รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงกรณีมีภาพชายแต่งกายลักษณะคล้ายตำรวจจราจร กำลังถูกคนขับรถเก๋งต่อว่าหลังจากออกใบสั่ง เนื่องจากไปจอดทับเส้นทางจักรยานย่านชายทะเลบางขุนเทียน ที่ปรากฏบนโซเชียลเน็ตเวิร์กนั้น ได้สั่งให้สารวัตร สน.เทียนทะเล ตรวจสอบแล้ว ชมรมนักปั่นจักรยานออกมาโต้เป็นตำรวจจราจรน้ำดี ซื่อตรงทำตามหน้าที่ จนถูกกลั่นแกล้งร้องเรียน เนื่องจากไปออกใบสั่งคนขับรถยนต์ที่นำรถมาจอดทับทางจักรยาน
จากกรณีมีภาพชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ยืนถ่ายภาพคู่กับรถจักรยานปั่น ที่ปรากฏในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งมีข้อความระบุว่า “เห็นว่าตำรวจจักรยาน สน.เทียนทะเล ที่เขียนใบสั่งให้รถยนต์ที่จอดทับทางจักรยานย่านบางขุนเทียน-ชายทะเล กำลังถูกร้องเรียนจากร้านค้าย่านนั้น (ลูกค้าจอด)” โดยขณะนี้ได้มีคนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น โดยให้กำลังใจ และกดแชร์กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะให้กำลังใจตำรวจนายนี้ และมองว่า อาจจะถูกกลั่นแกล้งจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาด้าน
วันนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้สอบถามไปยัง สารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ให้ตรวจสอบแล้วโดยเบื้องต้น ชี้แจง อ้างว่า ตำรวจจราจร สน.เทียนทะเล ที่ปรากฏตามภาพ คือ รหัสเทียนทะเล 609 ซึ่งปกติจะชอบขี่จักรยานในการใช้ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบถึงแม้ว่าทางโรงพักจะมีรถให้ใช้ แต่เจ้าหน้าที่นายนี้ก็ไม่ใช้รถจักรยานยนต์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องการร้องเรียนนั้นก็ไม่เป็นความจริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนก็ได้สั่งการให้ไปสอบถามความสมัครใจให้แน่ชัดหากต้องการขี่จักรยานจริงๆ ก็ให้จัดหาให้ใหม่อย่าต้องให้เป็นที่โจษขานของสังคม ส่วนเรื่องการร้องเรียนนั้นก็ให้มีการตรวจสอบการทำงานและชี้แจงเข้ามาที่ตนอีกครั้ง
ร.ต.ต.วิชัย จิตสัจจะพงศ์ รอง สว.จร.สน.เทียนทะเล (ตำรวจนักปั่นจักรยาน) ออกมาเปิดเผย หลังถูกบรรดาเจ้าของร้านค้าในพื้นที่ ย่านชายทะเลบางขุนเทียน ร้องเรียนถึงการ ออกใบสั่งให้กับลูกค้าของร้านค้าย่านดังกล่าวที่นำรถมาจอดทับที่ของรถจักรยานปั่น จนทำให้ชมรมนักปั่นรถจักรยานฯ นำเรื่องไปลงเฟซบุ๊ก เพื่อให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้เป็นจำนวนมาก และนำกลุ่มไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชา อีกด้วย
โดย ร.ต.ต.วิชัย รหัสเทียนทะเล 609 กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาการร้องเรียน ตามที่เป็นข่าว ว่าตนเขียนใบสั่งกลั่นแกล้งนั้น ตนขอชี้แจงว่า ในช่วงแรกๆ ตนได้พยายามตักเตือนผู้ใช้รถที่นำรถมาจอดทับรถจักรยานปั่น ให้เคลื่อนย้ายรถออกไป ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือบ้าง เป็นเวลานานกว่าร่วมปี แต่บางส่วนกลับไม่พอใจ ยังฝ่าฝืน จนเมื่อปี 2553 ตนจึงเริ่มเขียนใบสั่ง ถือเป็นมาตรการเด็ดขาด เพื่อให้หลาบจำ แต่กลับทำให้กลุ่มห้างร้านไม่พอใจ อ้างว่า รู้จักกับนายๆ และเคยช่วยเหลือโรงพัก แต่ตนจำเป็นต้องปฏิบัติ เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า
