รวบแก๊งรถทัวร์ลักทรัพย์นักท่องเที่ยวต่างชาติ

ตร.ท่องเที่ยวจับแก๊งรถทัวร์ลักทรัพย์ชาวต่างชาติ 8 ราย พร้อมใบกระท่อม 91ใบ รับทำมา2ครั้งแล้วโดยคนร้ายเจาะช่องแคบหลังคนขับเพื่อมุดไปลักทรัพย์ฉวยโอกาสตอนเผลอหลับ

วันนี้ (22 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พ.ต.อ.ศุภพล อรุณสิทธิ์ รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ยงเกียรติ มณปราณีต รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.กิตติพงษ์ รณหงษา สว.งานสืบสวน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.1 บก.ทท. ร่วมแถลงการจับกุมผู้ต้องหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบนรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง (ทัวร์ 30) ประกอบด้วย ผู้ต้องหา 4 ราย คือ นายอเนก อ้อนวอน อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/6 หมู่ที่ 6 ต.ขุนทะเล อ.เมืองสุราษฎร์ธานี จ.สุราษฎร์ธานี นายภูวนาตย์ จงจิต อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 600 ถ.โชติรวี ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม นายสิรัตน์ ศิริไพบูลย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 หมู่ที่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม และนายพิสิทธิ์ คนอยู่ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 262 ถ.สวนตะไคร้ ต.สนามจันทร์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม พร้อมของกลางบัตรเครดิต จำนวน 2 ใบ โทรศัพท์ยี่ห้อซัมซุง กาแลคซี่ s3 จำนวน 1 เครื่อง แหวนทองคำ จำนวน 2 วง ธนบัตรสกุลหยวน 100 หยวน จำนวน 20 ใบ ธนบัตรไทย จำนวน 1,740 บาท เหรียญต่างประเทศ จำนวน 11 เหรียญ วิทยุสื่อสารยี่ห้อ NUT 2 เครื่อง ไขควง ไฟฉาย และใบกระท่อม 91 ใบ สามารถจับกุมได้บริเวณหน้ากองสลากกินแบ่งรัฐบาล ถนนราชดำเนินกลาง แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

พ.ต.อ.ศุภพลกล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวต่างชาติจำนวนมากว่ามีกลุ่มคนร้ายแฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนขับและพนักงานประจำรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง (รถทัวร์ 30) โดยจะอาศัยโอกาสที่ผู้เสียหายนอนหลับหรือเผลอไม่ทันระวังตัวระว่างเดินทางทำการลักเอาทรัพย์สินต่างๆ ไป ต่อมาชุดสืบสวนจึงเฝ้าสังเกตพฤติกรรมอย่างต่อเนื่องจนทราบว่า เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 รถทัวร์ของบริษัทชานนท์ แทรแวล หมายเลขทะเบียน 30-0058 นครศรีธรรมราช เป็นรถปรับอากาศชั้นเดียวจะเดินทางออกจาก จ.สุราษฎร์ธานี เวลา 20.00 น. มายังกรุงเทพฯ กระทั่งมาถึงปลายทางบริเวณหน้ากองสลาก เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวขอทำการตรวจค้นรถบัสคันดังกล่าว พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้โดยสารทุกคนตรวจสอบทรัพย์สิน พบว่ามีทรัพย์สินหายไปหลายรายการ จึงทำการตรวจค้นคนขับพร้อมเด็กรถทั้ง 4 คน ปรากฏว่าพบของกลางทั้งหมดจำนวนหลายรายการซึ่งเป็นของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ จำนวน 8 ราย และนักท่องเที่ยวได้ยืนยันในทรัพย์สินว่าเป็นของตนที่ถูกลักเอาไป เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางทั้งหมดมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายอเนกให้การรับสารภาพว่าตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าว พร้อมพวกอีก 3 คน กระทำโดยวิธีการดัดแปลงรถเจาะช่องรถตรงกลางด้านหลังคนขับทะลุไปยังห้องเก็บสัมภาระผู้โดยสาร ระหว่างเดินทางที่ผู้โดยสารเผลอหลับก็จะให้พวกอีกสามคนใช้ไฟฉายมุดเข้าไปในช่องเพื่อลักทรัพย์สินมาเก็บไว้ หลังจากนั้นก็จะนำทรัพย์สินที่ได้ไปขายต่อ ส่วนเงินสกุลต่างๆ จะนำไปแลกแล้วมาแบ่งเท่าๆ กัน ทำมาแล้ว 2 ครั้ง นอกจากนี้จากการตรวจสอบปัสสาวะยังพบว่าเป็นฉี่ม่วงอีกด้วย ได้รับว่าใบกระท่อมนำมาเสพเท่านั้นไม่ได้มีไว้เพื่อจำหน่าย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์บนยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสารในเวลากลางคืน มีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน ขับรถเสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) และครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 (พืชกระท่อม) โดยผิดกฎหมาย และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ชนะสงคราม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป