รอง ผบช.น.รับผิดชอบงานด้านการจราจร สั่งตรวจสอบคุณสมบัติลูกอมสลายแอลกอฮอล์ ภายหลังมีกระแสข่าวว่าช่วยให้สิงห์ขี้เมารอดจากการถูกเป่า “เมาแล้วขับ” ได้ ชี้ยังไม่มีรายงานจากตำรวจจราจร เผยเครื่องมือตรวจวัดของ ตร.คุณภาพที่ผ่านมามีความเชื่อหลากหลายวิธีแต่ไม่เคยรอดสักราย!
จากกรณีกระแสข่าวมีผลิตภัณฑ์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นลูกอมชื่อ “คิสลิพ” โดยผู้ผลิตระบุว่าสามารถช่วยบำรุงสุขภาพ และสามารถลดหรือสลายปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายได้ โดยเจ้าของบริษัทผู้ผลิตลูกอมดังกล่าวได้ออกมาชี้แจงว่าลูกอมคิสลิพผ่านการตรวจสอบจากแพทย์และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา (อย.) พร้อมกับแนะนำไม่ให้อมลูกอมเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจเป่าแอลกอฮอล์ เพราะการดื่มสุราแล้วขับรถเป็นสิ่งผิดกฎหมายและอันตรายถึงชีวิต แม้ว่าลูกอมจะช่วยสลายปริมาณแอลกอฮอล์ได้ก็จริง แต่ให้อมเพื่อเป็นอาหารเสริมและบำรุงร่างกายนั้น
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผบช.น. รับผิดชอบงานด้านการจราจร เปิดเผยว่า อุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในด่านตรวจต่างๆ ได้รับการรับรองทางวิทยาศาสตร์แล้วว่าได้มาตรฐานและมีค่าความเที่ยงตรงสำหรับการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ดังนั้น ในเรื่องที่บริษัทผลิตลูกอมออกมาโฆษณาว่าหากอมลูกอมดังกล่าว 1-2 เม็ดจะช่วยลดปริมาณแอลกอฮอล์ได้ ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร.ประสานงานกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์กรที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดก่อน แต่การปฏิบัติตัวของผู้ที่ดื่มสุราแล้วขับขี่รถนั้นมีการทำกันหลากหลายวิธี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรพบมาเกือบทุกรูปแบบแล้ว บางคนพยายามถ่วงเวลาและดื่มน้ำ บางคนพยายามเคี้ยวหมากฝรั่ง กินนมเปรี้ยว หรือแม้กระทั่งใช้น้ำยาบ้วนปาก แต่ก็วัดค่าที่ออกมาไม่ผ่าน ส่วนเรื่องการโฆษณาของบริษัทที่ผลิตลูกอมดังกล่าวนั้นตนไม่อยากไปก้าวล่วง แต่ยืนยันว่าเครื่องมือที่ตำรวจใช้อยู่มีมาตรฐานเพียงพอ แต่ถ้าให้แนะนำควรหลีกเลี่ยงในการดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมากจะดีที่สุด เพื่อความปลอดภัย
เมื่อถามว่าจะมีการตักเตือนหรือไม่ที่บริษัทผู้ผลิตใช้การทำงานของตำรวจเป็นเครื่องมือในการโฆษณาสินค้า พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคนละส่วนกัน บางครั้งการโฆษณามันเกินเลยไปหรือเปล่านั้นต้องมาตรวจสอบกัน แต่ตนอยู่ในส่วนของผู้ปฏิบัติจะดูว่าสิ่งที่มีโฆษณากระทบต่ออุปกรณ์การทำงานของตำรวจหรือไม่ แม้ว่าผู้ผลิตจะยืนยันว่าลูกอมดังกล่าวได้รับการตรวจสอบจากแพทย์และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องแล้ว ทางตำรวจยังยืนยันในอุปกรณ์การตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ บางเครื่องอาจจะดูเหมือนว่าการอมยาอมแล้วทำให้กลิ่นแอลกอฮอล์ไม่มี แต่จริงๆ ปริมาณการตรวจยังสามารถตรวจสอบได้อยู่
พล.ต.ต.วรศักดิ์กล่าวอีกว่า ทราบว่าลูกอมดังกล่าวยังไม่ได้เริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทย จึงยังไม่ได้รับรายงานจากตำรวจจราจรว่าลูกอมดังกล่าวส่งผลต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรหรือไม่ แม้ว่าจะเป็นกรณีการใช้วิธีหลีกเลี่ยงอื่นๆ ตามที่เคยกล่าวไปแล้วนั้น ทุกโรงพักยังยืนยันว่ายังไม่มีผลกระทบ เพียงแต่ทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงหาทางแก้ตัว เป่าครั้งแรกไม่ผ่านขอนั่งพักครึ่งชั่วโมง กินน้ำใหม่มาตรวจใหม่ แต่ไม่ผ่านเหมือนเดิม ทั้งนี้ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบก.จร.ลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว และหากส่งผลต่อการทำงานของตำรวจจราจรจริงก็ให้รายงานเข้ามา