xs
xsm
sm
md
lg

คุก 18 ปี แท็กซี่หื่นบุกห้องข่มขืน อ้างเป็น ตร.ค้นยาเสพติด!

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

ภาพประกอบ
จำคุก 18 ปี 2 เดือน โชเฟอร์แท็กซี่แอบอ้างเป็นตำรวจพกปืน-วิทยุสื่อสาร บุกห้องข่มขืนสาวแม่ลูกอ่อนพนักงานบริษัทย่านบึงกุ่ม ขู่มาตรวจค้นยาเสพติด ศาลชี้ผู้เสียหายเบิกความยืนยันและจดใจใบหน้าจำเลยได้อย่างแม่นยำ

ที่ห้องพิจารณา 804 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก วันนี้ (21 ก.พ.) ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ฟ้องนายพินิจ สังข์ทอง อายุ 42 ปี อาชีพขับรถแท็กซี่ อยู่บ้านเลขที่ 4/8 ซ.สันติสุขแขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. เป็นจำเลยในความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย และมีหรือใช้อาวุธโดยแสดงตนเป็นเจ้าพนักงาน, บุกรุกเคหสถาน และ พ.ร.บ.อาวุธปืน

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2549 เวลากลางวัน จำเลยได้บุกรุกเข้าไปในห้องพักคนงานของบริษัท เจนิช แปลน จำกัด ซอยนวมินทร์ 74 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กทม.ขณะที่ น.ส.ก้อย (นามสมมติ) ผู้เสียหายขณะอยู่กับบุตรชายวัย 2 เดือนเศษตามลำพัง โดยจำเลยอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะขอค้นหายาเสพติดในห้องพักตามที่รับแจ้ง พร้อมกับเปิดชายเสื้อให้ผู้เสียหายเห็นอาวุธปืนไม่ทราบยี่ห้อและขนาดซึ่งเหน็บอยู่ที่เอว และวิทยุสื่อสาร จนผู้เสียหายเกิดความกลัว จากนั้นจำเลยได้ใช้กำลังข่มขืนผู้เสียหายจนสำเร็จความใคร่ และข่มขู่ว่าหากนำเรื่องที่เกิดขึ้นไปบอกผู้อื่น จะนำยาเสพติดมายัดและจับกุมดำเนินคดี ก่อนหลบหนีไป ต่อมาผู้เสียหายจึงได้แจ้งให้สามี มารดา และหัวหน้างานทราบ ก่อนเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม ติดตามจับกุมจำเลยได้ตามหมายจับของศาลอาญา

จำเลยให้การปฏิเสธอ้างว่า ขณะเกิดเหตุรับผู้โดยสารอยู่ที่ย่านธนบุรี และคอยดูแลมารดาสูงวัย และภรรยาใกล้คลอด ไม่มีส่วนรู้เห็นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่าผู้เสียหายเป็นประจักษ์พยาน เบิกความยืนยันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยละเอียดเป็นลำดับขั้นตอน ทั้งยังสามารถจดจำใบหน้าจำเลยได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากอยู่ระยะใกล้และเป็นเวลานานพอสมควร อีกทั้งไม่ปรากฏว่าผู้เสียหายเคยมีสาเหตุโกรธแค้นที่จะปรักปรำจำเลยให้ต้องรับโทษ ทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสำคัญ หากไม่เป็นความจริงย่อมสร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายอย่างยิ่ง เชื่อว่าผู้เสียหายเบิกความไปตามจริง ส่วนข้อต่อสู้จำเลยเป็นข้ออ้างลอยๆ ไม่มีน้ำหนักมาหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ ข้อเท็จจริงจึงรับฟังได้ว่าจำเลยกระทำผิดตามฟ้องจริง

พิพากษาว่าจำเลยกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145, 276, 365 และ พ.ร.บ.อาวุธปืน เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันให้ลงโทษทุกกรรม ฐานข่มขืนกระทำชำเราฯ จำคุก 15 ปี, ฐานบุกรุกเคหสถาน จำคุก 2 ปี, ฐานมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองฯ จำคุก 8 เดือน และฐานพกพาอาวุธปืนไปตามทางสาธารณะ หรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร จำคุก 6 เดือน รวมจำคุกจำเลย 18 ปี 2 เดือน
กำลังโหลดความคิดเห็น