xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งจับอดีต พนง.บริษัทสัมปทานวิ่งรถสุวรรณภูมิหลอกขายรถ

เผยแพร่:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม

กลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้ซื้อรถ
เจ้าของร้านเต็นท์รถมือสองพร้อมผู้เสียหายกว่า 30 รายร้องกองปราบฯ แจ้งจับตัวแทนบริษัทที่อ้างว่าได้รับสัมปทานการท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้นำรถยนต์มาวิ่งบริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าความเสียหาย 16 ล้าน



วันนี้ (18 ก.พ.) ที่กองปราบปราม นายมงคล ศักดิ์พงศ์พึ่งตน อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167/62 หมู่ 1 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี อาชีพเปิดเต็นท์รถมือสอง ประกาศขายผ่านเว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต พร้อมด้วยกลุ่มผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงให้ซื้อรถ รวม 33 คัน คันละ 5-8 แสนบาท รวมมูลความเสียหายไม่ต่ำกว่า 16 ล้านบาท เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณัฐ พรหมเทพ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป.เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายพีระพล เสนสุวรรณ ในความผิดฐานฉ้อโกง หลังจากทำสัญญาซื้อขายรถกับนายพีระพล แต่ภายหลังกลับถูกยึดรถไป

นายมงคลกล่าวว่า เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2554 นายพีระพลอ้างตัวว่าเป็นพนักงานบริษัท สยามคาร์เร้นท์ จำกัด บริษัทที่ได้รับสัมปทานจากบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ให้นำรถยนต์มาวิ่งบริการภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และจะมีการนำรถยนต์ที่ปลดระวางมาจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจซื้อ จึงติดต่อซื้อรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น รวม 8 คัน และรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ อีก 1 คัน รวมเป็นเงิน 4.8 ล้านบาท โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารของนายพีระพล จากนั้นก็นำรถที่ซื้อทั้งหมดมาใช้และเตรียมขายให้ลูกค้า ระหว่างนั้นนายพีระพลอ้างว่าต้องรอเล่มทะเบียนรถก่อน โดยจะติดต่อให้มารับภายในระยะเวลา 3 เดือน แต่เมื่อถึงเวลากลับไม่ได้รับ

นายมงคลกล่าวต่อว่า จากนั้นนายพีระพลบอกให้ตนนำรถมาตรวจสอบสภาพก่อนจะส่งมอบเล่มทะเบียน แต่พอนำรถมาแล้วกลับถูกบริษัท สยามคาร์เร้นท์ จำกัด ยึดไป โดยทางบริษัทอ้างว่าได้แจ้งความอายัดรถไว้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมกับระบุว่าไม่รับรู้เกี่ยวกับการซื้อขายรถที่เกิดขึ้น ส่วนนายพีระพลก็ได้พ้นสภาพการเป็นพนักงานบริษัทไปแล้ว

ขณะที่นายมานพ ทรัพย์เสนาะ อายุ 36 ปี เจ้าของเต็นท์รถ “นพ ออโต้” หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้ทำสัญญาซื้อรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ และรถกระบะยี่ห้ออีซูซุ มิวเซเว่น รวมเป็นเงิน 1.1 ล้านบาทกับนายพีระพล ซึ่งก่อนจะทำสัญญาได้ขอดูเอกสารหนังสือรับมอบอำนาจ ซึ่งนายพีระพล ก็มีมาแสดงว่าเป็นพนักงานบริษัท สยามคาร์เร้นท์ จำกัด จริง จึงหลงเชื่อจ่ายเงินมัดจำและแคชเชียร์เช็ค แต่พอรับรถไปก็ถูกนายพีระพลอ้างให้มารับเล่มทะเบียนภายหลัง ก่อนจะถูกบริษัทแห่งนี้ยึดรถไป

นายมานพกล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้ได้พบกลุ่มผู้เสียหายและได้พากันไปแจ้งความที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ แต่ทางตำรวจไม่รับแจ้ง พร้อมกันนั้นทางทนายความของบริษัท สยามคาร์เร้นท์ จำกัด ก็ติดต่อมาว่าจะแจ้งความดำเนินคดีกับพวกตนในความผิดฐานรับของโจร โดยอ้างว่าการซื้อขายที่เกิดขึ้นระหว่างตนกับนายพีระพลไม่ถูกต้อง อีกทั้งราคารถก็ถูกกว่าราคาท้องตลาดมาก ซึ่งผิดวิสัย เป็นสิ่งที่พวกตนต้องทราบดีอยู่แล้ว แต่ตนยืนยันว่าได้ติดต่อซื้อขายและมีการโอนเงินให้ถูกต้องตามขั้นตอน เนื่องจากนายพีระพลแสดงตัวและมีเอกสารระบุว่าเป็นพนักงานของบริษัทฯ จริง หากถูกพิจารณาคดีก็คงต้องต่อสู้

“ก่อนหน้านี้ผมเคยติดต่อซื้อรถกับนายพีระพล ซึ่งก็ไม่มีปัญหาใดๆ จนเกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ และกรณีกับทางบริษัท สยามคาร์เร้นท์ จำกัด ก็เป็นไปได้ว่า นายพีระพล อาจไม่ได้แจ้งข้อมูลการขายรถรวมทั้งนำส่งเงินที่มีการทำสัญญาซื้อขายกับพวกผมแจ้งกับบริษัททราบ จึงเกิดปัญหาขึ้นดังกล่าว” นายมานพกล่าว

ด้าน พ.ต.ท.ณัฐกล่าวว่า ได้รับเรื่องและสอบปากคำผู้เสียหายไว้ ก่อนจะนำเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป ส่วนความผิดที่เกิดขึ้นนั้น ในเบื้องต้นน่าจะเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง
กำลังโหลดความคิดเห็น