xs
xsm
sm
md
lg

ตราบาป-โสเภณีเด็ก ถนนน้ำกามที่สมัครใจ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


โดยผู้กองตั้ง

แม้จะผ่านพ้นช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ เทศกาลวันแห่งความรัก 14 ก.พ.ไปแล้ว แต่ไม่ต้องแปลกใจกับการออกกวาดล้างของตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (ปคม.) ตามนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้มอบหมายให้กองกำกับการ ปคม.ทั้ง 1-6 เร่งจัดกำลังลงพื้นที่รับผิดชอบ โดยตั้งเป้าให้มีผลการดำเนินการจับกุมให้ได้อย่างน้อย 5 รายต่อเดือน ทำให้ทุกๆ เดือน ทาง บก.ปคม.จะออกกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ ไม่น้อยกว่า 30 ราย

โดยหวังว่าจะกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ เพื่อให้ผู้ที่กระทำความผิด หรือคิดที่จะทำมีจำนวนลดน้อยลง นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นให้ตำรวจในท้องที่ต่างๆ ออกสืบสวนจับกุมผู้ลักลอบกระทำผิดเหล่านี้ให้ลดน้อยถอยลงไป

แต่ที่น่าสลดหดหู่ใจกับสถิติ เมื่อพบว่าการจับกุมผู้ค้าประเวณีส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี และบางรายอาจกลายเป็นเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปีเสียด้วยซ้ำไป ที่ต้องตกตะลึงยิ่งกว่านั้น พบว่าผู้เป็นธุระจัดหาหรือเรียกง่ายๆตามภาษาชาวบ้านก็คือ“แม่เล้า” จะเป็นเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปี โดยจะมีเด็กในสังกัดเล้าละประมาณ 10 คน

โดยพฤติการณ์จะคล้ายคลึงกันหมด ทั้งเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้าหรือเดินเร่ขายตามแหล่งสถานบันเทิง โดยเจ้าของสถานที่จะปฏิเสธในทำนองเดียวกันว่า ไม่เคยบังคับเด็กหญิงให้ขายบริการ แต่เป็นการสมยอมกันระหว่างลูกค้าและผู้ที่ค้าประเวณี โดยแม่เล้านั้นจะทำตัวเป็นนายหน้า รับบริการจัดส่งเด็กถึงห้องพัก โดยคิดราคาค่าบริการครั้งละ 1,500-2,000 บาท แต่หากเป็นเด็กยิ่งอายุน้อยลงเท่าไหร่ค่าบริการก็สูงขึ้น บางรายอาจสูงถึง 5,000 บาท โดยแม่เล้าจะหักค่านายหน้าครั้งละ 500-1,000 บาท และจากสถิติพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นคนวัยทำงาน

ขณะที่ข้อมูลจากนักสังคมสงเคราะห์ พบว่าเด็กส่วนใหญ่ที่ขายบริการทางเพศ เริ่มต้นจากความไม่พร้อมของครอบครัว หรือครอบครัวแตกแยก อาศัยอยู่กับคนที่ไม่สามารถกำหนดกรอบให้เด็กได้ ทำให้เด็กขาดความอบอุ่น ไม่มีทิศทางในการปฏิบัติตัว หันไปมีแฟนและเสียตัวตั้งแต่อายุยังน้อย บางรายหนีออกจากบ้าน ประกอบกับโลกปัจจุบันมีการติดต่อกันง่ายขึ้น ไม่ว่าอินเตอร์เน็ต หรือโทรศัพท์ เด็กเหล่านี้ต้องการใช้เงินเหมือนคนทั่วไป แต่ไม่สามารถทำงานในระบบได้เนื่องจากอายุยังน้อย

สุดท้ายเมื่อเสียตัวให้แฟนไปแล้ว เด็กบางคนก็คิดว่าหากเสียตัวให้คนอื่นก็ไม่เป็นไร หาเงินวิธีนี้ไม่ยาก จึงทำต่อเรื่อยๆ ประกอบกับค่านิยมของผู้ใช้บริการเองเองก็มีความนิยมที่จะนอนกับเด็กที่มีอายุน้อย เมื่อเด็กทำก็เริ่มชักชวนเพื่อนที่มีปัญหาคล้ายๆกันเข้ามาสูอาชีพนี้ โดยตนเองเป็นคนแนะนำและพาไปส่งเพื่อเอาเงินค่านายหน้าโดยไม่รู้ว่า มีความผิดเข้าข่าย พ.ร.บ.ค้ามนุษย์

