดำเนินตามกฎหมายทั้งทางคดีอาญา และทางวินัยต่อตำรวจนายนี้จนถึงที่สุด

ที่ผ่านมา ตนและญาติพี่น้องพยายามติดต่อสอบถามถึงความคืบหน้าของคดี และความรับผิดชอบต่อทาง สภ.บัวเชด แต่ได้รับการบ่ายเบี่ยง ไม่มีความชัดเจนเยื้อเวลามานานเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว และเมื่อช่วงค่ำวันที่ 18 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนและญาติพี่น้องจึงได้เดินทางไปยัง สภ.บัวเชด เพื่อพบกับผู้กำกับการ สภ.บัวเชด ตามที่ได้นัดหมายไว้ แต่ก็ไม่พบใคร และจะนัดเจรจากันอีกครั้ง

ส่วนรถยนต์กระบะตราโล่ตำรวจคันก่อเหตุ ไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขับไปหลบซ่อนไว้ที่ไหน นอกจากนี้ ในวันที่เกิดเหตุได้เข้าไปแจ้งความที่ สภ.บัวเชด ซึ่งได้รับคำยืนยันจากตำรวจ สภ.บัวเชด ว่า ได้ลงบันทึกประจำวันทุกอย่างแล้วไม่ต้องแจ้งความอีก ซึ่งไม่ทราบว่าตำรวจลงบันทึกประจำวันว่าอย่างไรบ้าง และทำไมถึงไม่ให้แจ้งความ และได้ขอให้ตรวจวัดแอลกอฮอล์ตำรวจคนที่ขับรถคันเกิดเหตุชน ตั้งแต่เวลาประมาณ 21.00 น.ของวันเกิดเหตุ รอจนถึงเวลาประมาณ 01.00 น. ของวันใหม่ถึงได้มีการนำตัวตำรวจมาตรวจวัดแอลกอฮอล์ ซึ่งก็เป็นคนละคนกันกับตำรวจที่ขับรถชนทำให้ระดับแอลกอฮอล์เป็นศูนย์

“พวกเราเห็นว่ากรณีดังกล่าวเริ่มไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่แล้ว จึงขอวิงวอนผู้บังคับบัญชานำตัวตำรวจที่ก่อเหตุดังกล่าวออกมารับผิดชอบด้วย เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ และกระทำโหดร้ายกับประชาชน สุดที่จะยอมรับได้ และหลังจากการสอบถามชาวบ้านในวันเกิดเหตุที่บริเวณ 4 แยกป้อมยามบ้านจารย์ ดังกล่าว ไม่พบว่ามีการตั้งด่านของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด จึงไม่ทราบว่าเหตุใดตำรวจจึงขับรถไล่ชนดังกล่าว” น.ส.ลภัสรดากล่าว

น.ส.ลภัสรดา กล่าวเติมว่า เมื่อวานนี้ (19 มี.ค.) ตนได้ยื่นหนังสือร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ผ่านปลัดจังหวัดสุรินทร์ และยื่นหนังสือร้องเรียนกต่อผู้บังคับการตำรวจภูธร จังหวัดสุรินทร์แล้ว เพื่อให้นำตัวตำรวจโหดตัวจริงนายนี้ออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำลงไป

ด้านนายเฟือน สุระคนธ์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่193 ม.5 บ.ตาปิม ต.บัวเชด อ.บัวเชด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ประจำจุดบัวเชด กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนอยู่บ้านซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุไม่ไกลนัก และเพิ่งกลับมาจากงานเลี้ยงส่งนายอำเภอบัวเชด ก่อนจะได้ยินเสียงรถชนดังมาก จึงขับรถจักรยายนต์ไปยังที่เกิดเหตุทันที พบผู้บาดเจ็บนอนหมดสติอยู่กลางถนน และพบรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจอดอยู่ 2 คัน

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับคำตอบว่า ผู้บาดเจ็บขับรถจักรยานยนต์ฝ่าด่านตรวจมา แต่ตนไม่ทราบว่าหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น แต่สังเกตพบว่า รถยนต์กระบะตราโล่ของตำรวจ สภ.บัวเชด ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้แชมป์ ที่จอดอยู่นั้น ไฟด้านหน้าซ้ายแตก จากนั้นจึงได้โบกรถ และประสานรถพยาบาลรีบนำตัวผู้บาดเจ็บนำตัวส่งโรงพยาบาลบัวเชด ก่อนส่งต่อรักษาตัวที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลสุรินทร์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ เนื่องจากนายปิยะ อาการสาหัส