xs
xsm
sm
md
lg

ศาลนัดฟังคำสั่งปมยิงช่างภาพอิตาลีดับช่วงเหตุการณ์ชุมนุมวุ่นวาย ปี 53

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

(แฟ้มภาพ)
ศาลนัดฟังคำสั่งสาเหตุการเสียชีวิตของช่างภาพอิตาลีช่วงสลายม็อบเสื้อแดง ในวันที่ 29 พ.ค.นี้ ด้านพยานเผยวันเกิดเหตุไม่เห็นชายชุดดำแต่อย่างใด

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (15 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถนนเจริญกรุง ศาลนัดไต่สวนชันสูตรการเสียชีวิตคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 ยื่นคำร้องขอให้ชันสูตรการเสียชีวิตของนายฟาบิโอ โปเลงกี ช่างภาพชาวอิตาลี ที่ถูกยิงเสียชีวิตจากการสลายผู้ชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช.ที่บริเวณสี่แยกศาลาแดง ไปจนถึงแยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ในสมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อทำคำสั่ง แสดงว่าผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหนเมื่อใด ถึงเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150

โดยในวันนี้พนักงานอัยการนำ นายมิเชล มาร์ค อายุ 58 ปี ผู้สื่อข่าววิทยุและโทรทัศน์ NOS เรดิโอแอนเทเลวิช ประจำกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เข้าเบิกความผ่านล่าม สรุปว่า ในวันเกิดเหตุดูข่าวจากโทรทัศน์ทราบว่า ทหารกำลังเคลื่อนที่เข้าสลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.ที่บริเวณแยกศาลาแดง จึงรีบออกไปดูเหตุการณ์โดยไปรวมกลุ่มกับผู้สื่อข่าวต่างประเทศและผู้ชุมนุมที่บริเวณสวนลุมพินี ใกล้โรงแรมรีเจนท์ ห่างจากแยกศาลาแดงประมาณ 400-500 เมตร เมื่อหันไปมองทางแยกศาลาแดง เห็นทหารในชุดเครื่องแบบพร้อมอาวุธปืนเอ็ม 16 กำลังเคลื่อนพลเข้ามา

ขณะที่พยานยืนอยู่ได้ยินเสียงปืนเป็นระยะ มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บ พยานจะเข้าไปช่วย แต่เสียงปืนดังต่อเนื่อง พยานจึงเข้าไปหลบในที่กำบัง เห็นกระสุนปืนมาจากฝั่งทหาร เหตุการณ์โกลาหลวุ่นวาย เสียงตะโกนร้อง วิ่งหนีกันวุ่นวาย ต่างคนต่างพากันวิ่งหลบหนีไปที่แยกราชประสงค์ อย่างไรก็ตามพยานไม่เห็นเหตุการณ์ขณะที่นายฟาบิโอ ถูกยิง เพราะพยานวิ่งหนีไปที่แยกราชประสงค์ ขณะที่พยานวิ่งหนีก็ถูกยิงที่ด้านหลัง พยานใช้กล้องโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถ่ายทอดสดไปยังสถานี และมีพลเมืองดีพาพยานไปรักษาที่ รพ.และแพทย์ผ่าเอาหัวกระสุนออก และดีเอสไอเก็บกระสุน เอ็ม 16 โดยวันเกิดเหตุไม่เห็นชายชุดดำแต่อย่างใด

ภายหลังพยานเบิกความเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานอัยการแถลงว่าจะนำพยานเข้าเบิกความอีก 2 ปาก ส่วนทนายความญาติผู้ตายขอนำพยานเข้าเบิกความอีก 10 ปาก ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าคดีศาลไต่สวนเพื่อมีคำสั่งเพียงว่า ผู้ตายเป็นใคร ตายที่ไหนเมื่อใด ถึงเหตุ และพฤติการณ์ที่ตาย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 150 ซึ่งจากการไต่สวนพยานที่ผ่านมา ก็ได้ข้อเท็จจริงครบถ้วนเพียงพอต่อการทำคำสั่งแล้ว จึงมีคำสั่งให้งดการไต่สวนพยานที่เหลือ และนัดฟังคำสั่งในวันที่ 29 พ.ค.นี้ เวลา 09.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าการไต่สวนในวันนี้ น.ส.อลิซาเบท โปเลงกิ น้องสาวนายฟาบิโอ ผู้ตายได้เดินทางเข้ามาฟังการไต่สวน พร้อมพยานอื่นซึ่งเป็นชาวต่างชาติอีกประมาณ 3-4 ปาก ภายหลัง น.ส.อลิซาเบท กล่าวว่า การไต่สวนพยานในคดีนี้ได้ยินพยานหลายปากเบิกความซึ่งเป็นพยานที่ดี แต่มีบางปากที่ศาลไม่ให้เบิกความ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าศาลจะได้หลักฐานทั้งหมดในคดีครบถ้วนแล้ว หลังจากนี้จะขออยู่เงียบๆ สักพักเพื่อรอฟังคำสั่งศาล หลังจากนี้ก็คงสบายใจเสียที อีกทั้งเมื่อถึงเวลานั้นคนไทยจะได้ทราบว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมาเกิดขึ้น และหวังว่าเหตุการณ์อย่างพี่ชายตนจะไม่เกิดขึ้นอีก ขอขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือในคดีนี้เหมือนกับนายฟาบิโอ เป็นพี่ชายตัวเอง

นายคารม พลพรกลาง ทนายความญาตินายฟาบิโอ กล่าวว่า แม้ศาลจะงดการไต่สวนพยานที่เหลือก็ไม่เป็นไร เพราะมั่นใจว่าในการไต่สวนที่ผ่านมาได้รายละเอียดข้อเท็จจริงในเหตุการณ์เสียชีวิตของนายฟาบิโอครบถ้วนแล้ว โดยหลังจากนี้จะพา นายเจฟฟี ซี จาร์บลอนสกี นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ที่อยู่ในเหตุการณ์และได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้มากมาย และสำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษก็ใช้นำไปทำเป็นสารคดี เข้าให้การกับพนักงานสอบสวนดีเอสไอไว้เป็นหลักฐานเพื่อเป็นประโยชน์ในคดีนี้และคดีอื่นๆ ต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น