ส่วนอัตราโทษบัญญัติไว้ว่า การล่อลวงหรือนำพาเด็กหญิง เยาวชน ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เพื่อไปทำการค้าบริการนั้น ถือว่าเป็นการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.การค้ามนุษย์ ซึ่งผู้ที่ถูกนำพามานั้น จะยินยอมหรือไม่ก็ตามต้องถูกแจ้งดำเนินคดีในข้อกล่าวหา เป็นธุระจัดหานำพาเยาวชนอายุต่ำกว่า 15 หรือ 18 ปี ตามการกระทำความผิด เพื่อมาค้าบริการทางเพศ เข้าข่ายการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ มีโทษตั้งแต่จำคุก 4-10 ปี และ ปรับตั้งแต่ 80,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการจับกุมที่ผ่านมานั้น มีการดำเนินการออกสืบสวนหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ หากพบว่า การนำพาเด็กหรือเยาวชน มาค้าบริการทางเพศ ซึ่งอาจจะนำส่งไปเข้าพักในโรงแรมม่านรูด ตลอดจนห้องเช่ารายวัน เจ้าของสถานที่ก็ถือว่ามีความผิดเช่นเดียวกัน

นโยบายการจับกุมถือว่าเป็นการปราม แต่คงปราบให้สิ้นซากคงยาก หากนักเที่ยวยามราตรีหรือชาวต่างชาติ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไทยเป็นเมืองสวรรค์แห่งน้ำกาม ที่สามารถซื้อหาเพื่อปลดปล่อยความกำหนัดได้ตลอด 24 ชั่วโมง.... ธุรกิจค้านาผืนน้อยจึงเติบโตเป็นล่ำป็นสัน เพราะไม่ต้องลงทุนมากมายและกว่าร้อยละ 80 เป็นเรื่องของความสมัครใจทั้งสิ้น

จากข้อมูลทางเชิงวิชาการและจิตวิทยา พบว่าสาเหตุของการเข้าสู่อาชีพโสเภณีเด็ก เด็กหญิงส่วนใหญ่เคยมีประสบการณ์ทางเพศมาก่อนและการขายบริการทางเพศนั้นเกิดขึ้นด้วยความสมัครใจและเมื่อพิจารณาเงื่อนไขที่ทำให้พวกเธอตัดสินใจขายบริการทางเพศ เกิดจากปัจจัย 4 ประการ คือ

หนึ่ง-ปัจจัยจากตัวเด็ก อันประกอบด้วยความฟุ้งเฟ้อด้านวัตถุนิยม
ความต้องการความรักและการยอมรับจากคนที่ตนรัก และความรับผิดชอบต่อครอบครัว

สอง-ปัจจัยจากครอบครัว ซึ่งถือปัจจัยที่สำคัญยิ่งต่อการตัดสินใจในการขายบริการทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวยากจน ครอบครัวแตกแยก การเลี้ยงดูและการอบรมอย่างไม่ถูกวิธี ทำให้เด็กหญิงสิ้นหวัง ดำเนินชีวิตแบบไร้ทิศทาง และเป็นสาเหตุแห่งการกระทำผิดของคนโดยมาก

สาม-ปัจจัยจากความต้องการของลูกค้าที่ประกอบไปด้วย เด็กนั้นมีความสดและใหม่ เด็กนั้นให้ความปลอดภัยจากการติดโรคและเอดส์ ค่านิยมและความวิปริตทางเพศที่สูงขึ้นเรื่อยๆ