นอกจากนี้ ร.ต.ต.วิชัย ยังกล่าวอีกว่า เคยถูกผู้บังคับบัญชาระดับสารวัตร เรียกไปตำหนิเรื่องการเขียนใบสั่ง ทำให้ตนรู้สึกท้อบ้าง แต่ตนก็จะเดินหน้าปฏิบัติต่อไป โดยไม่เกรงกลัว หากจะถูกให้ต้องออกจากราชการ พร้อมระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ปั่นรถจักรยานออกมาใช้เส้นทางมากขึ้น แต่ต้องเดือดร้อนเพราะถูกรถจอดทับ ซึ่งตนจะทำงานเพื่อประชาชน และยืนยันจะปั่นรถจักรยานต่อไปจนกว่าจะเกษียณเพื่อช่วยลดมลภาวะ อย่างไรก็ตาม ร.ต.ต.วิชัย กล่าวปิดท้ายว่า ส่วนตัวไม่ได้ต้องการรางวัลตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ เพียงแต่ต้องการกำลังใจจากประชาชนให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
สำหรับประวัติ ของ ร.ต.ต.วิชัย นั้น ปัจจุบัน อายุ 57 ปี เข้ารับราชการตำรวจตั้งแต่ปี 2519 และทำงานด้านการจราจร พื้นที่ สน.เทียนทะเล ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา จนกระทั่งปี 2550 เริ่มมีการปรับปรุงถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จนแล้วเสร็จเมื่อปี 2551 จึงได้นำรถจักรยานปั่นส่วนตัวออกมาใช้ปฏิบัติออกตรวจพื้นที่ และอำนวยความสะดวกด้านจราจร ถึงแม้ว่าจะมีรถจักรยานยนต์ของโรงพัก ต่อมามีกลุ่มนักปั่นจักรยานเสือภูเขา ทั้งนอกพื้นที่ และ ตจว.มาเห็นรถจักรยานของตนในสภาพเก่า จึงได้รวบรวมทุนทรัพย์มาซื้อรถใหม่ และมามอบให้
จากกรณีมีภาพชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ยืนถ่ายภาพคู่กับรถจักรยานปั่น ที่ปรากฏในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ซึ่งมีข้อความระบุว่า “เห็นว่าตำรวจจักรยาน สน.เทียนทะเล ที่เขียนใบสั่งให้รถยนต์ที่จอดทับทางจักรยานย่านบางขุนเทียน-ชายทะเล กำลังถูกร้องเรียนจากร้านค้าย่านนั้น (ลูกค้าจอด)” โดยขณะนี้ได้มีคนเข้าไปร่วมแสดงความคิดเห็น โดยให้กำลังใจ และกดแชร์กว่า 100 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะให้กำลังใจตำรวจนายนี้ และมองว่า อาจจะถูกกลั่นแกล้งจากการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตรงไปตรงมาด้าน
วันนี้ (31 ม.ค.) พล.ต.ต.วรศักดิ์ นพสิทธิพร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวได้สอบถามไปยัง สารวัตรจราจร สน.เทียนทะเล ให้ตรวจสอบแล้วโดยเบื้องต้น ชี้แจง อ้างว่า ตำรวจจราจร สน.เทียนทะเล ที่ปรากฏตามภาพ คือ รหัสเทียนทะเล 609 ซึ่งปกติจะชอบขี่จักรยานในการใช้ออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่รับผิดชอบถึงแม้ว่าทางโรงพักจะมีรถให้ใช้ แต่เจ้าหน้าที่นายนี้ก็ไม่ใช้รถจักรยานยนต์แต่อย่างใด ส่วนเรื่องการร้องเรียนนั้นก็ไม่เป็นความจริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตนก็ได้สั่งการให้ไปสอบถามความสมัครใจให้แน่ชัดหากต้องการขี่จักรยานจริงๆ ก็ให้จัดหาให้ใหม่อย่าต้องให้เป็นที่โจษขานของสังคม ส่วนเรื่องการร้องเรียนนั้นก็ให้มีการตรวจสอบการทำงานและชี้แจงเข้ามาที่ตนอีกครั้ง
