สืบพลับพลาไชย 2 รวบผัวชวนเมียท้องแก่ตระเวนวิ่งราวทรัพย์ รับเลือกเหยื่อที่นั่งทานอาหารข้างถนนโดยไม่ทันระวังตัว โดยก่อเหตุำมาแล้วหลายท้องที่นำเงินที่ได้ไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
วันนี้ (16 มี.ค.) ที่ สน.พลับพลาไชย 2 เมื่อเวลา 09.30 น. พล.ต.ต.วัลลภ ประทุมเมือง ผบก.น.6 พ.ต.ท.ปกาศิต สอดจันทร์ สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 แถลงข่าวจับกุม นายธนพล หรือตั้ม กล้าหาญ อายุ 29 ปี และ น.ส.ศุภศิริ หรือพลอย คุปต์วิวัฒน์ อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา พร้อมของกลางจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีเขียว ทะเบียน มวต 799 กรุงเทพมหานคร หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ 2 ใบ เสื้อผ้าที่ใช้ก่อเหตุ 1 ชุด กระเป๋าสะพายแบบผู้หญิง 1 ใบ กระเป๋าสตางค์แบบผู้หญิง 1 ใบ นาฬิกาข้อมือยี่ห้อ Longine 1 เรือน และบัตรประชาชนผู้เสียหายที่เป็นผู้หญิงรวมถึงบัตรอิเล็กทรอนิกส์ อีก 20 ใบ โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องพักกลางซอยจรัญสนิทวงศ์ 57 แขวงและเขตบางพลัด กทม.
พล.ต.ต.วัลลภกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่านายธนพล น.ส.ศุภศิริ และเพื่อนร่วมแก๊งอีกรายอยู่ระหว่างการหลบหนี ได้ขี่จักรยานยนต์ตระเวนก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อที่เป็นผู้หญิงในท้องที่ สน.พลับพลาไชย 2 มาแล้วหลายคดี โดยนายธนพลทำหน้าที่เป็นคนขับขี่ ส่วน น.ส.ศุภศิริ ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน และเพื่อนที่อยู่ระหว่างหลบหนีสลับกันเป็นผู้กระชากกระเป๋าเหยื่อ
นอกจากนี้ ตรวจสอบพบว่าคนร้ายทั้ง 3 คนร่วมกันก่อเหตุลักษณะนี้อีกหลายท้องที่ทั้ง สน.จักรวรรดิ สน.พญาไท สน.มักกะสัน และ สน.ชนะสงคราม จึงเร่งแจกจ่ายตำหนิรูปพรรณของคนร้ายและยานพาหนะที่ใช้ไปตามโรงพักต่างๆ เพื่อหาเบาะแส กระทั่งได้รับการติดต่อจากฝ่ายสืบสวน สน.บางยี่เรือ ว่าพบสามีและภรรยาผู้ต้องสงสัยไปปรากฏตัวที่ปากซอยหิรัญรูจี แขวงและเขตธนบุรี จึงติดตามไปจับกุมภายในห้องพักดังกล่าว
สอบสวนนายธนพลให้การว่า ตนรู้จักกับเพื่อนที่อยู่ระหว่างการหลบหนีมานาน 10 ปี และชักชวนกันก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เหยื่อเฉพาะที่เป็นสุภาพสตรีมานับครั้งไม่ถ้วน กระทั่งระยะหลังทะเลาะกันจึงชักชวน น.ส.ศุภศิริ ภรรยามาร่วมก่อเหตุด้วย ทั้งนี้เมื่อตนขับจักรยานยนต์ไปจอดใกล้เหยื่อ จากนั้นให้ภรรยาไปวิ่งราวทรัพย์แล้วขี่จักรยานยนต์หนีไป โดยเงินสดไปใช้ ส่วนทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ จะนำไปขายให้พ่อค้าย่านคลองหลอด สำหรับบัตรต่างๆ ของผู้เสียหายส่วนหนึ่งจะนำไปทิ้งในถังขยะหน้าห้องพักซึ่งตรงกับหลังบ้านนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี
“ที่ผมและภรรยาตัดสินใจก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์เนื่องจากรายได้ไม่พอใช้จ่าย ประกอบกับผมติดยาบ้าและภรรยาก็ติดยาไอซ์งอมแงมแม้กำลังตั้งท้องก็ยังไม่เลิกเสพ” นายธนพลกล่าว
ด้าน น.ส.ศุภศิริยอมรับว่า เพิ่งร่วมกันก่อเหตุกับสามีได้เพียง 2 ครั้ง โดยตนรับหน้าที่ลงจากรถไปกระชากกระเป๋าเหยื่อที่กำลังเผลอ เช่น นั่งกินข้าวอยู่ริมถนน ครั้งแรกก็นำลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน ไปร่วมในเหตุการณ์ด้วยโดยไม่ได้คิดอะไรเพราะลูกยังเล็กคงยังไม่รู้ประสีประสา เมื่อปี พ.ศ. 2553 ตนเคยถูกตำรวจ สน.สำราญราษฎร์จับกุมข้อหาจำหน่ายยาบ้า ออกจากคุกมาไม่นานก็มีลูกเลย และยอมรับว่าทุกวันนี้ติดยาไอซ์จริง เพิ่งเสพครั้งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ก่อน แม้จะยังตั้งท้องลูกอีกคนใกล้คลอดแล้วแต่ยังเลิกไม่ได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดและพาทรัพย์นั้นไป ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนแต่ละท้องที่ดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้ต้องหาอีกรายที่ยังหลบหนีนั้นจะติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป