จับอดีต 2 คนใช้ผัวเมียสุดแสบ วางยานอนหลับชิงทรัพย์พี่ชาย “จองชัย เที่ยวธรรม” ร่วม 3 ล้าน ก่อนลาออกเอาเงินไปปลูกบ้านซื้อรถขับ แต่ยังปากแข็งอ้างเปล่าขโมย แต่ตอบไม่ได้ว่าเอาเงินจากไหนมาซื้อบ้าน-รถ
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 20.00 น. ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 7 (บก.น.7) พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สส.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.ท.กฤติเดช จันทร์เพชร สว.สส.น.7 ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมนายโสภณ ปานศักดิ์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/63 ม.6 ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และนางยุภา ตรุษกุล อายุ 53 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.1 ต.หนองกุม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์ โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านไม่มีเลขที่ หมู่บ้านจันเด ต.สหกรณ์นิคม อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 2 รายซึ่งเป็นสามีภรรยากัน เมื่อช่วงต้นปี 2552 ได้เข้ามาเป็นคนรับใช้ในบ้านเลขที่ 549/150 ซ.จรัญสนิทวงศ์ 37 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. ของนายจองทรัพย์ เที่ยงธรรม อดีตผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา และเป็นพี่ชายของนายจองชัย เที่ยงธรรม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม โดยทำหน้าที่ขับรถและดูแลความสะอาดบ้าน จนนายจองทรัพย์เกิดความไว้วางใจ ผู้ต้องหาจึงได้วางแผนวางยานอนหลับก่อนขโมยทรัพย์สินต่างๆ ภายในบ้าน เช่น เครื่องเพชร ทองรูปพรรณ เงินสด พระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท โดยไม่ให้นายจองทรัพย์ทราบ
พ.ต.อ.เมธีกล่าวต่อไปว่า ต่อมานายจองทรัพย์เกิดความสงสัยว่าเหตุใดทรัพย์สินหลายอย่างหายไปจึงได้สอบถามบรรดาคนใช้ ซึ่งทุกคนต่างปฏิเสธว่าไม่รู้ไม่เห็น กระทั่้งเมื่อเดือน ก.พ. 2554 ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้ลาออกไป นายจองทรัพย์จึงได้เข้าแจ้งความต่อตำรวจ ขณะที่ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.7 ได้ออกสืบสวนติดตามจนทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คนได้นำทรัพย์สินที่ได้ไปขาย และนำเงินสดไปซื้อที่ดินและปลูกบ้านชั้นเดียวอยู่ที่ อ.ทองผาภูมิ และซื้อรถจี๊ป เจ้าหน้าที่จึงนำหมายศาลเข้าแสดงพร้อมจับกุมตัวมาสอบสวนที่ บก.น.7
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยทำงานเป็นคนรับใช้ภายในบ้านของนายจองทรัพย์จริง โดยอ้างว่าไม่ได้ขโมยทรัพย์สินไป แต่เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามถึงบ้านที่ปลูกไว้ และรถจี๊ปว่านำเงินจากไหนมาซื้อ ทั้งคู่กลับไม่สามารถระบุถึงแหล่งที่มาของเงินได้ ขณะที่เรื่องการวางยาก็ให้การปฎิเสธว่าไม่ได้เป็นผู้ลงมือวางยา แต่ยอมรับว่าได้ให้นายจองทรัพย์กินยานอนหลับธรรมดา อย่างไรก็ตาม ตำรวจไม่ปักเชื่อเพราะผู้ต้องหาทั้งคู่ให้การขัดแย้งกันเอง ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่มีหลักฐานแน่นหนา จึงแจ้งข้อหาชิงทรัพย์พร้อมกับส่งตัวผู้ต้องหาไปที่ สน.บางขุนนนท์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