ร.ต.ต.วิชัย จิตสัจจะพงศ์ รอง สว.จร.สน.เทียนทะเล (ตำรวจนักปั่นจักรยาน) ออกมาเปิดเผย หลังถูกบรรดาเจ้าของร้านค้าในพื้นที่ ย่านชายทะเลบางขุนเทียน ร้องเรียนถึงการ ออกใบสั่งให้กับลูกค้าของร้านค้าย่านดังกล่าวที่นำรถมาจอดทับที่ของรถจักรยานปั่น จนทำให้ชมรมนักปั่นรถจักรยานฯ นำเรื่องไปลงเฟซบุ๊ก เพื่อให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้เป็นจำนวนมาก และนำกลุ่มไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับผู้บังคับบัญชา อีกด้วย
โดย ร.ต.ต.วิชัย รหัสเทียนทะเล 609 กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาการร้องเรียน ตามที่เป็นข่าว ว่าตนเขียนใบสั่งกลั่นแกล้งนั้น ตนขอชี้แจงว่า ในช่วงแรกๆ ตนได้พยายามตักเตือนผู้ใช้รถที่นำรถมาจอดทับรถจักรยานปั่น ให้เคลื่อนย้ายรถออกไป ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือบ้าง เป็นเวลานานกว่าร่วมปี แต่บางส่วนกลับไม่พอใจ ยังฝ่าฝืน จนเมื่อปี 2553 ตนจึงเริ่มเขียนใบสั่ง ถือเป็นมาตรการเด็ดขาด เพื่อให้หลาบจำ แต่กลับทำให้กลุ่มห้างร้านไม่พอใจ อ้างว่า รู้จักกับนายๆ และเคยช่วยเหลือโรงพัก แต่ตนจำเป็นต้องปฏิบัติ เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า
นอกจากนี้ ร.ต.ต.วิชัย ยังกล่าวอีกว่า เคยถูกผู้บังคับบัญชาระดับสารวัตร เรียกไปตำหนิเรื่องการเขียนใบสั่ง ทำให้ตนรู้สึกท้อบ้าง แต่ตนก็จะเดินหน้าปฏิบัติต่อไป โดยไม่เกรงกลัว หากจะถูกให้ต้องออกจากราชการ พร้อมระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ปั่นรถจักรยานออกมาใช้เส้นทางมากขึ้น แต่ต้องเดือดร้อนเพราะถูกรถจอดทับ ซึ่งตนจะทำงานเพื่อประชาชน และยืนยันจะปั่นรถจักรยานต่อไปจนกว่าจะเกษียณเพื่อช่วยลดมลภาวะ อย่างไรก็ตาม ร.ต.ต.วิชัย กล่าวปิดท้ายว่า ส่วนตัวไม่ได้ต้องการรางวัลตอบแทนในการปฏิบัติหน้าที่ เพียงแต่ต้องการกำลังใจจากประชาชนให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
สำหรับประวัติ ของ ร.ต.ต.วิชัย นั้น ปัจจุบัน อายุ 57 ปี เข้ารับราชการตำรวจตั้งแต่ปี 2519 และทำงานด้านการจราจร พื้นที่ สน.เทียนทะเล ตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา จนกระทั่งปี 2550 เริ่มมีการปรับปรุงถนนบางขุนเทียน-ชายทะเล จนแล้วเสร็จเมื่อปี 2551 จึงได้นำรถจักรยานปั่นส่วนตัวออกมาใช้ปฏิบัติออกตรวจพื้นที่ และอำนวยความสะดวกด้านจราจร ถึงแม้ว่าจะมีรถจักรยานยนต์ของโรงพัก ต่อมามีกลุ่มนักปั่นจักรยานเสือภูเขา ทั้งนอกพื้นที่ และ ตจว.มาเห็นรถจักรยานของตนในสภาพเก่า จึงได้รวบรวมทุนทรัพย์มาซื้อรถใหม่ และมามอบให้