สี่-ปัจจัยด้านกลไกในการควบคุมของสังคมปัจจุบัน กลไกในการควบคุมของสังคมยังอ่อนแอ และหย่อนยานด้วยการเพิกเฉยของคนในสังคม การบังคับใช้กฎหมายที่ไม่จริงจัง ไม่ต่อเนื่อง ตราบนั้น การเกิดและการดำรงอยู่ของโสเภณีเด็กก็ยังคงมีอยู่และยิ่งเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ และจากการศึกษา กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบว่า โสเภณีเด็กเกิดจากปัญหาความยากจน มากที่สุด ร้อยละ 77.4 รองลงมาเกิดจากความต้องการให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ร้อยละ 75.1 และโสเภณีเด็กเกิดจากเพื่อนฝูงชักจูง ร้อยละ 66.5 สอดคล้องกับกลุ่มประชาชนทั่วไป ว่า โสเภณีเด็กเกิดจากปัญหาความยากจนมากที่สุด ร้อยละ 77.8 รองลงมาเกิดจากความต้องการประสบการณ์แปลกใหม่ ร้อยละ 74.2 ถูกพ่อแม่บังคับให้ขายตัว ร้อยละ 70.9 และเกิดจากเพื่อนฝูงชักจูง ร้อยละ 42.4 และสอดคล้องกับผลการศึกษาโดยวิธีเชิงคุณภาพ ในการสัมภาษณ์เด็กหญิงที่ขายบริการทางเพศ สี่ในห้าคนตอบว่ามาจากครอบครัวที่ยากจน ทำให้พวกเธอตัดสินใจประกอบอาชีพนี้อย่างง่ายดายและด้วยความสมัครใจ เพื่อให้มีรายได้มาจุนเจือครอบครัว และเพื่อต้องการให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และอีกสาเหตุก็คือ ถูกเพื่อนฝูงชักจูงและแม่เลี้ยงบังคับให้ขายตัว เป็นต้น สรุปผลการศึกษา สาเหตุของการเข้าสู่อาชีพโสเภณีเด็ก พบว่า เกิดจากปัญหาความยากจน มากที่สุด รองลงมาเกิดจากความต้องการให้ครอบครัวมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเกิดจากความต้องการหาประสบการณ์แปลกใหม่ ตามลำดับ

นอกจากจำนวนที่เพิ่มขึ้นแล้ว อายุของผู้ที่ก้าวสู่อาชีพนี้ก็ลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ จากเคยมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 20 ปีขึ้นไป ปัจจุบันพบว่า ลดลงมาอยู่ที่อายุ 13-18 ปีผู้ประสานงาน โครงการคาหล้า มูลนิธิเอกชนเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ถูกล่อลวง บอกว่า โสเภณีเด็กมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ

“พื้นที่ที่มีการซื้อขายมากสุด ได้แก่ พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำาปาง ซึ่งเป็นเขตยากจนของทางเหนือ และเป็นภาคที่ผู้หญิงมีหน้าตาและผิวพรรณดี เหมาะเป็นสินค้ามากกว่าภาคอื่น”

นางศิริพร สโครบาเนค หัวหน้าศูนย์ผู้หญิง ติดตามสถานการณ์โสเภณีเด็กอย่างต่อเนื่องให้ทรรศนะว่า เป็นผลจากการโฆษณาเรื่องโสเภณีเด็กไทยในต่างประเทศมีมากขึ้น ทาให้ชาวต่างชาติต้องการมาเที่ยว ทำให้มีความพยายามหาเด็กมาให้เพียงพอต่อความต้องการของนักท่องเที่ยว ที่สำคัญ...ความเชื่อของผู้ชายบางกลุ่มที่ว่า หากได้นอนกับเด็กสาว จะทำให้อายุยืนยาวหรือมีสมรรถภาพทางเพศมากขึ้น"สอดคล้องกับความเห็นของ สรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผู้อานวยการศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก ที่ว่า เมื่อธุรกิจค้ากามขยายตัวมากขึ้น ผู้ซื้อก็มีแนวโน้มที่จะมองหาความแปลกใหม่และวิตถาร (ความบันเทิง) มากขึ้น จึงเป็นเหตุให้เกิด...โสเภณีเด็ก

สวนทางกับการค้าประเวณีของเด็กสาวในอดีตจะเริ่มต้นจากความจำเป็นหรือจำใจ ไม่ว่าจะด้วยการตกเขียว การถูกล่อลวง ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ภาวะบีบคั้น แต่ปัจจุบัน ท่ามกลางการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และการสื่อสารที่เปิดกว้าง

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนมีส่วนทั้งผลัก...ดึงดูดให้เด็กสาวก้าวสู่ถนนสายบาปด้วยความเต็มใจมากขึ้น

ความต้องการทางกามารมณ์ กับเรื่องค้าประเวณี มีมาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ คงไม่สามารถกำจัดให้หมดสิ้นไปในได้ ทศวรรษนี้หรือทศวรรษหน้า แต่ปัญหาโสเภณีเด็กจะลดน้อยลงไปได้ หากครอบครัวมีความเข้มแข็งและดูแลบุตรหลานให้เกิดความอบอุ่น เชื่อว่า ถนนค้าน้ำกามเด็ก ด้วยความสมัครใจก็คงจะลดน้อยลงไปจากสังคมไทย..................
กำลังโหลดความคิดเห็น