xs
xsm
sm
md
lg

ตร.ค้นที่ทำงานนักวิชาการติดสติกเกอร์ จมตีป้ายหาเสียงพรรคเพื่อไทย

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ตำรวจนำตัวมาแถลงข่าว
ตำรวจสืบสวน สน.พหลโยธิน รุดตรวจหาหลักฐานเพิ่มเติมที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ สถานที่ทำงานนักวิชาการที่ถูกจับได้เมื่อคืนขณะติดสติกเกอร์โจมตีผู้สมัครผู้ว่าฯ พรรคเพื่อไทย ก่อนผู้ต้องหาจะใช้ตำแหน่งประกันตัวออกไป

วันนี้ (21 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สน.พหลโยธิน พ.ต.อ.เจริญ ศรีศศลักษณ์ รอง ผบก.น.2 ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดี นายหทัยวุฒิ สายทอง อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 189/170หมุ่ 9 ต.หนองจ๊อม อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ นักวิชาการศึกษา 5 สำนักงานเขตพื้นที่ (สพท.) กรุงเทพมหานคร เขต 2 ผู้ต้องหาติดป้ายสติกเกอร์แปะทับป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.หมายเลข 9 ซึ่งมีข้อความกล่าวหาโจมตีผู้สมัครฯ พร้อมด้วยของกลางแผ่นสติกเกอร์มีข้อความ “เผาบ้านเผาเมือง” ขนาดใหญ่จำนวน 6 แผ่น แผ่นสติกเกอร์มีข้อความ “เผาบ้าน เผาเมือง” ขนาดเล็กจำนวน 27 แผ่น แผ่นสติกเกอร์มีข้อความ “เราไม่เลือกผู้ว่าฯ สร้างภาพ” จำนวน 18 แผ่น ภาพถ่าย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีข้อความ “ทักษิณติดคุก” จำนวน 6 แผ่น และกระเป๋าสะพายสีดำ 1 ใบ สามารถจับกุมได้ขณะที่ผู้ต้องหากำลังติดป้ายสติ๊กเกอร์อยู่บริเวณปากซอยลาดพร้าว 45 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร เมื่อเวลา 20.00 น.ของวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมา โดย พ.ต.อ.เจริญ และ พ.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผกก.สน.พหลโยธิน ร่วมทำการสอบปากคำนายหทัยวุฒิ โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที

พ.ต.อ.เจริญเปิดเผยภายหลังการสอบสวนว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ติดสติกเกอร์ดังกล่าวจริง โดยนายหทัยวุฒิเป็นผู้จัดทำสติกเกอร์ด้วยตัวเอง และลงมือทำสติกเกอร์เพียงคนเดยว จะตระเวนติดตามป้ายหาเสียงของผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามพรรคเพื่อไทย ย่านรัชดา-ลาดพร้าว จะอาศัยช่วงเวลาหลังเลิกงาน ส่วนสาเหตุที่ทำเนื่องจากไม่ชอบพรรคเพื่อไทยเป็นการส่วนตัว แต่ไม่เกี่ยวกับตัวผู้สมัคร พร้อมทั้งยืนยันว่าไม่เคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มการเมืองต่างๆ

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้นำกำลังเข้าตรวจค้นที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ ซ.ลาดพร้าว 48 ซึ่งเป็นที่ทำงานของผู้ต้องหา จากการตรวจค้นพบหลักฐานเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ พรินเตอร์ ที่ใช้ทำสติกเกอร์ดังกล่าว และอุปกรณ์บันทึกข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (แฟลชไดรฟ์) จำนวน 2 อัน ที่เก็บภาพไฟล์ต้นฉบับสติกเกอร์ของกลางเอาไว้ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาผู้ใดกระทำการใส่ร้ายหรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด หรือจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนะเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนหรือผู้สมัครอื่น หรือให้งดเว้นการลงคะแนะเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครใด อันเป็นความผิตาม พ.ร.บ.เลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2545 มาตรา 57 (5) ซึ่งมีโทษจำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท

พ.ต.อ.เจริญกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในเชิงลึกว่า พฤติกรรมของผู้ต้องหามีการเชื่อมโยงเกี่ยวกับพรรคการเมืองหรือไม่ รวมถึงช่วงโค้งสุดท้ายของการเลือกตั้ง และยังสั่งการให้สายตรวจเพิ่มความเข้มข้น ในการออกตรวจตราพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังในการทำลายป้ายหาเสียงของทุกพรรคการเมืองอีกด้วย

รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนี้เมื่อคืนที่ผ่านมาหลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัวนายหทัยวุฒิได้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางมาที่ สน.พหลโยธิน เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหาด้วยตัวเอง โดยวันนี้หลังจากทำการสอบปากคำเสร็จสิ้นแล้ว นายหทัยวุฒิได้ใช้ตำแหน่งหน้าที่การงานของตัวเองประกันตัวออกไป ต่อจากนี้เจ้าหน้าที่ สน.พหลโยธิน จะรายงานไปยัง กกต.ทราบเรื่องดังกล่าวเพื่อดำเนินการต่อไป
ผู้รต้องหาชี้ป้ายหาเสียงของ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.จากพรรคเพื่อไทย ที่ไปติดสติ๊กเกอร์โจมตีจนมาถูกตำรวจจับได้
กำลังโหลดความคิดเห็น