xs
xsm
sm
md
lg

จับโจรแฝงตัวเป็นโซฟอร์รถทัวร์ ลักทรัพย์นักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

นายสำรวม ทองเกตุ อายุ 55 ปี และนายธนวัฒน์ เฉลิมชัย อายุ 26 ปีผู้ต้องหาลักทรัพย์นักท่องเที่ยว
ตร.ท่องเที่ยว แถลงผลจับกุม 2 ผู้ต้องหาชาวสุราษฏร์ฯ ร่วมกันลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบนรถโดยสารไม่ประจำทาง โดยแฝงตัวอยู่ในกลุ่มคนขับและพนักงานประจำรถ สารภาพก่อคดีมาแล้วโชกโชน

วันนี้ (13 พ.ย.) ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท. พ.ต.อ.ชาคร ศรีวัฒนประยูร ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.จักรกริช เสริบุตร สว.งานสืบสวน กก.1 บก.ทท. และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แถลงผลการจับกุมนายสำรวม ทองเกตุ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 297/10 ถ.ตลาดใหม่ ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และนายธนวัฒน์ เฉลิมชัย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 8/236 หมู่ที่ 3 ถ.เลี่ยงเมือง ต.มะขามเตี้ย อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาร่วมกันลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบนรถโดยสารไม่ประจำทาง พร้อมของกลางบัตรอิเล็กทรอนิกส์ธนาคารต่างประเทศ 1 ใบ อาวุธปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติกขนาด0.22 นิ้ว 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุนจำนวน 4 นัด อุปกรณ์สะเดาะแม่กุญแจ 1 อัน และอุปกรณ์การเสพยาเสพติด 1 ชุด โดยสามารถจับกุมได้บริเวณถนนมหาราช แขวงพระบรามมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ

พล.ต.ต.รอย เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีชาวต่างชาติเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่ามีทรัพย์สินหายไปหลังจากการใช้บริการรถทัวร์โดยสารดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนติดตามหาผู้ก่อเหตุจนพบว่ารถโดยสารไม่ประจำทางหมายเลขทะเบียน 31-4721 กทม.มีกลุ่มอาชญากรที่แฝงตัวปะปนอยู่ในกลุ่มคนขับและพนักงานประจำรถ เพื่อก่อเหตุลักทรัพย์ของนักท่องเที่ยวและก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดกำลังเฝ้าดูพฤติกรรมและติดตามอย่างต่อเนื่อง

จนกระทั่งทราบว่ารถโดยสารคันดังกล่าวจะรับนักท่องเที่ยวจากสุราษฎร์ธานี ในวันที่ 12 พ.ย. ที่ผ่านมา และจะไปส่งยังปลายทาง กทม. บริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงติดตามดูพฤติการณ์ระหว่างเดินทาง จนกระทั่งเวลาประมาณ 06.30น.ของวันที่ 13 พ.ย. รถโดยสารคันดังกล่าวได้พาผู้โดยสารมาส่งยังบริเวณถนนมหาราช เจ้าหน้าที่จึงเข้าแสดงตัวขอตรวจค้น และมีผู้โดยสารชาวต่างชาติ ชื่อ MR.NICOLAS OBERT สัญชาติฝรั่งเศส แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าบัตรเครดิตของตนหายไปหลังจากที่เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทางและทำการล็อคกุญแจอย่างดี ต่อมาเจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นตัวนายสำรวม คนขับรถและพบบัตรเครดิตซุกซ่อนอยู่ในกางเกงด้านขวา จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

จากการสอบสวนนายสำรวมให้การรับสารภาพว่า ตนมีหน้าที่เป็นคนขับรถและหากจะลงมือก่อเหตุลักทรัพย์ของผู้โดยสาร ตนจะให้นายธนวัฒน์ มาขับรถแทนตนเมื่อก่อเหตุเสร็จตนจึงจะมาทำหน้าที่ขับรถเหมือนเดิม โดยทำมาแล้วประมาณ 3-4 ครั้ง นอกจากนี้ตรวจสอบประวัติยังพบอีกว่านายสำรวม เคยถูกจับในข้อหาพยายามฆ่านักท่องเที่ยวชาวเยอรมัน เมื่อวันที่ 27 มิถุนายนที่ผ่านมา ภายในปั๊มปิโตรนาส ถ.พระราม 2 จ.สมุทรสาคร และต้องคดีตาม พ.ร.บ.เช็คฯ พื้นที่ สน.ชนะสงคราม ส่วนนายธนวัฒน์นั้นเคยถูกจับในข้อหาลักทรัพย์นายจ้าง เมื่อปี 2551 พื้นที่ สภ.เมืองระนอง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหานายสำรวมและนายธนวัฒน์ “ร่วมกันลักทรัพย์บนยานพาหนะอื่นที่ประชาชนโดยสารในเวลากลางคืน หรือรับของโจร, ร่วมกันมีเพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นฯ , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตตามีน) ขณะขับขี่รถโดยสาร, ส่วนนายสำรวมเพิ่มอีกข้อหาพกพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมืองฯ โดยไม่ได้รับอนุญาต” นอกจากนี้ยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบกฯ แก้ไขเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของตัวรถโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน โทษปรับ 5,000 บาท และใช้รถที่มีอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวงฯ เช่น เจาะช่องคนขับ เพื่อให้สามารถเข้าถึงห้องเก็บสัมภาระของผู้โดยสาร ปรับไม่เกิน 50,000 บาท
รถคันก่อเหตุ
กำลังโหลดความคิดเห็น